‘หมอวรงค์’บวชแล้ว วางมือจับโกงจำนำข้าวยุคปู ปล่อยเป็นหน้าที่ศาล

‘หมอวรงค์’บวชแล้ว วางมือจับโกงจำนำข้าวยุคปู ปล่อยเป็นหน้าที่ศาล

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 31 มกราคมที่วัดธารน้ำไหล (สวนโมกขพลาราม) อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี
 
พระสุเทพ ปภากโร (อดีตเลขาธิการ กปปส.)จัดโครงการบวช เพื่อบำเพ็ญธรรมถวายเป็นพระราชกุศลฯ โครงการ 3 โดยมีผู้ประสงค์ที่จะบรรพชาอุปสมบทจำนวน 58 ราย ที่เป็น อดีตส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์ ประกอบด้วย นายเชน เทือกสุบรรณ อดีตส.ส.สุราษฏร์ธานี นายแพทย์วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีต.ส.ส. พิษณุโลก นายวิรัตน์ วิริยะพงษ์ อดีต ส.ส.สุโขทัย  นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ อดีตรมว.ศึกษาธิการ อดีตส.ส.นครศรีธรรมราช และนายสำราญ รอดเพชร แกนนำกปปส.

สำหรับ นพ.วรงค์ ผู้ที่เป็นแกนนำสำคัญในการจับทุจริตโกงจำนำข้าวของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เมื่อบวชเป็นพระแล้ว ได้ฉายาว่า “คุณวโร” ( คุ-ณะ-วะ-โร) มีหมายว่า ผู้มีคุณอันประเสริฐ          

ส่วนพระวิรัตน์ ได้ฉายาว่า  อริญชะโย, พระชินวรณ์  ได้ฉายาว่า จันทะสาโร มีความหมายว่า ผู้มีแสงสว่างเป็นสาระ พระเชน ได้ฉายาว่า  อาภาธโร หมายความว่า ผู้มีความดีอันประเสริฐ  และพระสำราญ ไดเฉายาว่า อุปะสะโม

อย่างไรก็ตามก่อนอุปสมบท นายแพทย์วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีต ส.สพิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ว่า การบวชในครั้งนี้ไม่ได้เป็นการบวชเพื่อแก้บน ที่งานทุกอย่างอย่างสำเร็จลง

และขอชี้แจงว่า  สาเหตุของการมาบวชในครั้งนี้เป็นเพราะเมื่อคราวที่ พระสุเทพได้บวชใหม่ๆพวกเราบรรดา ส.ส ได้มากราบนมัสการท่านและท่านก็ได้ชวนพวกเราบรรดาอดีตส.ส.ของพรรคบวช โดยท่านกล่าวว่าทางวัดจะมีการจัดโครงการบวชถวายในหลวง ตอนนั้นตนยังมีภารกิจเยอะอยู่อย่างเช่นติดตามโครงการทุจริตรับจำนำข้าวของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ โดยเฉพาะเรื่องข้าวหากไม่มีตน ก็จะไม่มีใครที่สามารถชี้เรื่องดังกล่าวได้ เพราะอีกฝ่ายพยายามทีเอาข้อมูลที่บิดเบือนออกมาตลอด เราจึงต้องพยายามอธิบายข้อเท็จจริงให้ได้และ เรื่องนี้เมื่อจบก็จบลงในทางที่ตนพอใจตามเป้าเป็นอย่างมากทั้งคดีทางการเมืองและคดีทางอาญาและเมื่อเรื่องที่ได้ทำจบลงก็นึกได้ว่าพระสุเทพเคยชวนให้บวช เมื่อมาถึงจังหวะนี้เห็นว่าเป็นเวลาที่เหมาะสม

นายแพทย์วรงค์ กล่าวต่ออีกว่าในประเด็นที่ตนเขียนในเฟสบุ๊กที่บอกว่า ขอโหสิกรรมนั้นเป็นการต่อสู้ทางการเมืองที่เราต่อสู้จริง

  ทุกอย่างต้องเคลียร์ออกมาให้ได้ บางคนเขามองว่า เรามีความขัดแย้งส่วนตัวอะไรหรือไม่ และมีส่วนเกี่ยวข้องในผลประโยชน์เรื่องข้าวอะไรหรือไม่  ก็ขอบอกเลยว่าไม่มี  เราทำหน้าที่ที่ผ่านมาด้วยความบริสุทธิ์ใจและเพื่อประเทศ เพราะว่าเรามองเห็นถึงความเสียหายของประเทศ และเราต้องการสื่อออกไปว่าเราไม่มีอะไรกันนะ ทุกอย่างมันจบแล้วและการบวชครั้งนี้เป็นการบวชถวายในหลวงด้วย และยังถือโอกาสแผ่เมตตาอุทิศส่วนกุศลร่วมกันเราไม่มีอะไรที่บาดหมางต่อกัน

เมื่อถามว่าในช่วงลาบวชอยู่นี้ หากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)

