พีเน็ต จี้วินิจฉัยเลือกตั้ง 2 เม.ย.โมฆะ - ชี้ชัดพรรค ทรท.ขาลง แม้ว อย่าดันทุรัง

พีเน็ต จี้วินิจฉัยเลือกตั้ง 2 เม.ย.โมฆะ - ชี้ชัดพรรค ทรท.ขาลง แม้ว อย่าดันทุรัง

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 3 เมษายน 2549 14:34 น.

ตัวแทนพีเน็ต เดินสายจี้ กรรมการสิทธิฯ-ผู้ตรวจการแผ่นดินรัฐสภา ยื่นเรื่องต่อศาล รธน.กรณีการเลือกตั้งที่ขัดกับรัฐธรรมนูญมาตรา 104 วรรค 3 เพื่อให้การเลือกตั้งตกเป็นโมฆะ ระบุตัวเลขโนโหวตสูงถึง 40% ชี้ชัดพรรค ทรท.ไม่ได้รับความนิยมแล้ว หวั่นวิกฤตรอบ 2 ศาล รธน.หากวินิจฉัยให้เปิดสภาฯ แนะปลดล็อกการเมือง ทักษิณ เว้นวรรคทางการเมือง พร้อมจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่-กติกาใหม่-เปิดให้ทุกฝ่ายเข้าร่วม

วันนี้ (3 เม.ย.) นายสมชัย ศรีสุทธิยากร ผู้ประสานงานพีเน็ตเฉพาะกิจ กล่าวว่า ในเวลา 10.00 น.วันพรุ่งนี้ (4 เม.ย.) ทางตัวแทนมูลนิธิองค์กรกลางเพื่อประชาธิปไตย และเครือข่ายประชาชนเพื่อการเลือกตั้ง (พีเน็ต) จะเดินทางไปยื่นหนังสือต่อกรรมการสิทธิมนุษยชน ที่อาคารสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ถนนพญาไท กรณีการเลือกตั้งที่ขัดกับรัฐธรรมนูญ มาตรา 104 วรรค 3 คือ ตอนกาบัตรไม่ปิดเป็นความลับคนอื่นสามารถสังเกตเห็นการใช้สิทธิได้ จึงอยากให้กรรมการสิทธิฯ วินิจฉัยว่ารูปแบบดังกล่าวขัดต่อสิทธิมนุษยชน และรัฐธรรมนูญหรือไม่ ถ้าเป็นไปได้อยากให้กรรมการสิทธิฯ ส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมเพื่อให้การเลือกตั้งตกเป็นโมฆะต่อไป

ต่อจากนั้นเวลา 11.30 น.จะเดินทางต่อไปยังยื่นหนังสือให้ผู้ตรวจการแผ่นดินรัฐสภา ที่อาคารเอ็กซิมแบงก์ ถนนพหลโยธิน ในกรณีเดียวกัน คือการเลือกตั้งที่ขัดกับรัฐธรรมนูญ มาตรา 104 วรรค เพื่อขอให้ผู้ตรวจราชการแผ่นดินรัฐสภาพิจารณาส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมเพื่อให้การเลือกตั้งตกเป็นโมฆะเช่นเดียวกัน

การไปยื่นหนังสือหนังนี้ ทางองค์กรกลางจะส่งตัวแทนไปประมาณ 4-5 คน ไม่อยากให้เดินทางกันไปเป็นจำนวนมาก เพราะไม่ต้องการให้มีการกดดัน แต่ต้องการให้มีการวินิจฉัยโดยยึดหลักเหตุผลเพื่อให้เป็นบรรทัดฐานทางกฎหมายต่อไป

