ผบ.ทบ.โต้ "ชัยสิทธิ์" ยันทหารไม่ได้ชี้นำผู้ต้องหาบึ้มศาลอาญา รัชดา ชี้ทุกอย่างมีหลักฐาน เผยมีแบล็กลิสต์กลุ่มป่วนเมือง แค่เอ่ยชื่อก็รู้ว่าใครอยู่กลุ่มไหน แนะเลิกก่อเหตุ
เมื่อวันที่ 10 มี.ค. ที่กองการบินกรมการขนส่งทหารบก (ขส.ทบ.) พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม และผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.)
ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร อดีต ผบ.สส. เตรียมฟ้องเจ้าหน้าที่ทหาร ถามนำผู้ต้องหาคดีปาบึ้มศาลอาญาว่า พล.ต.พงษ์สวัสดิ์ พรรณจิตต์ ผู้บัญชาการกองพลที่ 1 รักษาพระองค์( ผบ.พล.1 รอ.) ไม่ได้ไปพูดเพื่อชี้นำ ส่วนจะไปฟ้องผู้หนึ่งผู้ใดก็เป็นไปตามหลักฐาน ซึ่งการปฏิบัติงาน และการสอบสวนนั้น ทหารทำร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขอบเขต เมื่อมีเหตุการณ์รุนแรงก็จำเป็นจะต้องใช้กฎหมายพิเศษก่อนที่จะให้ตำรวจ ดำเนินการต่อ ยืนยันว่าทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ตามอำนาจหน้าที่
“ผมยืนยันว่าเราให้ความเคารพ ไม่ว่าจะเป็นประชาชน ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ที่อยู่ในราชการ หรือเกษียณอายุราชการไปแล้ว ในส่วนของเจ้าหน้าที่ก็จะต้องระมัดระวังด้วยการให้ความเคารพและความเป็นธรรม การจะทำอะไรต่างๆ ในปัจจุบันนี้ก็ทราบดีอยู่แล้วว่าจะถูกจับจ้องว่าเราจะทำด้วยความเรียบร้อย และยุติธรรมหรือไม่ เราระมัดระวังอยู่แล้ว ผมคิดว่าไม่มีใครที่มีเจตนาเช่นนั้น แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้นมาก็จะต้องมีความจำเป็นที่จะต้องชี้แจง เพราะเป็นเรื่องที่ประชาชนสนใจ และเป็นเรื่องร้ายแรง มีการใช้วัตถุระเบิด จึงจำเป็นที่จะต้องพูดถึงรายละเอียด แต่ก็ไม่ได้มีเจตนาที่จะไปก้าวล่วงท่านใด สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ขึ้นอยู่กับพยานหลักฐานที่มี และคงจะต้องมีการสืบสวนสอบสวนกันต่อไป เพื่อหาผู้ที่เกี่ยวข้อง ส่วนจะเกี่ยวพันกับใคร ให้เป็นหน้าที่ของตำรวจในการสืบสวนต่อไป และถ้าใครเกี่ยวข้องก็จะต้องนำมาลงโทษทั้งนั้น” พล.อ.อุดมเดช กล่าว
เมื่อถามว่าพล.อ.ชัยสิทธิ์ และ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง อดีต ผบช.น. และกลุ่มคนเสื้อแดง มีความเชื่อมโยงกับกลุ่มผู้ต้องหาอย่างไร
พล.อ.อุดมเดช กล่าวว่า เรื่องรายชื่อ ตนจะไม่ระบุว่ามีใครบ้าง เพราะมีมากหลายคนด้วยกัน ในส่วนที่เป็นหลักฐานที่เกิดขึ้นก็จะต้องมีการสอบข้อเท็จจริง เมื่อมีการเอ่ยชื่อใครขึ้นมา เราก็จะรู้ทันทีว่าชื่อของคนนั้นอยู่ในกลุ่มใด แต่ในรายชื่อที่เรามีอยู่ทั้งหมด ก็ไม่จำเป็นว่าทุกคนจะต้องเข้ามาเกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าว แต่ก็จะต้องยอมรับว่าบางคนที่เรามีรายชื่อ มีส่วนเกี่ยวข้อง ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความแน่นหนาในเรื่องของความเชื่อมโยงต่าง ๆ อย่างไรก็ตามจะต้องเอาข้อเท็จจริงออกมาให้ได้ ดังนั้นใครก็ตามที่มีความคิดจะก่อเหตุความรุนแรง ขอให้เลิก เพราะประเทศชาติเราเดินมาด้วยดีแล้ว อีกไม่นานทุกอย่างก็จะเป็นไปตามโรดแม็พที่นายกรัฐมนตรีกำหนดไว้ ถ้าทุกคนร่วมมือกัน ไม่ก่อความวุ่นวายก็จะเป็นไปตามนั้น.