ทรท. ก้มหน้ารับผลโหวตโน โยน แม้ว ชี้ขาดอนาคตการเมือง

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 3 เมษายน 2549 12:43 น.

สุรนันทน์ ก้มหน้ายอมรับผลโหวตโนสูงกว่าคะแนน ทรท. โยนลูกพี่ แม้ว ตัดสินใจอนาคต ย้ำต้องการสร้างความปรองดองในชาติ พร้อมแบะท่าเปิดทางทุกฝ่ายหารือ ด้าน พงศ์เทพ เมินภาคใต้ไม่เลือกพรรคเป็นเรื่องปกติ ยันขอพิจารณาคะแนนก่อนตัดสินใจ

วันนี้ (3 เม.ย.) นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ รักษาการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงทิศทางของพรรคไทยรักไทยหลังจากรู้ผลการเลือกตั้งว่า พรรคคงต้องพิจารณาถึงผลการเลือกตั้งที่ออกมาว่าเป็นอย่างไรบ้างในรายละเอียด โดยเฉพาะผลการเลือกตั้งที่มีการโหวตไม่เลือกใครเลยที่เป็นโหวตโนที่ค่อนข้างจะสูง ตรงนี้ต้องยอมรับว่าการที่เราเดินมาถึงการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นเรื่องที่เราต้องช่วยกันรักษาระบบประชาธิปไตย เมื่อประชาชนได้ตัดสินใจผ่านการเลือกตั้งแล้วเราก็ต้องเอาคะแนนมาดู การมีโหวตโนจำนวนสูง เป็นส่วนหนึ่งที่เราต้องพิจารณาว่าเหตุผลคืออะไรบ้าง ในฐานะที่เป็นพรรคการเมืองก็เป็นเรื่องธรรมดาที่ความนิยมมีขึ้นมีลง อาจจะมีสิ่งที่ประชาชนเห็นว่ามีการกระทำที่ไม่ถูกไม่เหมาะสม การที่มีการเลือกตั้งและผลคะแนนออกมาก็จะสะท้อนในจุดนั้น ซึ่งไทยรักไทยก็ต้องนำมาแก้ไข วิเคราะห์ในสิ่งที่ผิด ประชาชนไม่พอใจ สิ่งไหนที่ยังชี้แจงไม่พอเพียงก็จะต้องดำเนินการให้เต็มที่ทำความเข้าใจในจุดนี้ และควรแก้ไขสิ่งที่ประชาชนค้างคาใจให้หมดไป

ผู้สื่อข่าวถามว่า ผลคะแนนออกมา กทม.และภาคใต้ ไม่เอาพรรคไทยรักไทย นายสุรนันทน์ กล่าวว่า คงต้องวิเคราะห์กันให้ละเอียด โดยเฉพาะตนเองซึ่งเติบโตจากฐานเสียงคนกรุงเทพฯ ตนก็ต้องน้อมรับในจุดนี้ และคงจะต้องนำเรื่องมาคุยกันในพรรคว่าสิ่งที่ทำให้คนกรุงเทพฯ มีความรู้สึกเปลี่ยนแปลง ไม่พอใจ โหวตโนออกมามากจำนวนนี้คงต้องมีการปรึกษาหารือกัน วางแนวทางที่จะต้องแก้ไขและทำความเข้าใจในจุดนี้เป็นการด่วน

