บิ๊กตู่วอนต่างชาติเข้าใจประเทศไทย

'บิ๊กตู่'วอนต่างชาติเข้าใจประเทศไทย บอกทุกประเทศมีปัญหาของตัวเอง เปรียบตัดเสื้อให้คนทั้งโลกใส่ไม่ได้ พร้อมขอต่างชาติช่วยเพิ่มราคาสินค้าเกษตร ย้ำ ไม่ต้องการเป็นนายกฯ แต่หกล้มขาหักต้องเป็น

เมื่อเวลา 09.00 น. ที่ห้องบอลรูม 1-2 โรงแรมแชงกรี-ลา เขตบางรัก

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมระดับโลก วอร์ตัน ครั้งที่ 47 ระหว่างวันที่ 13-14 มี.ค. โดยมีคณาจารย์ และนักวิชาการจากวอร์ตัน สคูล เหล่าศิษย์เก่า รวมทั้งผู้บริหารระดับสูงจากภาครัฐ และเอกชนในภูมิภาค ผู้นำทางธุรกิจ และนักวิชาการชั้นนำของโลก เข้าร่วมอภิปรายเกี่ยวกับอนาคตของเอเชียในหัวข้อ “เอเชียในยุคที่โลกไร้พรมแดน” เพื่อให้สอดรับกับการเปิดตัวประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน และการพัฒนาต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นในภูมิภาคนี้

โดยพล.อ.ประยุทธ์ กล่าวปาฐกถาตอนหนึ่งว่า วันนี้คนไทยมีโอกาส

และเป็นความหวัง รวมถึงเป็นศูนย์กลางของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ยืนยันว่า วันนี้ประเทศไทยไม่ได้ปิดอะไร คนไทยต้องช่วยกันเที่ยวเมืองไทย เพราะคนต่างชาติยังชอบประเทศไทย มีตัวเลขนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น แม้จะอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ แต่มีช่วงที่นักท่องเที่ยวลดลงไปบ้างในตอนที่มีการชุมนุม หรือช่วงประชาธิปไตยเต็มใบ ยืนยันว่า ไม่เคยละเมิดสิทธิมนุษยชน หรือปิดกั้นใครอยู่แล้ว ตอนนี้บ้านเมืองสงบถือเป็นโอกาส ซึ่งหลายประเทศเข้าใจปัญหา แต่มีอีกหลายประเทศที่ไม่เข้าใจ แต่ก็ไม่ใช่ศัตรู วันนี้เราดูแลชาวต่างชาติมากกว่าคนไทยเสียอีก

"วันนี้ เรามีความสัมพันธ์กับหลายประเทศ ขอทุกประเทศอย่ามาโกรธประเทศไทย เพราะผม วันนี้อะไรที่ติดขัดผมก็จะเคลียร์ให้หมด หากมีปัญหาอะไรบอกผม ผมจะเคลียร์ให้ได้ เพราะเพียงแค่ไปประชุมจับมือกัน ไม่มีประโยชน์ แต่ต้องพูดกัน เพราะเราเป็นเพื่อนกัน ไม่เช่นนั้นประเทศเล็กก็จะยอมเขาไปเสียหมด เราต้องมองโลกในภาพรวมด้วย วันนี้เราเดินหน้าทุกอย่างอย่างมั่นคง แต่ต้องไม่ล้มละลาย ซึ่งคนไทยทุกคนมีน้ำใจ มีรอยยิ้ม ผมอาจเป็นคนไทยที่ไม่ดีเท่าไหร่ เพราะยิ้มน้อย พูดจาเสียงดังตามแบบทหาร แต่ที่ทำไปเพราะอยากให้ประเทศเดินหน้าได้" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า ไทยมีความสัมพันธ์กับหลายประเทศ โดยเฉพาะอาเซียนที่จะต้องมีการเดินหน้า

และเปลี่ยนแปลงตามสถานการณ์ ซึ่งมนุษยชาติมีความแตกต่างกัน จึงขอบอกกับสหรัฐฯให้เข้าใจด้วยว่า การตัดเสื้อ จะตัดตัวเดียวแล้วให้ทุกคนใส่ไม่ได้ ต้องมีเสื้อหลายขนาดที่เหมาะกับแต่ละคน จึงต้องมีช่างตัดเสื้อ ไม่ใช่ตัดเสื้อโหล แล้วใส่ได้หมด จะตัดเสื้อตัวเดียวให้คนทั้งโลกใส่ไม่ได้ ซึ่งเหมือนกับแต่ละประเทศมีปัญหาต่างกัน แต่ด้วยความช่วยเหลือจากสหรัฐฯ หรือประเทศตะวันตก จะทำให้ประชาคมโลกดีขึ้น จึงต้องมองในภาพรวมคนทั้งโลกจึงจะมีความสุข ขัดแย้งกันไปก็ไม่มีประโยชน์ ต้องมีเป้าหมายเดียวกัน คือ ความเจริญก้าวหน้า และความมั่นคง ต้องร่วมมือกันทั้งด้านการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม โดยเฉพาะอาเซียนที่มีทั้งอาเซียนบวก 3 และอาเซียนบวก 6 พร้อมยืนยันว่า ตนจะเดินในตลาดพวกนี้ทั้งหมด ถึงแม้ว่าสหรัฐฯ จะไม่ให้ตนไป แต่ตนก็เปิดให้มา เพราะเรามีความสัมพันธ์มากว่า 200 ปี โดยต้องร่วมกันสร้างความแข็งแกร่งทั้งไทย และประเทศเพื่อนบ้าน ตามแนวคิดไทยบวก 1 ที่หากลงทุนในไทย ต้องไปประเทศเพื่อนบ้านด้วย เช่น พม่า ลาว และกัมพูชาเพื่อนรัก

