แสดงความคิดเห็นถึงกรณีการ นายไพบูลย์ นิติตะวัน สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ในฐานะอดีตประธานคณะกรรมการปฏิรูปแนวทางและมาตรการปกป้องพิทักษ์กิจการพระ พุทธศาสนาแถลงยุติบทบทาการทำงาน ว่า คณะกรรมการปฏิรูปพุทธศาสนาฯ ของ สปช. ที่มีคุณไพบูลย์ นิติตะวัน เป็นประธาน ไดิประกาศยุติบทบาทในวันนี้ โดยบอว่าได้บรรลุจุดมุ่งหมายทำให้เกิดการตรวจสอบพระและวัดเกิดขึ้นแล้ว โดยเฉพาะกรณีวัดธรรมกายที่หน่วยงานทั้ง DSI ปปง. สตช. อัยการ ผู้ตรวจการฯ และรัฐบาล ก็ขานรับเดินหน้าตรวจสอบกันแล้ว
แต่ที่ผ่านมาแม้เป็นช่วงเวลาสั้นๆ คณะกรรมการชุดนี้ได้สร้างผลสะเทือนในเชิงบวกต่อการปฏิรูปพุทธศาสนา จนกลายเป็นวาระแห่งชาติอยู่ในขณะนี้ ทั้งๆ ที่แนวคิดปฏิรูปพุทธศาสนาพูดกันมานานในสังคม แต่ไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองเท่ากับยุคนี้ และตอนนี้ ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลงานของกรรมการชุดคุณไพบูลย์ อย่างปฏิเสธไม่ได้ แม้จะมีแรงต้านจากพระและวัดบางส่วนก็ตาม แต่ถ้าสืบสาวราวเรื่อง สอบประวัติคนกลุ่มนั้นดูก็เป็นพวกที่กลัวได้รับผลกระทบจากการปฏิรูป โดยเฉพาะผลประโยชน์ของพระและวัดบางวัด ที่เอาผ้าเหลืองคุมโปงไว้
เพราะแรงส่งของกระแสนี้ ด้านหนึ่งคือความเสื่อมทรุดของวงการสงฆ์ อีกด้านหนึ่งคือขีดจำกัดของความระอาที่สังคมแบบรับกับพระจำพวกอลัชชีมายาว นาน อย่าให้ใครคนใดคนหนึ่งเป็นเจ้าภาพ แต่เราทุกคนต้องร่วมกันผลักดัน เสนอข้อคิดเห็น ร่วมแรงร่วมใจกันปฏิรูปพุทธศาสนาจนกว่าจะเป็นมรรคเป็นผลครับ