เมื่อถามว่าจะแก้ไขได้อีกหรือไม่ ในเมื่อปัญหาลุกลามขนาดนี้ และไทยรักไทยจะคิดกลับมาบริหารประเทศอีก นายสุรนันทน์ กล่าวว่า คงต้องไปดูคะแนนรวมทั้งหมดก่อน แม้จะชัดแล้วในเบื้องต้น ต้องฟังความเห็นพรรค หากเรายังจะเป็นพรรคการเมืองที่เป็นที่พึ่งของประชาชน เราคงไม่ต้องการเป็นพรรคที่เป็นที่พึ่งของประชาชนภาคใดภาคหนึ่งเท่านั้น เมื่ออยากเป็นที่พึ่งของประชาชนทั้งประเทศเราจะดำเนินการอย่างไรบ้างก็เป็นสิ่งที่พรรคต้องพิจารณา เมื่อซักว่า ได้มีการคาดการณ์ล่วงหน้าไว้หรือไม่ว่าคนจะไม่เอาพรรคไทยรักไทยถึงขนาดนี้ นายสุรนันทน์ กล่าวว่า เราก็ทราบว่าสิ่งที่นายกฯ ทำอยู่อาจจะมีผู้ต่อต้าน ไม่ว่าจะเป็นการประท้วงหน้าทำเนียบหรือการเคลื่อนไหวต่างๆ แต่เราอยากจะบอกว่าให้ทุกคนในประชาธิปไตย และเราเองก็ต้องการฟังเสียงประชาชนอย่างแท้จริง และเมื่อผ่านการเลือกตั้งทราบผลคะแนนที่ชัดเจนแล้วก็อยู่ที่พรรคจะพิจารณาว่าเราจะทำอะไรต่อไป

เมื่อถามย้ำว่า คาดไม่ว่าคะแนนโนโหวตจะถล่มทลายขนาดนี้ นายสุรนันทน์ กล่าวว่า พอทราบ เช่น ภาคใต้ แต่ใน กทม.ที่ดูจากโพล หรือที่ทำเองบางส่วนก็มีแนวโน้มมีคนไม่พอใจส่วนหนึ่งเท่านั้น จุดนี้ต้องวิเคราะห์ว่าความไม่พอใจมากจากส่วนใดบ้าง

ถือว่ามีการตัดสินออกมาอย่างนี้เราก็ต้องยอมรับในผลของการเลือกตั้ง ส่วนของพรรคเราคิดที่จะแก้ปัญหา ทั้งประเทศมีเสียงมากกว่า เราก็ต้องคิด โดยเฉพาะคนภาคใต้ เพื่อที่จะได้มาปรับปรุงแก้ไขให้ถูกต้อง รักษาการ รมต.สำนักนายกฯ

ผู้สื่อข่าวถามว่า ถึงจุดนี้แล้วนายกฯ จะกลับมาแก้วิกฤตหรือยัง นายสุรนันทน์ กล่าวว่า ทุกอย่างอยู่ที่การหารือในพรรค เราต้องดูว่าพรรคคิดอย่างไรกับการเลือกตั้งครั้งนี้ ส่วนการเร่งหาทางออก แน่นอนอยู่แล้วว่าจะทำอย่างไรให้กระบวนการประชาธิปไตยเดินหน้าต่อไปได้ และการปฏิรูปการเมืองต้องเกิดขึ้นแน่ ปัญหาที่เห็นชัดเจนและยืนยันได้ว่าการปฏิรูปการเมืองต้องเกิดขึ้นแน่ และรวดเร็วด้วย

ผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้คนในบ้านเมืองแตกแยกกัน ประชาธิปไตยจะเดินหน้าไปได้อย่างไร นายสุรนันทน์ กล่าวว่า สิ่งนี้คือจุดมุ่งหมายสำคัญที่จะต้องพูดคุยกันครั้งนี้ อย่างที่เราบอกว่าเราไม่ต้องการเป็นรัฐบาลของคนภาคใดภาคหนึ่ง แต่เป็นรัฐบาลที่สร้างความสามัคคีกับคนในภาคได้

