สุวพันธุ์กำชับพศ.ตรวจสอบทุกคดีกระทบวงการสงฆ์

'สุวพันธุ์'กำชับ พศ.ตรวจสอบทุกคดีกระทบวงการสงฆ์ ห้ามการเมืองยุ่ง สั่งเร่งศึกษากม.เตรียมแก้ไข รอคลอดร่างพ.ร.บ.ใหม่คุ้มครองพุทธศาสนา

เมื่อวันที่ 22 ก.พ. นายสุวพันธุ์  ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ

เปิดเผยว่า เรื่องของพระพุทธศาสนามี 2 ส่วนที่เกี่ยวข้อง คือ ศาสนจักรและอาณาจักร โดยศาสนาจักร คือ มหาเถรสมาคม ที่ดำเนินการไปตามระเบียบของฝ่ายสงฆ์ ด้านอาณาจักร คือ รัฐบาลและหน่วยงานราชการอาทิ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ต้องทำหน้าที่ทำนุบำรุงศาสนา ซึ่งตนกำชับให้พศ.ทำงานอย่างเต็มที่ในการตรวจสอบข้อเท็จจริงทุกกรณีที่มีผล กระทบทางลบต่อพระพุทธศาสนาไม่ว่า จะเป็นเรื่องที่มีการร้องเรียนเรื่องที่เป็นคดี ซึ่งอยู่ระหว่างการสอบสวนหรืออยู่ในการไต่สวนของศาลโดยไม่ให้ฝ่ายการเมือง เข้าไปเกี่ยวข้อง เพราะมีบางกรณีในอดีตฝ่ายการเมืองเข้าไปยุ่งเกี่ยวจนเกิดข้อวิพากษ์วิจารณ์ ต่าง ๆ ยกตัวอย่างกรณีที่กำลังเกิดขึ้นตอนนี้เป็นสิ่งที่มีนานหลายปีแต่กลับไม่มี การแก้ไขหรือหาข้อยุตินอกจากนี้ตนได้มอบหมายให้พศ.ไปพิจารณาศึกษากฎหมาย ต่างๆที่เกี่ยวกับพระพุทธศาสนาทั้งกฎหมายที่มีอยู่และร่างกฎหมายใหม่ที่จะ ถูกจัดทำขึ้นเพื่อปรับให้เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน ซึ่งตนกำชับให้ทำอย่างจริงจังและรวดเร็วเพราะเชื่อมโยงกับการปฏิรูปด้วย

นายสุวพันธุ์ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้พศ.กำลังจัดทำร่างพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)ฉบับใหม่

คือ ร่างพ.ร.บ.อุปถัมภ์ และ คุ้มครองพระพุทธศาสนาที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับการคุ้มครองพระพุทธศาสนาในหลาย มิติรวมถึงการดูแลอุปถัมภ์หรือช่วยกิจกรรมทางพระพุทธศาสนาโดยตอนนี้สำนักงาน คณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจร่างเสร็จแล้วแต่ยังไม่ส่งเข้าสู่การพิจารณาของที่ ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) เพราะตนจะนำมาตรวจทบทวนอีกครั้งว่าเนื้อหาของร่างมีความเหมาะสมกับสภาพความ เป็นไปในปัจจุบันหรือไม่ สำหรับแผนระยะยาวคือการปฏิรูปเชิงระบบและโครงสร้าง ซึ่งสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) มีคณะกรรมาธิการที่กำลังทำเรื่องนี้ขณะที่ตนเป็นผู้ประสานงานระหว่างรัฐบาล กับสปช.อยู่แล้ว อย่างไรก็ตามการดำเนินงานทั้งหมดทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องต้องมาทำงานร่วมกันและ ต้องปรึกษาหารือกับคณะสงฆ์ด้วยโดยตนกำลังนัดหมายเข้าพบพระเถระชั้นผู้ใหญ่ เพื่อปรึกษาหารือถึงประเด็นต่างๆที่เกี่ยวกับพระพุทธศาสนาตนยืนยันว่าการทำ งานของรัฐบาลและพศ.ขณะนี้เดินหน้าไปบนพื้นฐานของข้อเท็จจริงทำทุกอย่างตาม เนื้อผ้าไม่มีผลประโยชน์ทางการเมืองหรือสิ่งอื่นใด.