ทรท.หนาว โนโหวต ลิ่ว! เริ่มนับหลายเขตแพ้หลุดลุ่ย

เริ่มนับคะแนนไทยรักไทยโดนคะแนนโนโหวตทิ้งห่างหลายเขต ทีมโฆษก ทรท. ภิมุข-ศิธา เริ่มสตาร์ทเจอคะแนนงดออกเสียงแซงแหลก ส่วน คนเมืองเพชร ตบหน้าทรท. ไม่เอา เพื่อนโอ๊ค-พานทองแท้ 5 จังหวัด เพชรบุรี นครสวรรค์ สุโขทัย เชียงใหม่ และกรุงเทพฯ ประเดิมนับแต้ม คลองเตย เสือปืนไว ชิงนับแต้มเป็นเขตแรกในเมืองกรุง ทรท. ยกเลิกกลางอากาศคิวแถลงข่าวอนาคต รัฐบาลทักษิณ 3 แต่มีกระแสสะพัด โภคิน เสียบเก้าอี้นายกฯแทน แม้ว ด้าน สุรนันทน์ แจงแทน หน.พรรค รับผิดสื่อสารไม่เข้าใจ แจ้งนัดคลาดเคลื่อน เผยนายกฯเข้าพรรคแค่ดูสถานการณ์และกินข้าวเย็น จากนั้นจะกลับไปนอนลุ้นคะแนนที่บ้าน ทรท.ต้องลุ้น 17 เขตหืดขึ้นคน เคยแพ้คู่แข่งฐานคะแนนเดิมไม่ถึงเกณฑ์ 20% ด้านพันธมิตรเตรียมฟ้องศาลปกครอง ระบุคูหากาบัตรมีปัญหา หวังให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ จี้กกต.ต้องรับผิดชอบ

เมื่อวันที่ 2 เม.ย. ภายหลังปิดหีบ เลือกตั้งในเวลา 15.00 น. คณะกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งได้ผนึกหีบบัตรเลือกตั้งและได้เริ่มทยอยลำเลียงหีบบัตรเลือกตั้งไปยังสถานที่นับคะแนนกลางประจำเขตเลือกตั้งที่ จ.กระบี่ นายประหยัด ศรีบุญชู ประธานกกต.กระบี่ เปิดเผยว่า การเลือกตั้งเรียบร้อยดี มีร้องเรียนบ้างแต่ได้ชี้แจงจนผู้ร้องพอใจแล้ว ส่วนการขนหีบบัตรเลือกตั้งตามพื้นที่เกาะแก่งต่าง ๆ นั้น อาทิ เกาะพีพี เกาะจำ เกาะศรีบอยา เกาะปู ต้องใช้เรือในการขนหีบบัตรมาที่สถานที่นับคะแนน

ที่จ.สุราษฎร์ธานี นายศักดิ์ชัย ไชยธวัช กกต.ประจำเขต 2 สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า ได้ประสานกับกองทัพเรือสนับสนุนเฮลิคอปเตอร์ขนหีบบัตรจากเกาะเต่า ไปที่จุดนับคะแนน โรงเรียนกาญจนดิษฐ์ ส่วนพื้นที่ อ.เกาะสมุยและเกาะพะงันนั้นได้มีการขนหีบบัตรลงคะแนนผ่านทางเรือเฟอร์รี่ จากนั้นขนใส่ในรถตู้คอนเทเนอร์ล็อกกุญแจอย่างปลอดภัย เพื่อส่งหีบบัตรต่อไปยังจุดนับคะแนน

ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง เวลา 18.30 น. พล.ต.ต.เอกชัย วารุณประภา เลขาธิการ กกต. แถลงภายหลังการปิดหีบบัตรเลือกตั้งว่า ต้องขอบคุณเจ้าหน้าที่คณะกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง รวมทั้งหน่วยงานราชการและเอกชนทุกภาคส่วนที่ร่วมมือกันทำให้การเลือกตั้งครั้งนี้ผ่านไปด้วยดี อย่างไรก็ดี พบว่าในหน่วยเลือกตั้งที่ 8 เขต 1 ต.ห้วยผา อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน กรรมการประจำหน่วยปิดหีบเลือกตั้งก่อนเวลา 15.00 น. ขณะนี้กรรมการประจำเขตสอบสวนเป็นเพราะสาเหตุอะไร