ผมเชื่อว่า นายกฯ ทักษิณ เองต้องการเป็นนายกฯ ที่สร้างความปรองดองกับคนในชาติได้ หรือใครที่มาก็ต้องสร้างความปรองดองให้กับคนในชาติได้ ฉะนั้น เราต้องสร้างความปรองดองกับคนทุกภาคส่วนที่มีองค์กรภาคประชาชน สื่อมวลชน นักการเมืองในพรรคอื่นๆ ด้วย นายสุรนันทน์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า ไทยรักไทยจะเดินหน้าต่อไปอย่างไร เมื่อกระแสไม่ตอบรับถึงขนาดนี้ นายสุรนันทน์ กล่าวว่า การที่อนาคตจะเดินต่อไปได้ทุกคนจะต้องร่วมมือและช่วยกัน ในส่วนของพรรคเมื่อฟังเสียงประชาชนต้องฟังเสียงโนโหวต เหตุผลของโนโหวตเป็นตัวตั้งด้วย ไม่ใช่เอาเสียงส่วนใหญ่เป็นตัวตั้งอย่างเดียว

ส่วนที่ขณะนี้มีหลายเขตเลือกกี่ครั้งก็ไม่ได้ ร้อยละ 20 คณะกรรมการเลือกตั้ง (กกต.) เองก็มองไม่เห็นทางออก นายสุรนันทน์ กล่าวว่า ให้เป็นอำนาจของ กกต. รัฐบาลไม่แทรกแซง คงเป็นทางเลือกของ กกต.ที่เขาจะเลือกแก้ปัญหาอย่างไร

ผู้สื่อข่าวถามว่า ไทยรักไทยยังคงเป็นแกนนำใช่หรือไม่ นายสุรนันทน์ กล่าวว่า หากไทยรักไทยยังได้รับการตอบรับเป็นเสียงส่วนใหญ่ ไทยรักไทยยังคงเดินหน้า สร้างกลไกที่เป็นกลางเพื่อช่วยกันคิด และไทยรักไทยก็พร้อมที่จะให้กลไกที่เป็นกลางร่างกติกาที่เป็นกลาง ที่เหมาะสมที่สุดต่อส่วนรวม และไทยรักไทยจะทำตัวแค่ผู้เล่นแค่นั้นเอง หมายความว่าไทยรักไทยจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวหรือเกี่ยวข้องในการร่างกติกาปฏิรูปการเมือง ไม่ว่าจะเป็นการร่างรัฐธรรมนูญ หรือการแก้ไขต่างๆ ควรมีองค์กรกลางขึ้นมาเพื่อรับตรงนี้ไป เราเป็นพรรคการเมือง เป็นนักการเมือง เราก็ต้องพร้อมไปทำงานกิจกรรมทางการเมืองตามกติกา

เมื่อถามว่า รัฐบาลทักษิณจะเดินหน้าต่ออย่างไรเมื่อเสียงเลือกตั้งออกมาเป็นแบบนี้ โหวตโน 40% ไทยรักไทย 60% คะแนนก้ำกึ่ง รัฐบาลจะทำอย่างไร นายสุรนันทน์ กล่าวว่า ต้องขอดูคะแนนก่อน ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามกติกาของรัฐธรรมนูญ เราเองก็ต้องทำงาน ถึงอย่างไรก็ต้องดูคะแนนให้ชัดเจนก่อน เพราะไม่ใช่ตนตัดสินใจคนเดียว เพราะเรื่องนี้ตนพูดไม่ได้

การเมืองจะเดินหน้าต่อไปอย่างไร ทุกพรรคต้องมาร่วมหากันก่อน แม้กระทั่งนักวิชาการ กลุ่มพันธมิตรฯ นั่นแหละถึงจะมีทางออก นายสุรนันทน์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ฝ่ายค้านยืนยันว่านายกฯ ต้องเว้นวรรคทางเมืองถึงจะมาร่วม นายสุรนันทน์ กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับตัวนายกรัฐมนตรีเอง

ส่วน นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมเพื่อประเมินทิศทางของพรรคไทยรักไทยภายหลังการเลือกตั้งว่า พรรคจะมีการนำผลการเลือกตั้งทั้งหมดมาประเมินว่าพรรคจะดำเนินการอย่างไร ส่วนที่ผลการเลือกตั้งที่ประชนชนไม่เลือกมากกกว่าเลือกผู้สมัครจากพรรคไทยรักไทยนั้น ทางพรรคก็คงต้องดูว่าคะแนนทั้งหมดที่เลือกพรรคอื่นกับคะแนนที่เลือกพรรคไทยรักไทยเป็นอย่างไร โดยจะมีการนำคะแนนในส่วนของ ส.ส.บัญชีรายชื่อมาพิจารณาดูด้วยว่าคะแนนรวมของพรรคได้กี่คะแนน เพราะตรงนี้จะเป็นส่วนสำคัญที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร หัวหน้าพรรคไทยรักไทย จะนำมาใช้ดำเนินการตามสัญญาประชาคมที่เคยประกาศบริเวณท้องสนามหลวง

ผู้สื่อข่าวถามว่า หลายจังหวัดมีการโนโหวตในจำนวนคะแนนเสียงที่สูงมาก นายพงศ์เทพ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ อย่างกรณีภาคใต้นั้นถือเป็นเรื่องปกติ เพราะจากการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาประชาชนในภาคใต้เลือกพรรคประชาธิปัตย์อยู่แล้ว และเมื่อครั้งนี้ไม่เลือกพรรคไทยรักไทยก็ถือว่าไม่มีอะไรผิดปกติ แต่ในส่วนของผลคะแนนใน กทม.ภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคอีสาน คงจะต้องมีการนำมาพิจารณากันอีกครั้ง

เมื่อถามว่า จากผลคะแนนที่ประชาชนไม่ออกเสียงเป็นจำนวนมากจะมีผลต่อการตัดสินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ต่อไปอย่างไร นายพงศ์เทพ กล่าวว่า ต้องขอดูผลคะแนนอย่างเป็นทางการก่อน จะบอกว่าต้องยอมรับเพราะน้อยมากก็ไม่ได้ เพราะจังหวัดอื่นที่พรรคไทยรักไทยได้คะแนนมากกว่าจำนวนคะแนนที่ประชาชนโนโหวตก็มี

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 3 เมษายน 2549 11:43 น.

โภคิน กลับลำอ้างผลคะแนนเลือกตั้ง กทม.-ภาคใต้ ใกล้เคียงโพล ทรท. ไปน้ำขุ่นโทษสื่อเอาแต่เขียนด่าประชาชนเลยคล้อยตาม รับการเมืองมีช่วงขึ้นช่วงลงเป็นเรื่องธรรมดา แถมมองโลกในแง่ดีคนแห่ใช้สิทธิแม้กาโนโหวต ยังเลี่ยงข่าวนั่งนายกฯ แทน อ้างรอฟัง ทักษิณ พูดเองเย็นนี้ ยันไม่มีใครมาทาบทาม

วันนี้ (3 เม.ย.) นายโภคิน พลกุล รองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ให้สัมภาษณ์ถึงผลการเลือกตั้งเบื้องต้นในภาคใต้ และกทม. ซึ่งปรากฏว่าประชาชนให้สิทธิไม่ลงคะแนนมากกว่าผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคในหลายเขตว่า ในส่วนของภาคใต้การเลือกตั้งครั้งที่แล้วหลายเขตพรรคไทยรักไทยก็ได้คะแนนไม่ถึง 20 เปอร์เซ็นต์ของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ส่วน กทม.จากโพลที่พรรคทำขึ้นก่อนการเลือกตั้งก็ออกมาแบบ 50-40 คือประชาชนไม่เลือกใคร 50 ส่วนประชาชนที่จะเลือกพรรคไยรักไทย 40

