5 ก.พ.58 ที่อาคารรัฐสภา นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ประธานคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ
ได้ให้การต้อนรับคณะนักเรียนจากโรงเรียนมีชัยพัฒนา อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ ที่ได้มอบเงินสมทบทุน ซึ่งได้รวบรวมกันมา จำนวน 1,816 บาท เพื่อจัดทำหนังสือจุลสาร "รัฐธรรมนูญฉบับปฏิรูป" ฉบับใหม่ โดยหลังจากที่ นายบวรศักดิ์ ได้รับมอบเงินจำนวนดังกล่าวแล้ว นายบวรศักดิ์ กล่าวว่า ตนจะให้ความสำคัญกับการฟังเสียงของเยาวชน เพราะจะเป็นคนรุ่นต่อไปที่มีบทบาทสำคัญในประเทศ
หลังจากนั้น นายบวรศักดิ์ กล่าวถึงกรณีการประชุมแม่น้ำ 5 สาย เมื่อวานนี้ (4 ก.พ.) ว่า
ตนไม่รู้สึกกดดันกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ระบุว่าการยกร่างรัฐธรรมนูญอาจจะเสร็จเร็วกว่ากำหนด เพราะอาจมีความเป็นไปได้ แต่อย่างไรก็ตามยังไม่สามารถกำหนดกรอบเวลาที่แน่นอนชัดเจนได้ว่า จะมีการจัดการเลือกตั้งได้ช่วงใด เพราะต้องดูทิศทางหลังจากร่างรัฐธรรมนูญแรกเสร็จสิ้น โดยจะมีการเสนอให้สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) พิจารณาในวันที่ 17 เม.ย.นี้
ทั้งนี้ นายบวรศักดิ์ กล่าวต่อว่า ตนยืนยันว่าการร่างรัฐธรรมนูญครั้งนี้ จะต้องมีการจัดทำ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ ให้เสร็จสิ้นทั้ง 11 ฉบับ
ก่อนจะมีการบังคับใช้ เพื่อไม่ให้ซ้ำรอยเหมือนกับรัฐธรรมนูญฉบับปี 2550 ที่ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ หลายฉบับไม่ออกมาพร้อมกับรัฐธรรมนูญ ขณะที่การทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ก็จะมีความชัดเจนก่อนวันที่ 6 ส.ค.ซึ่งจะเป็นวันสุดท้ายที่มีการปรับแก้ไขร่างฯ เนื่องจากการกำหนด พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ จะต้องระบุไว้ในส่วนของบทเฉพาะกาล อีกทั้งหากจะมีการทำประชามติ ก็จะต้องมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว เพื่อเปิดทางให้สามารถดำเนินการได้
อีกทั้งกรณีที่ทางคณะกรรมาธิการยกร่างฯ บัญญัติให้มีคณะกรรมการดำเนินการแต่งตั้งข้าราชการโดยระบบคุณธรรม จำนวน 7 คน
ประกอบด้วย กรรมการผู้ทรงคูณวุฒิในข้าราชการพลเรือน 2 คน ผู้ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงหรือเทียบเท่า 3 คน และประธานกรรมการจริยธรรมของทุกกระทรวง ซึ่งเลือกกันเอง จำนวน 2 คน ซึ่งมองว่าเป็นการแก้ปัญหาที่มีการแทรกแซงการแต่งตั้งโยกย้ายจากฝ่ายการเมือง เหมือนกับระบบของประเทศอังกฤษ ซึ่งข้าราชการจะต้องมีความเป็นกลางทางการเมือง และจะทำตามนโยบายของฝ่ายบริหาร แต่ก็มีสิทธิ์ที่จะทักท้วงนโยบายที่เห็นว่าอาจขัดต่อกฎหมายต่อเลขาธิการคณะรัฐมนตรีได้