สำหรับเขตเลือกตั้งที่พรรคไทยรักไทยส่งผู้สมัครลงเขตเดียวคนเดียวมีทั้งสิ้น 278 เขต โดยมี 32 จังหวัด ที่มีผู้สมัครจากพรรคไทยรักไทยเพียงพรรคเดียวยกจังหวัด ได้แก่ 1.กระบี่ 2.กำแพงเพชร 3.ฉะเชิงเทรา 4.ชลบุรี 5.ชัยภูมิ 6.เชียงราย 7.ตราด 8.ตาก 9.นครนายก 10.นคร สวรรค์ 11.นราธิวาส 12.บุรีรัมย์ 13.ประจวบคีรีขันธ์ 14.พระนครศรีอยุธยา 15.พะเยา 16.พังงา 17.พิษณุโลก 18.ภูเก็ต 19.ยะลา 20.ลพบุรี 21.ลำปาง 22.ลำพูน 23.เลย 24.สตูล 25.สมุทร สาคร 26.สิงห์บุรี 27.สุโขทัย 28.หนองบัวลำภู 29.อ่างทอง 30.อำนาจเจริญ 31.อุตรดิตถ์ และ 32.อุทัยธานี

ส่วนในพื้นที่กทม. 36 เขตเลือกตั้ง มีจำนวน 7 เขตที่มีผู้สมัครคนเดียว ได้แก่ เขต 7, 8, 21, 23, 25, 34 และเขต 35

ทั้งนี้ เขตที่มีผู้สมัครเพียงคนเดียวต้องได้คะแนนถึงร้อยละ 20 ของจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งในเขตนั้น ๆ ปรากฏว่ามี 17 เขตที่น่าเป็นห่วง หากเปรียบเทียบจากสถิติการเลือกตั้งเมื่อ 6 ก.พ. 2548 ผู้สมัครจากพรรคไทยรักไทย ได้คะแนนไม่ถึงร้อยละ 20 ได้แก่ ปัตตานี เขต 1 และ 2 จ.พังงา เขต 1 จ.สงขลา เขต 6 จ.สุราษฎร์ธานี เขต 1, 3 และ 6 จ.ชุมพร เขต 3 จ.ยะลา เขต 2 จ.เพชรบุรี เขต 1 จ.สุพรรณ บุรี เขต 2 จ.ตรัง เขต 2 จ.นครศรีธรรมราช เขต 2, 3 และ 6 จ.นราธิวาส เขต 1 จ.ประจวบคีรีขันธ์ เขต 3

นอกจากนี้ ยังมีอีก 11 เขต ใน 8 จังหวัดที่ในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาผู้สมัครพรรคไทยรักไทยลงสมัครโดยมีคู่แข่ง และได้คะแนนเกินร้อยละ 20 เพียงเล็กน้อย ซึ่งครั้งนี้ได้กลับมาลงสมัครอีก หรือส่งบุคคลใหม่ลงแทน ก็เป็นเพียงผู้สมัครคนเดียวในเขตดังกล่าวมีผู้สมัครของพรรคไทยรักไทยเพียงคนเดียวคาดว่าจะได้ไม่ถึงร้อยละ 20 อย่างแน่นอน ประกอบด้วย จ.นราธิวาส เขต 2,3 และ 4 จ.อุทัยธานี เขต 2 จ.พิษณุโลก เขต 1 และ 5 จ.สุราษฎร์ธานี เขต 4 จ.ลพบุรี เขต 1 จ.ยะลา เขต 3 จ.สงขลา เขต 7 และ จ.กระบี่ เขต 1

