'นายกฯ' รับไปประชุม 'ยูเอ็น' เดือน ก.ย. บอก 'สหรัฐ' ไม่ห้ามเข้าประเทศที่พูดไปแค่แหย่
เมื่อวันที่ 17 มี.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)
แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ถึงกรณีที่นายบัน คี มูน เลขาธิการสหประชาชาติ เชิญไปประชุมสมัชชายูเอ็น ในเดือนก.ย. นี้ ว่า เมื่อมีการเชิญตนก็ตอบรับไป และประเทศสหรัฐอเมริกาก็ไม่ได้ห้ามตนเข้าประเทศอย่างเป็นทางการ หากไม่เข้าใจก็จะมีการพูดถึงตนในเชิงลบอีก และในวันที่เข้าร่วมประชุมระดับโลกวอร์ตัน ครั้งที่ 47 ก็มีคนจากสหรัฐฯนั่งอยู่จำนวนมาก จึงพูดแหย่ ว่า "ห้ามตนไปประเทศเขาใช่หรือไม่ ซึ่งเขาก็หัวเราะ และเมื่อแหย่ต่อว่าเคยห้ามสหรัฐมาค้าขายกับไทยหรือไม่ และได้พูดเปรียบเทียบการแก้ปัญหาที่มีต่างกันของแต่ละประเทศ ว่า ไม่สามารถตัดเสื้อตัวเดียวให้คนทั้งโลกใส่ได้ เขาก็หัวเราะเช่นเดิม" เขารู้ของเขาอยู่ แต่สื่อกลับมาเขียนให้เป็นประเด็นใหญ่โต ศักดิ์ศรีเกียรติยศของเรามีอยู่แล้ว ถ้าไม่มี เขาคงไม่มา จริง ๆ แล้ว เป็นเพียงว่า ต้องมีการตรวจสอบแต่ไม่ถึงกับห้าม 100%
"ที่บางคนบอกว่าเป็นนายกฯ ไม่ควรพูดแหย่ ถ้าอย่างนั้นต่อไปผมจะพูดหน้างอเป็นทางการทุกเรื่อง ชอบกันไหม ผมเป็นปุถุชน ไม่มีอะไรปิดบังพวกท่าน ไม่ต้องสร้างภาพลักษณ์ให้เป็นคนสุภาพมีมาดอะไรมากมาย แต่เวลาผมไปต่างประเทศ เห็นผมพูดเล่นกับใครหรือไม่ มาดผมก็ดีเหมือนกัน" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว พร้อมกับถามผู้สื่อข่าวกลับว่า และการไปทำท่าทางเทห์ๆอย่างนั้นก็เหนื่อย ตนอยากพูดสบายๆ เพราะคนไทยต้องพูดภาษาไทยๆ เวลาไปต่างชาติก็รักษามาดของประเทศ ทำตามหน้าที่ของตน หากอยากได้แบบนั้นก็ไปรอรัฐบาลหน้า
เมื่อถามว่าคำแหย่ ของนายกฯ จะกลายเป็นเหยื่อของนักการเมืองหรือไม่
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ช่างเขา ตนไม่สนใจอยู่แล้ว เขาทำอะไรดีกว่าตนหรือไม่ ไม่เห็นมี พร้อมถามย้อนว่า นักการเมืองเป็นพวกเดียวกับผู้สื่อข่าวหรือ เคยมาไล่เขาเหมือนที่ไล่ตนหรือเปล่า เห็นเขาเดินหนีตลอด ไม่เคยมาตอบคำถาม และไม่เห็นเตือนอะไรเขาได้เลย แต่ทีตนกลับมาไล่บี้กันทุกวัน และตอบสู้ไปทุกวัน เพราะจริงใจไม่จำเป็นต้องมาระมัดระวังและปิดบังกับผู้สื่อข่าว เพราะเป็นคนไทยและรักชาติบ้านเมืองเหมือนตน.