"อ.สื่อสารมวลชน มธ." แนะนายกฯงดพูดทุกเรื่องแบบรายวัน เพราะเป็นการลดบทบาท "รมต.คนอื่น" โดยไม่รู้ตัว ชี้ไม่แปลกใจที่ "หม่อมอุ๋ย" จะน้อยใจที่พูดแล้วไม่ได้ลง แนะสื่อควรปรับตัวเอง ต้องรู้เท่าทันว่าเรื่องศก.ต้องถามใคร ยอมรับรัฐบาลนี้ยังขาดทีมโฆษกที่เป็นมืออาชีพ

กรณีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. ออกมาให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนรายวัน
 
และตอบข้อซักถามในทุกเรื่องที่มีการตั้งคำถาม จนเกิดวิวาทะกับสื่อมวลชนบ่อยครั้ง กระทั่งม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ ยังออกมาตัดพ้อเชิงน้อยใจและตำหนิสื่อมวลชนว่า ลงข่าวแต่นายกรัฐมนตรี แต่ไม่สนใจข้อมูลข้อเท็จจริงที่ตัวเองพูดที่มีสาระสำคัญ

ในเรื่องนี้ ศ.ดร.สุรพงษ์ โสธนะเสถียร ศาสตราจารย์ประจำคณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
 
กล่าวให้ความเห็นว่า การแถลงข่าวหรือการให้สัมภาษณ์ของนายกฯนั้น ในฐานะสื่อสารมวลชน ตนมองว่าไม่จำเป็นที่ "ผู้บริหาร" ต้องตอบสื่อทุกเรื่องหรือแถลงทุกเรื่อง แต่ควรเป็นหน้าที่ของประชาสัมพันธ์ ซึ่งโฆษกรัฐบาลที่มีความสามารถทางด้านนี้ จะให้สัมภาษณ์ได้ดีกว่า เป็นวิชาชีพกว่า เป็นมืออาชีพกว่า

"การเป็นผู้บริหารไม่ได้หมายความว่า จะต้องเป็นมืออาชีพด้านการประชาสัมพันธ์ ผมมองว่านายกฯไม่ควรให้สัมภาษณ์ นอกจากกรณีจำเป็นที่ต้องแสดงภาพของความเป็นผู้นำประเทศ การแถลงข่าวทุกวัน ไม่ใช่ภาพผู้นำประเทศ แต่เป็นกลายการแสดงตัวเป็นพนักงาน"ศ.ดร.สุรพงษ์ระบุ

สำหรับกรณีของม.ร.ว.ปรีดิยาธร ที่ออกมาตัดพ้อและตำหนิสื่อมวลชนที่ไม่เสนอข่าวที่ตัวเองพูดนั้น

ศ.ดร.สุรพงษ์ กล่าวว่า ท่านมีสิทธิ์ที่จะน้อยใจได้ เพราะม.ร.ว.ปรีดิยาธร มีหน้าที่รับผิดชอบและให้ข่าวด้านเศรษฐกิจ แต่บ่อยครั้งที่นายกฯกลับแถลงข่าวเอง ซึ่งการที่นายกแถลงข่าวทุกวัน เป็นการลดบทบาทรัฐมนตรีคนอื่นโดยไม่รู้ตัว ฉะนั้นม.ร.ว.ปรีดิยาธรน้อยใจ เป็นเรื่องไม่ผิด สื่อมวลชนเองก็มีส่วนผิด เพราะสื่อควรมีความรู้เท่าทัน ว่าเรื่องเศรษฐกิจควรจะสัมภาษณ์ม.ร.ว.ปรีดิยาธร ไม่ควรถามนายกฯ ส่วนเรื่องลีลาการให้สัมภาษณ์ของม.ร.ว.ปรีดิยาธรนั้น เป็นเรื่องลักษณะเฉพาะตัว เปลี่ยนกันได้ยาก แต่ผู้สื่อข่าวสามารถช่วยได้ ด้วยการถามประเด็นที่น่าสนใจ หรือม.ร.ว.ปรีดิยาธรอาจจะมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ท่านอื่น ที่มีลีลาน่าสนใจกว่า เป็นผู้แถลงข่าวแทน ส่วนตัวมองว่าสิ่งที่รัฐบาลยังขาดอยู่คือทีมโฆษกฯที่เป็นมืออาชีพ ที่สามารถเรียกร้องความน่าสนใจได้ดีกว่าทุกวันนี้