ที่พรรคไทยรักไทย ตั้งแต่ช่วงเช้ามีกลุ่มผู้สื่อข่าวทั้งไทยและเทศจำนวนมาก ได้มาปักหลักรอรายงานข่าว ภายหลังปิดหีบเลือกตั้งบรรยากาศเริ่มคึกคัก เนื่องจากแกนนำพรรคต่างทยอยเดินทางเข้าพรรค อาทิ นายโภคิน พลกุล นายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย นายประชา มาลีนนท์ นายเนวิน ชิดชอบ รองหัวหน้าพรรค นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ เลขาธิการพรรค นายวิเชษฐ์ เกษมทองศรี นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช รองเลขาธิการพรรค พล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ กรรมการบริหารพรรค เดินทางเข้าพรรคเพื่อติดตามสถานการณ์การนับคะแนนเลือกตั้ง

ด้านพรรคประชาธิปัตย์ ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า บรรยากาศที่พรรคค่อนข้างเงียบเหงาเนื่องจาก นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค และแกนนำพรรคส่วนใหญ่กระจายตัวอยู่ในพื้นที่ แต่จะมีการประชุมพรรคหลังการเลือกตั้งในวันที่ 3 เม.ย. เวลาประมาณ 10.00 น. เพื่อประเมินสถานการณ์การเมืองหลัง พ.ต.ท. ทักษิณ แถลงจุดยืนหลังการเลือกตั้ง ส่วนพรรค ชาติไทย เวลา 19.00 น. นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรค ได้นัดบรรดาแกนนำประชุมยังที่ทำการพรรคเพื่อประเมินสถานการณ์การเมืองต่อไป

ต่อมาเวลา 17.00 น. พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ขับรถยนต์พาคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา ออกจากบ้านพักซอยจรัญสนิทวงศ์ 69 ไปพรรคไทยรักไทย เมื่อมาถึงกลุ่มสื่อมวลชนต่างกรูเข้าไปสัมภาษณ์ พ.ต.ท.ทักษิณ จนเกือบชนป้ายรณรงค์และนับถอยหลังเลือกตั้งของพรรคล้มคว่ำ โดยนายกฯ กล่าวว่า ยังไม่ทราบผลการเลือกตั้งจะเป็นอย่างไร แต่ไม่ว่าจะ ออกมาอย่างไรขอให้ทุกฝ่ายเคารพการตัดสินใจของประชาชน เพราะทุกชนชั้นต่างก็มี 1 เสียงเท่ากันตามระบอบประชาธิปไตยซึ่งประชาธิปไตยไม่ได้คำนึงถึงความแตกต่าง แต่คำนึงถึงศักดิ์ศรีความเป็นคนไทย ใครที่ไม่ยอมรับการตัดสินของประชาชน แสดงว่าคนนั้นคิดว่ามีศักดิ์ศรีเหนือกว่าคนอื่นในประเทศ ถือว่ามันไม่ถูกต้อง

เมื่อถามว่า รัฐบาลแห่งชาติจะมีแนวทางอย่างไร นายกฯ กล่าวว่า ขอให้รู้ผลการเลือกตั้งก่อน การเมืองไม่พูดเรื่องอนาคต ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า แล้วการเมืองปัจจุบันจะพูดอะไรได้บ้าง พ.ต.ท.ทักษิณ ตอบว่า ยังไม่รู้ผลการเลือกตั้ง แต่ขอยินดีกับคนไทยทั้งประเทศที่ร่วมกันรักษาประชาธิปไตยของชาติไว้ได้แล้ว ต่อข้อถามว่า รัฐบาลใหม่จะเป็นรัฐบาลพรรคเดียวหรือไม่ พ.ต.ท.ทักษิณ ตอบว่า อะไรก็เกิดขึ้นได้ ไม่แน่นอน และเราก็ใจกว้างพอ เมื่อถามอีกว่าจะตัดสินใจอนาคตทางการเมืองหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ยังมีเวลาค่อยว่ากัน