ดังนั้นก็แสดงว่า ผลที่ออกมาใกล้เคียงกับโพลที่พรรคได้ทดลองทำก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นเรื่องที่พรรคจะต้องไปพิจารณาว่าเพราะอะไร เราจึงไม่ชนะใจประชาชนอย่างเต็มที่และไม่สนับสนุนเรา นำไปไว้ในการแก้ปัญหาในการเลือกตั้งครั้งต่อไป หลังการปฏิรูปการเมือง ซึ่งก็ต้องมีการเลือกตั้งอีกครั้ง

ผู้สื่อข่าวถามว่า ส.ส.ในหลายพื้นที่ของ กทม.ชนะ แต่คะแนนก็ออกมาน้อยกว่าคะแนนที่ประชาชนไม่เลือกใคร จะกล้ารับตำแหน่ง ส.ส.หรือไม่ นายโภคิน กล่าวว่า อย่าไปพูดว่านั่นคือเสียงส่วนใหญ่ ถ้าไปมองเฉพาะเขตก็ไม่เป็นธรรม

เราไม่ใช่พรรคของภาคใดภาคหนึ่ง อย่างภาคใต้เราก็สู้อย่างเต็มที่แล้ว กทม.เป็นพื้นที่ที่มีข้อมูลข่าวสารต่างๆ ค่อนข้างมาก และเป็นที่ชัดเจนว่าที่ผ่านมาสื่อสิ่งพิมพ์ไม่ได้เชียร์เราเลย จึงทำให้ประชาชนส่วนใหญ่คล้อยตาม ก็เป็นธรรมดาในภาวะที่รัฐบาลในอดีตหลายรัฐบาลมีปัญหา สื่อก็จะหยิบเรื่องที่เป็นปัญหานั้นมานำเสนอเหมือนกัน แต่การเลือกตั้งก็มีเหตุผลหลายอย่างประกอบกัน รองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย กล่าว

นายโภคิน ยังเปิดเผยว่า ในการหารือกันของแกนนำพรรคไทยรักไทยในเย็นวันที่ 2 เมษายน พรรคก็ยังดีใจที่ประชาชนส่วนใหญ่ยังใช้การเลือกตั้งในการตัดสินปัญหาของประเทศ แม้แต่คนที่ไม่อยากให้มีการเลือกตั้งเกิดขึ้นยังไปใช้สิทธิ และผลที่ออกมาแสดงว่าเรากำลังมีปัญหาในการชี้แจงกับประชาชน

รองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย กล่าวต่อว่า ผลการเลือกตั้งครั้งนี้ก็แสดงให้เห็นว่าประชาชนมีวิจารณญาณในการตัดสินปัญหาเองได้แม้ประชาชนบางส่วนจะกาช่องไม่ลงคะแนนก็ตาม แต่ก็ต้องเข้าใจการเมืองบางช่วงก็ขึ้นสูงสุด บางช่วงก็ลงต่ำ แม้แต่พรรคการเมืองที่เก่าแก่บางพรรคบางช่วงเวลายังไม่สามารถหาหัวหน้าพรรคได้ นี่คือเรื่องธรรมดาของระบบการเมือง

ผู้สื่อข่าวถามถึงแนวโน้มการรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแทน พ.ต.ท.ทักษิณหลังการเลือกตั้ง นายโภคิน กล่าวว่า ตนทำงานที่ไหนก็ได้ และทำเต็มกำลังมาตลอด เมื่อต้องทำอะไรก็ทำเต็มที่และไม่มีใครมาว่าอะไร อย่างศาลปกครองตนก็เป็นแกนนำในการผลักดันเต็มที่ อย่าไปพูดว่าวันนี้ตนพร้อมหรือไม่พร้อมที่จะรับตำแหน่งแทน พ.ต.ท.ทักษิณ อยากให้รอนายกรัฐมนตรีเป็นผู้แถลงข่าวอย่างเป็นทางการเองดีกว่า และยืนยันว่าขณะนี้ยังไม่มีผู้ใดทาบทามให้รับตำแหน่งใดๆ เข้ามา