15 มี.ค.58 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชูวิทย์ กมลวิศิษฐ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊คเพจชื่อ “ชูวิทย์ I’m No.5”
ถึงการแสดงสิทธิเสรีภาพทางการเมืองภายใต้กฎอัยการศึก เสมือนการเอาไม้ซีกไปงัดไม้ซุง ไม่มีประโยชน์ เพราะสุดท้ายก็จะถูกดำเนินคดี ถูกเรียกไปปรับทัศนคติ ถึงแม้ว่าที่ผ่านมาเศรษฐกิจไม่ดี เพราะการผิดพลาดจาการบริหารงานของรัฐบาล แต่ทุกอย่างทำได้แค่เฝ้าดู และคิดเพียงว่า หากวันนั้นนักการเมืองทั้งหลายรู้จัก “ประชาธิปไตย” วันนี้ประชาชนคงไม่ต้อง “เปลืองตัว”
ข้อความที่นายชูวิทย์โพสต์ลงเฟซบุ๊ค
ปรับทัศนคติ
ผมเคยถูกเรียกไปรายงานตัวตอนช่วงรัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว จากนั้นมาก็ยังไม่เคยโดนเรียกไปปรับทัศนคติเลยสักครั้ง
ผมรู้ว่าการถูกจำกัดสิทธิเสรีภาพเป็นเรื่องน่าอึดอัด แต่ภายใต้ "กฎอัยการศึก" การจะเอา "ไม้ซีกไปงัดไม้ซุง" ผมเห็นว่าไม่มีประโยชน์อันใด
"น้ำเชี่ยวอย่าเอาเรือไปขวาง" หลายต่อหลายครั้งที่ผมเห็นกลุ่มคนเพียงเล็กน้อย พยายามออกไปต่อสู้ แสดงสัญลักษณ์ ยื่นจดหมายในลักษณะต่อต้าน แสดงความไม่เห็นด้วยกับรัฐประหาร แต่สุดท้ายก็ถูกจับ ไม่ก็ถูกเชิญตัวไปโรงพัก หรือถูกเรียกตัวไปปรับทัศนคติ หลังจากนั้น บุคคลต่างๆเหล่านั้นก็จะเงียบหายไป
ผมคิดว่าสิทธิเสรีภาพเป็นเรื่องสำคัญ เพียงแต่เราจะต้องรอเวลาที่เหมาะสม มันเหมือนการปรุงอาหาร เราจะรู้ว่ามันจืด เค็ม หรือเผ็ดไปก็ต่อเมื่อเราชิม ขณะนี้เรารู้รสชาติแต่ยังไม่ถึงเวลาที่เราจะเอามากินเสียทีเดียว
ถึงแม้คนจะบ่นว่าเศรษฐกิจไม่ดี รัฐบาลบริหารงานบางอย่างผิดพลาด เมื่อวันนี้เราเป็นแค่ไม้ซีก ก็ทำได้แค่พูดและเฝ้าดู หากรัฐประหารครั้งนี้เป็นเหมือนหนังม้วนเก่าที่เคยฉายซ้ำๆในอดีต ประวัติศาสตร์จะบันทึกเอาไว้
เพราะหากวันนั้นนักการเมืองทั้งหลายรู้จัก "ประชาธิปไตย" วันนี้ประชาชนคงไม่ต้อง "เปลืองตัว"