เมื่อเวลา 18.30 น. ภายหลังจากที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ขึ้นห้องประชุมชั้นบนแล้ว บรรดาผู้สื่อข่าวกว่า 300 ชีวิตต่างมาพักยังห้องสื่อมวลชนพรรคไทยรักไทย แต่ด้วยจำนวนสื่อมวลชนที่มากบางส่วนจึงออกมายืนออบริเวณทางขึ้นที่ทำการพรรค แล้วบางส่วนก็พิงราวบันไดสเตนเลส แต่ราวบันไดดังกล่าวชำรุดอยู่ก่อนแล้วเมื่อมีคนไปพิงและจับเป็นจำนวนมากจึงรับน้ำหนักไม่ไหวทำให้ราวบันไดหักในที่สุด ทั้งนี้ นอกจากกองทัพนักข่าวไทยแล้ว ยังมีกลุ่มทีมข่าวจากต่างประเทศจำนวนมาก อาทิ ซีเอ็นเอ็น เอ็นเอชเค เอเอฟพี หนังสือพิมพ์ลาลีพลับรีกัล จากอิตาลี แนชัลแนลรีพลับบริก เรดิโอ อเมริกา และนอร์วิเจี้ยน จากนอร์เวย์ เป็นต้น มาร่วมรายงานข่าวสถานการณ์ของพรรคไทยรักไทยหลังเลือกตั้งครั้งนี้เป็นจำนวนมากด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ต่อมา พ.ต.ท. ทักษิณ ได้แจ้งขอยกเลิกการแถลงข่าวหลังการเลือกตั้ง ในหัวข้อ "การปฏิรูปการเมือง" จากเดิมที่กำหนดไว้ในเวลา 19.00 น. โดยแจ้งว่าขอรอดูผลการเลือกตั้งก่อน ขณะเดียวกัน มีกระแสข่าวอย่างต่อเนื่องว่า หาก พ.ต.ท.ทักษิณ ปฏิเสธเก้าอี้นายกฯ นายโภคิน พลกุล รองหัวหน้าพรรค อาจจะได้รับตำแหน่งนายกฯแทน ขณะเดียวกันก็มีอีกหลายชื่อที่เป็นกระแสเช่นกัน

รายงานข่าวจาก กกต.แจ้งว่า บางเขตในกรุงเทพฯอาจจะเริ่มนับคะแนนได้ในเวลาประมาณ 19.30-20.00 น. ส่วนต่างจังหวัดในเขตเลือกตั้งเล็ก ๆ น่าจะเริ่มนับคะแนนได้ในเวลาใกล้เคียงกัน และในเที่ยงคืนบางเขตน่าจะ นับคะแนนเสร็จ ส่วนผลเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการ คาดว่าจะทราบได้ประมาณช่วงเช้าของวันที่ 3 เม.ย.

เย็นวันเดียวกัน กลุ่มนักศึกษานิด้าเพื่อประชาธิปไตยกว่า 10 คน นำโดยนายวัชรพล ศุภจักรวัฒนา เลขาธิการกลุ่มฯ ได้นำพวงหรีด มาไว้อาลัยแก่ กกต. เนื่องจากเห็นว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ไม่มีความชอบธรรม โดยเฉพาะการลงคะแนนในคูหาที่ไม่กระทำโดยลับ และยังพบว่าบางหน่วยเลือกตั้งไม่มีการเตรียมปากกาไว้ให้ผู้ใช้สิทธิไว้ลงคะแนน ตามที่ศาลปกครองมีคำสั่งคุ้มครอง

ที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา สี่แยกคอกวัว เวลา 17.00 น. นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย แถลงข่าวเกี่ยวกับสถานการณ์การเลือกตั้งวันที่ 2 เม.ย. ว่า ตนคิดว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ถือเป็นการเลือกตั้งที่มีเล่ห์เหลี่ยมกลโกงมากที่สุดเรียกได้ว่า เป็นต้มยำรวมมิตรกลโกงการเลือกตั้งเลยก็ว่าได้ โดยเฉพาะการที่ กกต.เปลี่ยนรูปแบบคูหาการเลือกตั้งโดยหันคูหาลงคะแนนเลือกตั้งเข้าหาผนังและหันหลังให้เจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้ง เท่ากับว่ากกต. ไม่ได้คุ้มครองการใช้สิทธิเลือกตั้งของประชาชนครั้งนี้ กกต.ทั้ง 4 คน อาจถึงขั้นต้องมีความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ได้ในที่สุด

