เลวยันกระดูก ขุดประวัติ บรรพต คนแก่-เกาะผู้หญิง-หมิ่นสถาบัน

10 ก.พ.58 หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ บุกรวบตัว นายหัสดิน อุไรไพรวัน หรือ บรรพต ผู้ต้องหาคดีหมิ่นสถาบันเบื้องสูง ป.อาญา ม.112 ได้ที่โรงแรมเอวัน ย่านพระราม 9 เมื่อช่วงค่ำวานนี้(9 ก.พ.58) ก่อนจะนำตัวสอบสวนขยายผลการจับกุม

โดย V For Thailand ได้เปิดประวัตินายหัสดิน อุไรไพรวัน หรือ บรรพต ไว้เมื่อ 7 ชั่วโมงที่ผ่านมา ระบุว่า เลวยันกระดูก!!! กับประวัติ บรรพต ผู้ผลิตคลิปหมิ่น กว่า 400 ตอนในอินเตอร์เน็ต ดังนี้

นายหัสดิน อุไรไพรวัน หรือ บรรพต ปัจจุบัน อายุ 64 ปี อยู่บ้านเลขที่ 167 ถ.วิสุทธิ์กษัตริย์ แขวงบ้านพานถม เขตพระนคร กทม. ถูกจับกุมตัวในข้อหาหมิ่นสถาบันฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์

นายหัสดิน จบการศึกษาจากโรงเรียนอัสสัมชัญคอมเมิรซ์ ใช้ชีวิตช่วงหนึ่งในต่างประเทศ หลังจากกลับมาได้เข้าทำงานที่โรงแรมวินเซอร์ และย้ายสถานที่ทำงานหลายครั้ง แต่งงานและมีบุตร 3 คน และได้หย่าขาดกับภรรยาคนแรกกว่า 30 ปี เนื่องจากถูกจับได้ว่านายหัสดินมีภรรยาคนใหม่  

ต่อมา นายหัสดิน ได้ร่วมกับนางสายฝน อินทรสร ผู้ต้องหาอีกคนหนึ่ง จัดตั้งบริษัท แต่ประสบขาดทุน ต่อมาเมื่อปี 2548 ได้ถูกฟ้องล้มละลาย นายหัสดิน จึงไม่ได้ประกอบสัมมาชีพใดๆ โดยขอเงินจากบุตรที่นายหัสดินไม่เคยเลี้ยงดู และใช้ชีวิตอย่างหรูหราฟุ่มเฟือย

ต่อมา เมื่อเกิดสถานการณ์ทางการเมือง นายหัสดิน ได้ร่วมชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) หรือคนเสื้อแดง และมีความคิดต่อต้านสถาบันฯ จึงเลียนแบบการจัดรายการวิทยุของบุคคลต่างๆ อาศัยที่นายหัสดิน เป็นผู้ติดตามข้อมูลข่าวสารต่างๆ ทางอินเตอร์เน็ตตลอดเวลา จึงนำข้อมูลต่างๆ มาเรียบเรียงและแต่งเรื่องเพิ่มเติมขึ้นใหม่ เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับสถานการณ์การเมือง เพื่อให้มีเนื้อหาที่ดึงดูดความสนใจ แล้วชี้นำปลุกระดมให้เกิดความเกลียดชังต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ แสร้งทำเป็นบุคคลที่เทิดทูนต่อพระราชวงศ์บางพระองค์ เพื่อให้เกิดภาพว่า ตนเองมีความจงรักภักดี แต่ที่แท้จริงนายหัสดิน มีทัศนะที่ต้องการล้มล้างสถาบันหลักของชาติ การเผยแพร่คลิปเสียงจึงต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่องและใช้เวลาหลายปีจนถึงปัจจุบัน

นายหัสดิน อวดอ้างกับเครือข่ายว่า ตนเองใช้ชีวิตหรูหราเพราะมีพื้นฐานทางครอบครัว แต่ที่แท้จริงเป็นบุคคลล้มละลาย และมีนิสัยเจ้าชู้ มักหลอกขอเงินใช้ตลอดมา รวมทั้งใช้ให้เครือข่ายตัวเองหลอกลวงบรรดาสมาชิก ให้หลงเชื่อ จัดทำสินค้า ยาดมสมุนไพรจำหน่าย เพื่อเอาเงินมาใช้ในการเช่าบ้านอยู่ และค่าใช้จ่ายในการจัดซื้อสุราดื่มทุกวัน ทำให้นายหัสดิน มีโรคประจำตัวหลายอย่าง โดยเฉพาะโรคเบาหวานที่ต้องกินยาควบคุม และเป็นโรคปวดหลังต้องนอนกับพื้นห้อง ขณะที่นายหัสดินกลับโฆษณากับสมาชิกว่า สมุนไพรที่ตนเองแนะนำสามารถรักษาได้ทุกโรค