"พระสุเทพ" พร้อมแจงข้อกล่าวหา ป.ป.ช.คดีสลายเสื้อแดง ปี 53 ลั่นสั่งการคนเดียว ไม่คิดอ้างใครเป็นพยาน แม้แต่ "มาร์ค"ก็ไม่เกี่ยว พร้อมห่มผ้าเหลือง เข้าสภาฯ หากถูกถอดถอน ไม่กลัวโดนสอยอาญาด้วย
เมื่อวันที่ 28 ก.พ. ที่วัดธารน้ำไหล สวนโมกขพลาราม อ.ไชยา จ.สุราษฏร์ธานี
พระสุเทพ ปภากโร หรือนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติแจ้งข้อกล่าวหาในคดีสลายการชุมนุมของคนเสื้อแดงปี 53 ว่า มีคนมาบอกแล้วว่า ป.ป.ช.กำลังเล่นงาน แต่เรื่องดังกล่าวไม่ทำให้เกิดความรู้สึกหวั่นไหว เราตั้งใจ และรอว่า ป.ป.ช.จะมีหนังสือมาเมื่อไหร่ เพราะตามปกติ หาก ป.ป.ช.มีหนังสือมาถึงวันนี้ ก็จะมีเวลา 15 วันที่จะทำหนังสือชี้แจงเป็นลายลักษณ์อักษรไปยัง ป.ป.ช. ซึ่งก็พร้อม แต่ตอนนี้ทำคำชี้แจงยังไม่ได้ เพราะยังไม่เห็นข้อกล่าวหา
“อาตมาไม่ต้องอ้างเป็นพยาน เพราะจำได้หมดทุกเรื่องที่ทำมา ทั้งหมดตอบได้เลยว่า อาตมาสั่งการคนเดียว นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกฯ ไม่ได้เกี่ยวข้องด้วย ผู้เข้าร่วมประชุมในช่วงนั้น ทุกคนมีมติกัน และได้อภิปรายร่วมกันแล้ว อาตมาเป็นคนสั่งการ อาตมารับผิดชอบในการสั่งการ ถ้าจะผิดหรือถูก อาตมารับผิดชอบ แล้วขอร้องว่าอย่าได้ไปเกี่ยวโยงกับเจ้าหน้าที่ทั้งหลายที่เขาทำ เพราะเขาทำตามคำสั่งอาตมา ตรงนี้ต้องให้ชัดเจน การชี้แจงเบื้องต้นจะทำเป็นหนังสือ แต่หาก ป.ป.ช.ต้องการให้ไปชี้แจงด้วยตัวเอง ก็พร้อมที่จะไป หรือหาก ป.ป.ช.จะทำเรื่องถอดถอนในสภาฯ ก็พร้อมไปชี้แจงในสภาฯ ทั้งผ้าเหลือง ที่ผ่านมาเคยใส่สูทเข้าสภาฯ มา 36 ปี ครั้งนี้จะห่มผ้าเหลืองเข้าสภาฯ และบางทีอาจจะถือโอกาสเทศน์ใหญ่กลางสภาฯ เลย ตอนนี้เตรียมร่างคำเทศนาไว้แล้ว พร้อมที่จะไปตอบทุกคำถามในสภาฯ ถ้าป.ป.ช.เสนอให้ถอดถอน ไม่หนี และจะไปด้วยตัวเอง ไม่ส่งทนายไปชี้แจงแทน”พระสุเทพ กล่าว
เมื่อถามว่านายอภิสิทธิ์ อ้างผู้นำเหล่าทัพในยุคนั้นเป็นพยาน พระสุเทพ กล่าวว่า เป็นเรื่องของนายอภิสิทธิ์ ไม่เกี่ยวกับอาตมา
สำหรับอาตมาแล้ว จะไม่อ้าง เพราะไม่จำเป็นต้องเอาใครมาเป็นพยาน ทุกอย่างรู้และเข้าใจหมด มีเอกสารหลักฐาน มีพยาน มีเอกสารเป็นตัวหนังสือ เป็นรูปถ่ายหมด ขอให้ ป.ป.ช.สบายใจ ทำงานอย่างตรงไปตรงมา พร้อมชี้แจง และหากจะต้องถูกดำเนินคดีอาญาด้วยหรือไม่นั้น ก็ไม่เป็นไร ยินดีที่จะไปขึ้นศาล และถ้าถามว่าหากย้อนไปได้จะทำอย่างไร บอกได้เลยก็ต้องทำแบบที่ผ่านมา เพราะเป็นการทำหน้าที่ ยืนยันที่ทำมาเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องดีแล้ว.