นายสุริยะใส กล่าวอีกว่า วันที่ 3 เม.ย. เวลา 11.00 น. พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย โดยนายสมศักดิ์ โกศัยสุข จะ เป็นตัวแทนไปยื่นร้องต่อศาลปกครองเพื่อพิพากษาให้การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นโมฆะ และร้องให้เปิดไต่สวนฉุกเฉินเพื่อมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวให้ กกต. ระงับการประกาศรับรองผลการเลือกตั้งไว้ก่อน

นายไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ รักษาการ ส.ว. นครราชสีมา กรรมาธิการการต่างประเทศ วุฒิ สภาให้สัมภาษณ์ว่า การที่ผู้สมัคร ส.ส.นครราชสีมา พรรคไทยรักไทย ลงสมัครเลือกตั้ง โดยไม่มีคู่แข่ง เป็นเรื่องที่น่าอับอายมาก ไม่ใช่ประชาธิปไตยที่แท้จริง และไม่ใช่ศักดิ์ศรีของชาวโคราช การใช้สิทธิเลือกตั้งน่าจะถือเป็นการเลือกตั้งที่สกปรกมากที่สุด กลุ่มการเมืองโคราชภายใต้การนำของนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ควรลาออกแล้วตั้งพรรคชาติพัฒนา แม้จะมีแค่ 10-20 คน ก็ยังดีเพราะมีศักดิ์ศรีกว่าอยู่สภาพที่น่าอับอายขายขี้หน้ามากกว่านี้

ต่อมาเวลา 19.30 น. นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ กรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย เปิดเผยว่า เรื่องการยกเลิกการแถลงข่าวของ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นความเข้าใจผิดของตนในการสื่อสารกับสื่อมวลชน ซึ่งการที่นายกฯเข้าพรรค เพียงแค่มาติดตามสถานการณ์ไม่ได้มาแถลงข่าวแต่อย่างใด และหลังจากรับประทานอาหารเย็นแล้ว จะกลับไปรอดูผลนับคะแนนที่บ้าน อีกทั้งการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นครั้งประวัติศาสตร์นายกฯจึงขอรอผลการเลือกตั้งที่ชัดเจนก่อนจะแถลงข่าวใด ๆ

นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา ประธานคณะทำงานด้านกฎหมายพรรคไทยรักไทย กล่าวถึงกระแสวิจารณ์เรื่องความไม่เหมาะสมของการตั้งคูหาว่า มีการวิจารณ์มาก ผู้มาใช้สิทธิส่วนใหญ่ไม่สบายใจ รวมถึงตนเองด้วย ดังนั้น กกต.น่าจะรับฟัง ในการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.หรือ ส.ว.ที่จะเกิดขึ้น กกต.น่าจะคิดว่าของเก่าดีกว่าของใหม่บ้าง ส่วนจะขัดกับรัฐธรรมนูญหรือไม่ยังไกลไป เพราะการลงคะแนนก็ยังเป็นลงคะแนนลับ ส่วนตัวเมื่อลงคะแนนก็เอาตัวบังไว้คนอื่นก็มองไม่เห็น

เมื่อเวลา 19.50 น. พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน ได้เดินทางกลับบ้านพัก โดยกล่าวกับผู้สื่อข่าวสั้น ๆ ว่า "ยังไม่พูด ไว้รอผลเลือกตั้งก่อน"เมื่อถามว่า มีการร้องเรียนการเลือกตั้งจำนวนมาก นายกฯ กล่าว่า "มันหาเรื่อง แต่งนิยายเตรียมการไว้ล่วงหน้าแล้ว" จากนั้นจึงขับรถกลับบ้านพร้อมคุณหญิงพจมานและนายพานทองแท้ ชินวัตร และเมื่อก่อนจะเลี้ยวเข้าบ้าน พ.ต.ท.ทักษิณ ได้เปิดกระจก แล้วชูมือสัญลักษณ์ไอเลิฟยูและยิ้มให้กับผู้สื่อข่าวก่อนที่จะเลี้ยวรถเข้าบ้านไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจาก พ.ต.ท. ทักษิณ ออกจากพรรค บรรดาแกนนำต่างทยอยกลับเช่นกัน และปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์