นายสมชัย กล่าวอีกว่า เมื่อนับคะแนนรวมทั้งประเทศคาดว่าน่าจะมีผู้กากบาทในช่องไม่ลงคะแนน หรือโนโหวต ทั้งประเทศสูงถึง 40% ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคไทยรักไทย เคยพูดไว้ว่าถ้าตัวเลขโนโหวตสูงถึง 50% ก็จะลาออก ทันที ตนอยากให้คิดใหม่ทำใหม่ ตัวเลขโนโหวต 40% ก็ถือว่าตัวเลขสูงมาก โดยเฉพาะโนโหวตโดยส่วนใหญ่จะอยู่ในพื้นที่เมือง และเมืองสำคัญ คนเหล่านนั้นล้วนเป็นผู้มีการศึกษา เป็นนักธุรกิจ แสดงว่าพรรคไทยรักไทยไม่ได้รับการยอมรับอีกต่อไป ส่วนพื้นที่ที่ได้คะแนนมากจะเป็นพื้นที่ชนบท เขาอาจจะพอใจในประชานิยมของรัฐบาล

คะแนนเสียงแบบนี้อยากให้ประเมินว่ารัฐบาลควรตัดสินใจอย่างใดอย่างหนึ่ง ถ้ายังยืนยันจะเป็นรัฐบาลต่อไป สังคมจะไม่สงบสุข ดังนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ ควรตัดสินใจเว้นวรรคการเมือง ไม่ควรดึงดันต่อไป ไม่มีประโยชน์ เพราะหากมีการเลือกครั้งที่ 2 และ 3 ถ้าประชาชนไม่เลือก เขาก็ไม่เลือก เป็นทางตันของสังคมไทยแล้ว ทางออกที่ผมมองเห็น คือ การประกาศให้ผลการเลือกตั้งตกเป็นโมฆะ โดยมองความไม่สมบูรณ์ของการเลือกตั้งที่เกิดขึ้น กกต.ต้องรับผิดชอบ แล้วต้องมาคุยกันเพื่อให้มีการเลือกตั้งใหม่ และให้ทุกฝ่ายเข้ามามีส่วนร่วม นอกจากนี้ หากเลือกตั้งรอบ 2-รอบ 3 แล้วแต่ยังไม่ได้ ส.ส.ครบจำนวน จะหาทางออกโดยให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้เปิดสภาฯ ได้นั้นก็จะเกิดวิกฤตศาลรัฐธรรมนูญอีกรอบ ก็ยิ่งวุ่นวายไปใหญ่

นายสมชัย กล่าวอีกว่า ความจริงก่อนการเลือกตั้ง รัฐบาลสามารถประกาศพระราชกฤษฎีกาฉบับใหม่เพื่อยกเลิกพระราชกฤษฎีกาฉบับเก่าที่กำหนดให้เลือกตั้ง ส.ส.ในวันที่ 2 เมษายนที่ผ่านมาได้แต่รัฐบาลไม่ยอมทำ ถึงตอนนี้ก็สายไปแล้ว สะท้อนให้เห็นว่าพรรคไทยรักไทย ตัดสินใจอะไรผิดพลาดไปหมด

พันธมิตรฯ ผนึกภาค ปชช.ยื่นศาลปกครองฟ้อง กกต.เลือกตั้งขัด รธน.-โมฆะ

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 3 เมษายน 2549 17:16 น.

แกนนำพันธมิตรฯ พร้อมองค์กรภาคประชาชนผนึกกำลังยื่นศาลปกครองฟ้อง กกต.จัดการเลือกตั้งมิชอบ ระบุขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 104 ฐานะกระทำให้การเลือกตั้งไม่เป็นความลับ ขณะเดียวกันได้ยื่นขอศาลไต่สวนฉุกเฉินเพื่อคุ้มครองห้ามประกาศผลเลือกตั้ง

