นายกฯสั่งกำชับให้ล่าตัว "ผู้โพสต์" ข้อความหมิ่นม.112 ทุกคดี ไม่ว่าอยู่ในประเทศหรือต่างประเทศ ยันสิ่งที่ทำเพื่อให้เกิดความชอบธรรม ทุกอย่างต้องมีหลักฐาน จะกล่าวอ้างลอย ๆ ไม่ได้ ชี้ "สถาบัน" ให้ความเมตตา แต่คนเหล่านี้กลับไม่เข้าใจ
เมื่อเวลา 17.20 น. วันที่ 4 ก.พ. ที่สโมสรทหารบก ถ.วิภาวดีรังสิต
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงความคืบหน้าเหตุระเบิดที่หน้าห้างสยามพารากอนว่า จากที่ได้รับรายงาน ตอนนี้ตำรวจได้ออกหมายจับไปแล้ว คิดว่าได้ตัวแน่นอน ซึ่งจะเกี่ยวข้องกับใคร ตนบอกให้ทำอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะพวกไหน ตอนนี้มีพยานหลักฐานพอสมควร ต้องหาตัวคนผิดมาให้ได้ ถ้าไม่ได้จะเป็นตัวอย่างต่อไป
ส่วนการจับกุมผู้ที่เผยแพร่เอกสารปลอมของสำนักพระราชวังนั้น
นายกฯ กล่าวว่า ทราบว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวผู้ต้องหาที่กระทำผิดกฎหมายมาตรา 112 ได้ที่จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งเป็นคนที่เกี่ยวข้องกับการโพสต์ข้อความหรือไม่ ต้องดูรายละเอียดกัน ทั้งหมดคือสิ่งที่เรากำลังทำอยู่ เพื่อให้เกิดความชอบธรรมด้วยหลักฐาน จะกล่าวอ้างลอย ๆ ไม่ได้ และต้องมีการติดตามทุกคดี ไม่ว่าจะในหรือต่างประเทศ จับได้หรือไม่ได้ ก็ต้องรู้ว่าอยู่ตรงไหน ถ้าอยู่ในต่างประเทศจะทำอย่างไร เขาจะมีการส่งตัวให้หรือไม่ เพราะเราไม่สามารถไปจับกุมตัวยังต่างประเทศได้ ที่ผ่านมา "สถาบันพระมหากษัตริย์" ก็ทรงเมตตาคนเหล่านี้ แต่คนเหล่านี้กลับไม่เข้าใจ
เมื่อถามว่า กรณีดังกล่าวจะสามารถใช้กฎหมายความมั่นคงทางไซเบอร์ จัดการได้หรือไม่
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ที่ประชุมได้มีการพูดคุยกัน แต่กฎหมายที่เกี่ยวข้องทั้ง 8 ฉบับของกระทรวงโทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) จำเป็นต้องออกให้ทันเวลา ให้ทันการเปิดใช้ 4G ในประเทศ รวมไปถึงการประมูลคลื่นความถี่และโครงสร้างพื้นฐานด้านการสื่อสาร ซึ่งมีทั้งของรัฐบาลและเอกชนเข้ามาลงทุน กรณีนี้ต้องดูแลทั้งระบบ ทั้งการบริหารจัดการ หน้าที่ของ กสทช.งบประมาณจากการประมูลคลื่นความถี่ และรัฐบาลจะได้ประโยชน์อย่างไร และจะนำไปใช้ในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศได้อย่างไร ซึ่งหากมีเสรีภาพอย่างเดียว แล้วมีปัญหาทำให้เกิดความรุนแรง ก็ต้องช่วยกันคิด ว่าจะให้มีเสรีภาพอย่างไร แล้วไม่มีปัญหา