ต้องสลายความเกลียดชัง

แทบไม่น่าเชื่อว่าวิกฤติการณ์ด้านจริยธรรมของนักการเมือง กำลังสร้างความแตกแยกให้แก่สังคมไทยอย่างรุนแรงและกว้างขวางตั้งแต่เหนือจดใต้ เวลาเพียงเดือนเศษที่มีการยุบสภาเพื่อให้มีการเลือกตั้งใหม่ทำให้จิตใจของประชาชนถูกสภาวะการเมืองเข้าไปปรุงแต่ง จนเกิดความรู้สึกเกลียดชังกันเองแบบขาดสติ และแทบไม่น่าเชื่อว่าการปรุงแต่งเหล่านี้เกิดจากน้ำมือของคนที่อ้างตัวเองว่ารักชาติ ศาสน์ กษัตริย์กันแทบทั้งสิ้น

ถึงแม้ไม่มีคนระดับชนชั้นนำของประเทศจะออกมายอมรับชัดเจนว่าเวลานี้ความแตกแยกของคนไทยเดินมาถึงจุดที่อันตรายแล้ว แต่ความจริงที่เกิดขึ้นที่จังหวัดเชียงใหม่ซึ่งพรรคการเมืองฝ่ายค้านเดินทางไปตั้งเวทีชี้แจงเหตุผลการไม่ลงสมัครรับเลือกตั้ง แล้วถูกคนกลุ่มหนึ่งตอบโต้ถึงขั้นรื้อเวที ขับไล่ด้วยความเกลียดชัง ในขณะที่ก่อนหน้านั้นกลุ่มคนอ้างว่าเป็นตัวแทนจากประชาชน 14 จังหวัดภาคใต้ได้ประกาศด้วยความเกลียดชังว่าภาคใต้เป็นเขตปลอดทักษิณ กำลังตอกย้ำชัดเจนว่าคนไทยส่วนหนึ่งคิดอะไรกันอยู่

กลไกของบ้านเมืองถูกอำนาจทุนทุบจนพิการและอ่อนแอ ประชาชนถูกมอมเมาให้เกิดอคติและเป็นฝักฝ่าย เรื่องของคุณธรรมและจริยธรรมถูกบังด้วยความเป็นภาคนิยม สิ่งที่คนไทยไม่ อยากพูดและไม่อยากได้ยินกำลังถูกปลุกเร้าให้เป็นไทยเหนือไทยใต้โดยที่ทุกฝ่ายกำลังจ้องหาประโยชน์จากผลที่กำลังสุกงอม โดยไม่สนใจว่าจะยืนอยู่บนซากปรักหักพังของสังคมไทยหรือไม่

เราอยากจะเรียนว่าความแตกแยกทางความคิดนั้นจะต้องมีสติควบคุมจิต อย่าปล่อยให้ความเห็นที่ไม่ตรงกันกลายเป็นความเกลียดชังอาฆาตถึงขั้นต้องลุกขึ้นมาทำร้ายกัน เราอยากเรียกร้องให้ผู้ที่ใช้จุดอ่อนของคนยากจนและคนความรู้น้อยมาเป็นเครื่องมือทางการเมืองต้องยุติการกระทำเสียเพราะนั่นหมายถึงการเหยียบย่ำคุณค่าความเป็นมนุษย์ของเขาอย่างสิ้นเชิง เราขอเรียกร้องให้คนในระดับผู้นำของประเทศตระหนักถึงซากปรักหักพังของแผ่นดินให้จงหนัก.