"ขณะนี้ประเทศไทยกำลังถูกจับตามองจาก ทั่วโลก ว่าจะล้มเหลวหรือดีขึ้น แต่ผมคิดว่าต้องดีขึ้นอยู่แล้ว ซึ่งประเทศไทยไม่เหมือนประเทศอื่น เพราะมีความหลากหลาย และทุกชาติต้องมีความภูมิใจในตัวเอง วันนี้เราต้องอยู่กับปัจจุบัน เตรียมอนาคต เพราะทุกอย่างจะเกิดขึ้นในรัฐบาลหน้าทั้งสิ้น ก็ต้องเลือกกันมาให้ดี ๆ วันนี้ผมยังถูกต่อว่าอยู่เลย หาว่าประเทศไทยเป็นแบบอย่างที่ไม่ดีของการปกครองในโลก ผมไม่เข้าใจ ทุกประเทศกำลังจับตามองเราอยู่ว่า ประเทศไทยจะไปอย่างไร และแปลกใจว่า ทำไมคนไทยไม่มีปัญหา และมองว่า คนไทยอีกส่วนหนึ่งยังไม่อยากไปเป็นประชาธิปไตย เขาก็เลยแปลกใจอยู่ เราบอกเขาว่า ประเทศไทยไม่เหมือนคนอื่น " พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้เราต้องนำไปสู่การปฏิบัติให้ประชาชนเข้าใจ ต้องปรับการประชาสัมพันธ์ พูดส่งเสริมในเรื่องที่ดี

และตนก็ต้องระวังในเรื่องการพูดด้วย เพราะพูดอะไรออกไปก็อาจมีคนนำไปจับประเด็นจนทำให้เข้าใจผิดได้ วันนี้ขอให้ทำความเข้าใจกับต่างชาติ แต่เรื่องการเมืองก็อย่าพูดถ้าเขาไม่ถาม ยืนยันเราเดินหน้าตามโรดแม็พอยู่แล้ว

"วันนี้พูดอะไรก็ระวัง พวกนักข่าวข้างหลังด้วย วันก่อนที่ผมพูดเรื่องประวัติศาสตร์ประเทศไทยว่า มีถิ่นฐานมาจากไหนตอนตอบคำถามนักข่าว ทำไมผมจะไม่รู้ บางครั้งผมก็พูดเล่น แต่เอาไปตีความไปจับประเด็นจนทำให้เข้าใจผิด หาว่าผมไม่รู้ประวัติศาสตร์ ทำไมผมจะไม่รู้ ผมสอบประวัติศาสตร์ได้ที่ 1 นะ วันหลังผมจะพูดให้น้อยลง นักข่าวข้างหลังจะได้ตกงานกันหมด" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้ขอต่างชาติช่วยเพิ่มราคาสินค้าเกษตร

เพราะทั้งประเทศไทย และอาเซียนกำลังประสบปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ จึงต้องขอกันดื้อ ๆ เพราะในการไปเจรจากับประเทศต่าง ๆ หลายครั้ง ก็ยังไม่สำเร็จ เราต้องช่วยกันดูแลเกษตรกรผู้มีรายได้น้อย เพราะถือเป็นกำลังสำคัญของประเทศ ถ้าไม่มีการสนับสนุนก็จะออกนอกระบบกันทั้งหมด และจะเกิดปัญหาในภายหลัง และทุกอย่างต้องนำไปสู่การปฏิบัติให้ได้ สร้างความน่าสนใจ และสร้างความแตกต่าง เช่นเดียวกับรัฐบาล ถ้าไม่แตกต่างก็อยู่ไม่ได้ เพราะจะไม่ได้รับความเชื่อมั่นจากทั้งในประเทศ และต่างประเทศ

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า ความขัดแย้งในโลกนั้นต้องแก้ด้วย 2 อย่าง คือ การใช้กำลัง ซึ่งต้องค่อย ๆ ทำ

แต่ถ้ารุนแรงมากมันก็ไม่จบ และการแก้ปัญหาความยากจน ความเหลื่อมล้ำ เพราะเป็นต้นเหตุของความขัดแย้งทั่วโลก ถ้าเราสนับสนุนดูแลเขาได้ ส่วนไหนรบก็รบไป ส่วนไหนช่วยก็ต้องช่วย ถ้ารบกันตลอดวันหน้าจะอันตราย เราต้องทำทุกอย่าง เพราะความคิดมันเปลี่ยนยาก โดยปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้วันนี้ก็ดีขึ้นมาเรื่อย ๆ ในการสร้างความเข้าใจ วันนี้มีคนที่สร้างความไม่เข้าใจมาทำให้วุ่นวาย

"ผม เป็นทหารมา 38 ปี ปีสุดท้ายก็จะเกษียณอายุ ดันจับพลัดจับผลูขาหัก หกล้ม มาเป็นนายกรัฐมนตรี ไม่ได้คิด และไม่อยากเป็น วันนี้อยากให้ทุกคนไม่ว่าจะเป็นประเทศไหน การปกครองแบบใด เราเป็นคนที่อยู่ในโลกใบเดียวกัน โลกที่เป็นโลกแห่งความสุข ผมคาดหวังแบบนั้นในวันหน้า เดี๋ยวผมก็ไปแล้ว ฉะนั้นช่วยกันดูแลเรื่องเหล่านี้ด้วย" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว.