นายกฯปัดให้สัมภาษณ์สื่อ หลังกระแส 2 รมต.ไขก๊อก

หลังกระแส 2 รัฐมนตรีเตรียมลาออก ด้าน นพ.พลเดช เอาตำแหน่งเป็นเดิมพันเช่นเดียวกับ ไพบูลย์ หาก พ.ร.บ.องค์กรชุมชน ไม่ผ่าน ครม. ระบุ เป็นยุทธศาสตร์และนโยบายสำคัญของ พม. และรัฐบาล ส่วนมท.3 ปัดข่าวทะเลาะกับ พม.เรื่อง พ.ร.บ.สภาองค์กรชุมชน ชี้ถ้าตั้งจริงอาจซ้ำซ้อน อปท.-ถูกการเมืองแทรก

(6มิย.) ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหว

พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกฯ จากที่มีกระแสข่าว 2 รัฐมนตรีจะลาออก หลังจากมีปัญหากับกระทรวงมหาดไทย ว่า ช่วงเช้านายกฯ ได้เดินทางไปปฏิบัติภารกิจ ที่จ.เพชรบุรี โดยขึ้นเฮลิปคอปเตอร์ จากพล.ม.2 สนามเป้าไป และได้เดินทางกลับ กทม. เวลา 13.00 น.

นายกฯ ปฏิเสธที่จะให้สัมถาษณ์ใด ๆ กับสื่อมวลชน โดยได้ขึ้นรถยนต์เดินทางกลับทันที โดยไม่ให้สัมภาษณ์ใด ๆ ทั้ง ๆ ที่โดยปกติ นายกฯ จะให้สัมภาษณ์ทุกครั้งหลังจากไปปฏิบัติภารกิจ

ด้านนพ.พลเดช ปิ่นประทีป รัฐมนตรีช่วยว่า

การกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เปิดเผยว่า เมื่อเห็นพาดหัวข่าววันนี้ว่า ไพบูลย์-พลเดช ขู่ไขก๊อก ก็ตกใจ ไม่ต้องการให้เกิดความรู้สึกแบบนั้น เพราะโดยนิสัยและบุคลิกส่วนตัวของตนและนายไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการ พม. ไม่เคยให้ร้ายใคร ไม่ขู่ใคร จะทำก็ทำเลย จึงไม่ต้องการให้มีการขยายเรื่องนี้

หลักการคือ

เราสองคนเข้ามาช่วยรัฐบาลทำงาน เพราะเห็นเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของประเทศที่จะต้องวางรากฐานในการพัฒนาสังคม ซึ่งเป็นงานระยะยาว เพราะฉะนั้น จึงต้องการมาวางยุทธศาสตร์ไม่ใช่มาทำเป็นงานประจำ ซึ่งปลัดกระทรวงและข้าราชการทำได้ดีอยู่แล้ว

ตน และนายไพบูลย์ จึงให้ความสำคัญงานยุทธศาสตร์และนโยบาย ซึ่งหนึ่งในนโยบายสำคัญของ พม. และรัฐบาล คือ การออกกฎหมายที่ดี มีประโยชน์ เพื่อวางรากฐานในการพัฒนาสังคมในระยะยาว

ซึ่งมีกฎหมาย 3 ฉบับ ที่ให้ความสำคัญ ฉบับแรก คือ

พ.ร.บ.สภาองค์กรชุมชน ที่ให้ความสำคัญมาก ดังนั้น ถ้าไม่สามารถทำได้ ก็ไม่มีประโยชน์ที่จะทำงานต่อ เพราะถือว่าไม่มีประโยชน์ที่จะได้ทำงานด้านยุทธศาสตร์ หมายความว่าไม่ควรอยู่ต่อ

สำหรับแนวโน้มของร่าง พ.ร.บ.สภาองค์กรชุมชนนั้น นพ.พลเดช กล่าวว่า

เชื่อมั่นว่า จะผ่านการพิจารณาในท้ายที่สุด เพราะประเด็นคัดค้านของนายอารีย์ วงศ์อารยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และ พล.ต.ท.ธีรวุฒิ บุตรศรีภูมิ รัฐมนตรีช่วยว่า การกระทรวงมหาดไทย เป็นการคัดค้านเนื้อหาเก่า

แต่ร่าง พ.ร.บ.นี้

ได้หารือและปรับปรุงหลายส่วนแล้ว ซึ่งทั้งสองคนยังไม่ทราบ และเมื่อวานนี้ (5 มิ.ย.) หลังจากรับประทานอาหารหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ก็ได้หารือกันอีกนาน แต่ท้ายที่สุดก็เริ่มรับฟังกันได้

สำหรับร่าง พ.ร.บ.สภาองค์กรชุมชนนี้ ตนพร้อมเอาเก้าอี้เป็นเดิมพัน ไม่ยึดติดกับเก้าอี้อยู่แล้ว แต่ทำงานโดยคำนึงถึงเป้าหมายและวัตถุประสงค์

ส่วนพล.ต.ท.ธีรวุฒิ บุตรศรีภูมิ รัฐมนตรีช่วยว่า

การกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีข้อขัดแย้งระหว่างกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม.) กับกระทรวงมหาดไทย(มท.) ในเรื่องการออก พ.ร.บ.สภาองค์กรชุมชน ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้มีการคุยกันกับผู้ที่เกี่ยวข้อง และยืนยันว่าไม่ได้มีความขัดแย้ง เพียงแต่ข้อมูลที่จะนำมาหารือกัน

ทางกระทรวงมหาดไทยเห็นว่า

ควรพิจารณาให้รอบคอบ เพราะหน่วยงานในสังกัดมีทั้ง อบต.และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) และถ้ามีการอนุมัติร่าง พ.ร.บ.นี้จริง ก็ต้องศึกษารายละเอียด เพราะจะเป็นการตั้งองค์กรขึ้นมาซ้อนกัน ทั้งนี้ยืนยันว่าไม่ได้มีการทะเลาะกัน และข่าวที่ออกมาก็คือข่าว

แต่สิ่งที่ตนกังวลขณะนี้ คือ

ชุมชนกว่า 80,000 หมู่บ้านยังไม่เข้มแข็งพอ และนำมาซึ่งกลุ่มการเมืองเข้ามาแทรกแซง และถ้าจะดำเนินการจริง ก็ควรรอให้มีรัฐธรรมนูญออกมาเป็นกฎหมายแม่ก่อน เพราะที่ผ่านมาปัญหาที่สำคัญในท้องถิ่น คือ อบต.นั้นยังมีความขัดแย้งกันอยู่

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย:

หนังสือพิมพ์คมชัดลึก