เมื่อเวลา 20.30 น. นายประกิต กันยาบาล รองเลขาธิการ กกต.ฝ่ายการมีส่วนร่วม เปิดเผยว่า ขณะนี้มี 5 จังหวัดที่เริ่มนับคะแนน คือ เพชรบุรี นครสวรรค์ สุโขทัย เชียงใหม่ และกรุงเทพฯ โดยเริ่มนับในเวลา 20.00 น. และมียอดการส่งหีบบัตรเลือกตั้งเรียบร้อยแล้ว 305 หีบ ส่วน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ การส่งหีบบัตรเป็นไปอย่างเรียบร้อยทุกหน่วยเลือกตั้ง

สำหรับกรุงเทพฯ มี 6 เขตที่เริ่มนับพร้อม ๆ กัน คือ เขต 8 คลองเตย เขต 10 ดินแดง เขต 12 หลักสี่ เขต 13 ดอนเมือง และเขต 18 ห้วยขวาง โดยเขตคลองเตย เป็นเขตแรกที่เริ่มนับคะแนน ด้านนายวันชัย ถนอมศักดิ์ ผอ.เขตคลองเตย กล่าวว่า เป็นเพราะเขตมีการเตรียมพร้อมทั้งคนและขั้นตอน จึงทำให้สามารถนับคะแนนได้เป็นเขตแรก

เมื่อเวลา 21.30 น. การนับคะแนนในกรุงเทพฯที่ผู้สมัครจากพรรคไทยรักไทยลงเพียงคนเดียวนั้น พบว่า ในเขต 28 บางพลัด- บางกอกน้อย นายภิมุข สิมะโรจน์ ได้ 8,435 คะแนน ขณะที่คะแนนงดออกเสียงได้ 9,231 คะแนน ส่วนในเขต 8 คลองเตย น.ต.ศิธา ทิวารี ได้ 2,977 คะแนน ขณะที่คะแนนงดออกเสียงได้ 5,637 คะแนน เขต 7 นายพงษ์พิสุทธิ์ จินตโสภณ ได้ 4,488 คะแนน ขณะที่คะแนนงดออกเสียงได้ 7,291 คะแนน เป็นต้น

เมื่อเวลา 21.40 น. ที่ จ.เพชรบุรี เขต 1 พบว่าคะแนนของนายราชศักดิ์ คล้ายคลึง ผู้สมัคร ส.ส.เพชรบุรี เขต 1 พรรคไทยรักไทย ได้ 2,837 คะแนน ส่วนคะแนนงดออกเสียง 5,905 คะแนน บัตรเสีย 1,268 คะแนน โดยเขตนี้มีผู้มีสิทธิ 111,761 คน คิดเป็น 20% คือ 22,352.22 คะแนน

นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา ในฐานะรองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ให้สัมภาษณ์ถึงคะแนนงดออกเสียงในบางเขตเลือกตั้งที่ทิ้งห่างคะแนนของผู้สมัครจากพรรคไทยรักไทยว่า คะแนนงดออกเสียงที่เกิดขึ้นมาจากการรณรงค์ของหลายฝ่าย หลายเครือข่าย และสื่อบางส่วนก็ร่วมรณรงค์ในประเด็นนี้ จึงทำให้เกิดกระแสขึ้น คะแนนจึงไหลไปรวมกันกับคะแนนของพรรคฝ่ายค้าน เป็นธรรมดาที่ต้องมากกว่าคะแนนของผู้สมัคร อย่างไรก็ตามต้องรอดูผลคะแนนอย่างเป็นทางการในช่วงเวลาท้ายสุดก่อนด่วนสรุป.