วันนี้ (3 เม.ย.) เวลา 15.00 น. ที่ศาลปกครองกลาง อาคารเอ็มไพร์ สาทร นายสมศักดิ์ โกศัยสุข นายสุริยะใส กตะศิลา แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย พร้อมด้วยเครือข่ายกลุ่มองค์กรภาคประชาชนอีก 10 คน ได้เดินทางมาที่ศาลปกครองเพื่อยื่นฟ้องการปฏิบัติหน้าที่ของ กกต.เกี่ยวกับการจัดการเลือกตั้งเมื่อวานที่ผ่านมา ประเด็นของการจัดคูหาการเลือกตั้งที่พันธมิตรฯ และองค์กรหลายภาคส่วนเห็นว่าขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 104 วรรค 3 ที่ระบุให้การลงคะแนนของผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งเป็นไปในทางลับ

โดยนายสมศักดิ์ กล่าวว่า การจัดคูหาเลือกตั้งของการลงคะแนนเมื่อวานที่ผ่านมาเห็นได้ชัดว่าขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 104 วรรค 3 เพราะการจัดคูหาลงคะแนนเลือกตั้งนั้นไม่ได้คุ้มครองผู้ใช้สิทธิที่การลงคะแนนจะต้องเป็นความลับ เพื่อปกป้องสิทธิ์ของแต่ละบุคคล ซึ่งปรากฏให้เห็นชัดในกรณีที่ทีวีช่องหนึ่งได้ถ่ายภาพการเดินทางไปใช้สิทธิเลือกตั้งของข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ใน กทม. โดยภาพข่าวปรากฏให้เห็นชัดว่าบุคคลดังกล่าวลงคะแนนในช่องใด ซึ่งส่งผลเสียต่อผู้ลงคะแนน และในประเด็นนี้มีการร้องเรียนเป็นจำนวนมาก

นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่า นอกเหนือจากการฟ้องร้องการปฏบัติหน้าที่ของ กกต.แล้ว ในวันเดียวกันนี้จะมีการยื่นคำร้องขอให้ศาลปกครองเปิดการไต่ส่วนฉุกเฉินพิเศษเพื่อคุ้มครองไม่ให้มีการประกาศผลการเลือกตั้ง เพราะการเลือกตั้งนั้นจะต้องเป็นไปอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรมตามหลักรัฐธรรมนูญ ซึ่งในการฟ้องร้องนี้นอกเหนือจากฟ้องศาลปกครองแล้ว ทางพันธมิตรฯจะได้หารือกับฝ่ายกฎหมายเพื่อจะยื่นฟ้องต่อศาลอื่นๆ ด้วย

ด้าน นายสุริยะใส กล่าวว่า การเดินทางมาฟ้องร้องการปฏิบัติหน้าที่ของ กกต.ในครั้งนี้ เพื่อต้องการให้เกิดบรรทัดฐานในการจัดเลือกตั้งครั้งต่อไปให้เป็นไปโดยบริสุทธิ์ยุติธรรม เพราะครั้งนี้ กกต.ได้มีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบของการเลือกตั้งตามอำเภอใจ ทำให้สังคมเกิดความคลางแคลงใจว่าการปฏิบัติหน้าที่ของ กกต.อาจเป็นไปเพื่อต้องการเอื้อให้กับผู้สมัครบางส่วน จึงต้องมีการฟ้องร้องเพื่อสร้างบรรทัดฐานให้มั่นใจว่าการเลือกตั้งในครั้งต่อไปจะมีความบริสุทธิ์ยุติธรรม

นายสุริยะใส กล่าวว่า การฟ้องร้องครั้งนี้มุ่งเน้นไปที่การปฏิบัติหน้าที่ของ กกต.ไม่เกี่ยวกับผลคะแนนการเลือกตั้ง ซึ่งในส่วนของการลงคะแนนของประชาชนนครั้งนี้ได้ชี้ให้เห็นว่าไม่ใช่การลงคะแนนเลือกตั้งเหมือนครั้งที่ผ่านๆ มาเป็นเสียงสวรรค์ของประชาชนที่แสดงออกในระบอบประชาธิปไตย ทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร สามารถหาทางลงได้อย่างสง่างาม โดยคะแนนต่างๆ ชี้ชัดว่าการเคลื่อนไหวของของพันธมิตรฯ ได้บรรลุผลอย่างเห็นได้ชัดในระดับหนึ่ง ทำให้การเคลื่อนไหวในครั้งนี้ไม่ใช่เป็นเพียงการเคลื่อนไหวของ สนธิ หรือ จำลอง หรือบุคคลใดบุคคลหนึ่ง แต่เป็นพลังการขับเคลื่อนของการเมืองภาคประชาชนที่ได้รับชัยชนะอย่างยิ่งใหญ่

