วันที่ 3 มีนาคม บรรยากาศก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี นางธนวดี ท่าจีน อำนวยการมูลนิธิเพื่อนหญิง
นำคณะแกนนำเครือข่ายสตรี 4 ภาค เข้าพบนายกรัฐมนตรี เพื่อยื่นข้อเสนอเชิงนโยบายสตรีเนื่องในวันสตรีสากล โดยเรียกร้องให้เพิ่มมาตรการกวาดล้างแหล่งอบายมุกที่อยู่ใกล้สถานศึกษา ชุมชน และวัด ที่มีผลต่อพฤติกรรมของเด็กและเยาวชน และขอให้กวาดล้างการค้ามนุษย์ หรือสถานบันเทิงที่นำเด็กและผู้หญิงไปขายบริการทางเพศ และเสนอว่าควรมีสถานที่บริการเฉพาะทางดูแลเด็กและผู้หญิงที่เป็นผู้เสียหาย
และควรตั้งศาลพิเศษที่ดูแลด้านการค้ามนุษย์ และร่วมมือกับประเทศในประชาคมอาเซียนในการจัดตั้งกองทุน
เพื่อร่วมกัยนแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ร่วมกัน ทั้งในปนะเทศที่เป็นต้นทาง กลางทาง และปลายทาง อีกทั้งกวาดล้างขบวนการค้ายาเสพติดอย่างจริงจัง และขอให้นายกฯเร่งรัดผ่านร่างพ.ร.บ.ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ เนื่องจากเด็กที่เติบโตในบ้านที่สูบบุหรี่ มีแนวโน้มเกิดพฤติกรรมเลียนแบบ และเสี่ยงต่อการเกิดโรค
นอกจากนี้ ยังขอความร่วมมือสื่อมวลชนไม่ควรเผยแพร่รูปโป๊เปลือย และขอให้รัฐบาลกวาดล้างสื่อลามกในรูปแบบต่างๆ
และขอให้หน่วยงานราชการทำงานในเชิงรุก เพื่อแก้ไขปัญหาโดยการลงพื้นที่ร่วมกับกลุ่มสตรีในระดับชุมชน โดยองค์กรปกครองท้องถิ่นจะต้องจัดทำฐานข้อมูลเด็กและสตรี เพื่อใช้ในการวางแผนแก้ไขปัญหา และขอให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เพิ่มพนักงานสอบสวนหญิงให้ครบทุกจังหวัด เพื่อรองรับคดีและความรุนแรงที่เกิดกับสตรี
ขณะเดียวกันต้องส่งเสริมความเสมอภาคระหว่างเพศ โดยการปรับกฎระเบียบ เพิ่มช่องทาง
เพิ่มมาตรการที่ทำให้ผู้หญิงมีบทบาท มีส่วนร่วมในการบริหารจัดการชุมชนและการเมืองในทุกระดับ โดยขอให้กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญอย่างชัดเจน ในสัดส่วนที่เท่ากันระหว่างผู้หญิงและผู้ชาย เนื่องจากที่ผ่านมาการทำงานด้านการเมืองบองผู้หญิงยังมีน้อยมาก ถึงแม้ว่าจะมีการเปิดโอกาสให้เข้ามาทำงานแต่ก็เป็นไปอย่างเชื่องช้า การกำหนดสัดส่วนจึงถือเป็นมาตรการหนึ่ง นอกจากนี้ กลุ่มเครือข่ายสตรี 4 ภาคได้ร้องเพลงเกี่ยวกับข้อเรียกร้องเป็นทำนองคืนความสุขให้นายกรัฐมนตรีฟัง
ทั้งนี้ ภายหลังการยื่นข้อเสนอนายกฯ ได้เดินตรวจเยี่ยมชมบูธศูนย์ซ่อมสร้างเพื่อชุมชน สำนักงานคณะกรรมการอาชีวะศึกษา
ขอบคุณบรรดานักศึกษา และคณาจารย์ที่ร่วมทำความดีตามโครงการดังกล่าว จากนั้นสอบถามการปฏิบัติจริง ในเรื่องการซ่อมและดูแลรถจักรยานยนตร์ พร้อมแนะนำให้ประสานกับบริษัทรถขนาดใหญ่เช่น โตโยต้าและฮอนด้า เพื่อฝึกฝีมือและพัฒนาฝีมือ และขอให้ติดต่อทวิภาคีเพื่อให้นักศึกษาได้ฝึกงานได้
จากนั้นนายกฯ ได้ทดลองจักรยานยนต์ฮอนด้า ซีบีอาร์ 250 ซีซี ทะเบียน อทฉ. กรุงเมพมหานคร 725 สีดำ
ซึ่งข้าราชการทำเนียบรัฐบาล ได้นำมาขอรับบริการและไม่คาดคิดว่านายกฯ ได้ทดลองขับรถจักรยานยนต์ ออกไปทันที โดยวนตั้งแต่บริเวณหน้าตึกบัญชาการ1 ซึ่งเป็นสถานที่ประชุม อ้อมไปยังสนามหญ้าตึกไทย และขึ้นไปบนทางลาด หน้าตึก และเลี้ยวกลับมาจอดที่บริเวณหน้าตึกบัญชาการ ด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส โดยมีรปภ. ช่างภาพและสื่อมวชน ให้ความสนใจวิ่งตามอย่างอุดลุด เพราะไม่มีใครคาดคิดมาก่อนว่านายกฯ จะขี่รถฯ ด้วยตนเอง
ทั้งนี้ นายกฯ กล่าวอย่างอารมณ์ดี พร้อมบีบแตรรถก่อนออกตัวว่า ถ้าใครไม่หลีกเดี๋ยวจะชนเลยนะ ก่อนที่จะพุ่งรถออกไป และเมื่อจอดรถ ได้กล่าวติดตลก พร้อมหัวเราะชอบใจว่า "รถแรงดี" เมื่อผู้สื่อกระเซ้าว่าต้องการคนซ้อนท้ายหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวตอบว่า"ถ้าจะมีคนซ้อนท้าย ต้องอายุน้อยกว่านี้หน่อย พร้อมบอกว่า วันนี้ไม่ได้ใส่หมวกกันน็อคเพราะทดลองเฉยๆ ก็สนุกดี"ก่อนที่จะเดินขึ้นอาคารเพื่อเข้าประชุม