นายสุริยะใส กล่าวว่า การลงคะแนนในครั้งนี้จะทำให้พรรคไทยรักไทยได้ทบทวนบทบาทของตัวเอง โดยเฉพาะ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ในฐานะหัวหน้าพรรค ซึ่งการลงคะแนนได้ปรากฏให้เห็นชัดว่าถึงแม้ในหลายเขตเลือกตั้งผู้สมัครของพรรคไทยรักไทยจะได้รับเลือก แต่คะแนนที่ได้นั้นกลับมีจำนวนน้อยกว่าคะแนนที่โหวตไม่เลือกใคร จึงอยากทวงถามสปิริตว่าจะยอมรับหรือไม่กับปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะบางเขต ส.ส.ของพรรคไทยรักไทยได้คะแนน 5,000 คะแนน แต่จำนวนผู้ไม่ประสงค์ไม่ลงคะแนนเลือกใครมีจำนวนเป็นหลักหมื่น แสดงให้เห็นว่าคนที่ได้รับเลือกไม่ใช่ตัวแทนของคนส่วนใหญ่ในพื้นที่นั้น

โดยในวันพรุ่งนี้ที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา แยกคอกวัว พันธมิตรฯ จะเปิดเวทีสาธารณะ โดยใช้ชื่อว่า สมัชชาประชาธิปไตย โดยจะเชิญองค์กรภาคประชาชนในส่วนต่างๆ มาร่วมแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการเลือกตั้งในครั้งนี้ และในช่วงเที่ยงของวันเดียวกัน แกนนำทั้ง 5 คนของพันธมิตรฯ จะมีการประชุมร่วมกันเพื่อวิเคราะห์สถานการณ์ และประเด็นคำพูดต่างๆ ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ในการออกรายการกรองสถานการณ์ ทางช่อง 11 ในคืนนี้ เพื่อนำไปวิเคราะห์ร่วมกันในการหาข้อสรุปการเคลื่อนไหวของพันธมิตรฯ ต่อไป

ส่วนการนัดชุมนุมใหญ่ในวันที่ 7 เม.ย.นี้จะยังคงมีการเคลื่อนไหวต่อไป เพราะถือเป็นสิทธิอันชอบธรรมตามระบอบประชาธิปไตย และจะเป็นตัวแสดงให้นักการเมืองเห็นว่าหากเกิดกรณีการทุจริต หรือความไม่โปร่งใสขึ้นในอนาคต ประชาชนก็จะลุกขึ้นมาทวงถาม และใช้อำนาจตรวจสอบได้ทุกเมื่อ ถือเป็นการปฏิรูปการเมืองภาคประชาชนที่มีความก้าวหน้าไปอย่างดีโดยไม่ต้องรอการปฏิรูปการเมืองครั้งใหม่

ในส่วนของการปฏิบัติหน้าที่ของ กกต.เรื่องการทำผิดเลือกตั้งของ พ.ต.ททักษิณ ชินวัตร ที่ได้ยื่นฟ้องไปก่อนหน้านี้นั้น ในวันพรุ่งนี้จะครบกำหนดระยะเวลา 10 วันที่ กกต.ระบุว่าจะมีการสอบสวนในกรณีนี้ ซึ่งทางพันธมิตรฯ จะเดินทางไปทวงถามถึงความคืบหน้าในประเด็นนี้ด้วย

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์