ต้องการขอข้อมูลเพิ่มเติ่มในส่วนของคนอื่น  นายแพทย์วรงค์กล่าวว่า คิดว่า คงไม่มีแล้วเพราะถ้าเป็นทางการเมืองทุกอย่างจบแล้ว แต่ถ้าเป็นทางคดีอาญาก็จะเป็นหน้าที่ของศาลแล้วไม่ใช่หน้าที่ของเราแล้ว กรณีของนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ ทุกอย่างชัดเจนฟ้องด้วยหลักฐานหมดแล้ว เป็นเรื่องง่าย

ผู้สื่อข่าวถามว่า มองว่าที่ผ่านมาการทำงานของ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ( สนช.)ตรงตามมที่ต้องการหรือตามที่ประชาชนคาดหวังหรือไม่

นายแพทย์วรงค์ กล่าวต่อว่าตนคิดว่าในช่วงแรกอาจจะเป็นเพราะข้อมูลต่างๆไม่เคลียร์แต่หลังๆจากที่ฝ่ายเขาพยายามเอาข้อมูลที่ไม่ถูกต้องออกมา  เราก็เอาข้อมูลที่ถูกต้องใส่เข้าไปและได้รับการพิสูจน์ด้วยคำแถลงหรือบทสรุปของหลายฝ่าย เช่น คณะกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าว ทีมีความชัดเจน มีตัวผู้กระทำความผิดรวมไปถึงการลงพื้นที่ตรวจโกดังข้าวของม.ล.ปนัดดา  ดิศกุล รมต.ประจำสำนักฯและการดำเนินคดีของปลัดกระทรวงพาณิชย์ และการชี้มูลของป.ป.ช ทำให้กระแสสังคมจึงโหมโรงออกมาว่าทำกันมากมายขนาดนี้เลยเหรอ มันจึงทำให้การตัดสินใจของสนช.ง่ายขึ้น

เมื่อถามว่าเป็นเช่นนี้จะทำให้ใจเราสงบลงมากขึ้นก่อนที่จะบวช นายแพทย์วรงค์ กล่าวต่อว่า
 
ถูกต้อง เพราะหากงานไม่เสร็จใจก็จะกังวล เพราะเมื่อมานึก ก็จะพบว่าหากไม่มีเราแล้วใครจะมาอธิบายวันนี้ เมื่อทุกอย่างจบนึกได้ว่าเคยรับปากท่านไว้ก็เลยมาบวชทำความดี 

เมื่อถามว่าหลังจากที่เรามีการแจ้งความประสงค์ จะบวชต่อพระสุทพ ก็มีการคุยกันในกลุ่มเพื่อนส.สก็โอเคและส.ส.ที่เคยบวชแล้วอย่างนายวิทยา แก้งวภราดัย แกนนำกปปส.ก็มีการสอบถามตลอดว่าพร้อมรึยัง และเมื่อพร้อมก็ได้ตอบตกลงว่าจะมาบวชว  ทางครอบครัวเขาก็สนับสนุน เพราะที่ผ่านตนยังไม่เคยบวชมาก่อน เป็นการบวชครั้งแรก ตนมีความรู้สึกว่าอยากศึกษาธรรมะ เพราะผ่านมามีโอกาสได้ไปหลายประเทศอย่างพม่าและพบว่าคนพม่าส่วนใหญ่จะศรัทธาในศาสนา นิยมบวชเป็นพระ

ทั้งนี้ คนที่เป็นนักการเมืองส่วนใหญ่ถ้าได้บวชน่าจะเป็นประโยชน์ ส่วนคนที่จะมาเป็น ส.ส.ควรบวชเรียนมาก่อน หรือไม่

นั้นตนมอง ตรงนี้มันแล้วแต่บุคคลอย่างตนบังเอิญได้เห็นความศรัทธาของชาวพม่า พบว่าเขามีความศรัทธาในการบวชเป็นพระสูงมาก  และในความเห็นส่วนตัวแล้วมองว่าคนไทยน่า จะเข้ามาศึกษาทางพระพุทธศาสนาให้มากคิดว่าเราเมื่อได้บวชแล้วการทำงานอนาคตจะดีขึ้นหรือไม่นั้น  ก็อาจจะทำให้มีจิตใจที่ดีและมีสมาธิมากขึ้น คนที่เป็นนักการเมืองเมื่อมีจิตใจที่ดีขึ้นมีสมาชิกมากขึ้นประเทศก็น่าจะดีขึ้น ส่วนโครงการที่พระสุเทพทำในครั้งนี้นับว่าเป็นสิ่งที่ดี การคัดกรองบุคคลเข้าร่วมในโครงการอย่างละเอียดนั้นก็เพื่อต้องให้ได้คนที่ดี เพราะคนที่มาบวชก็ต้องเป็นหลักใหักับศาสนาได้


ทางด้านนายวิรัตน์ วิริยะพงษ์ อดีต ส.ส.สุโขทัย  พรรคประชาธิปัตย์
 
กล่าวก่อนอุปสมบทว่าเบื้องต้นตอนที่มาเยี่ยมกราบนมัสการ พระสุเทพหลังจากที่ท่านบวชได้ 1 เดือน ได้เห็นการปฎิบัติธรรมของท่านทำให้เกิดความรูสึกเลื่อมใสและจึงมีความตั้งมั่นว่าหากมีเวลาก็จะต้องมาบวช อีกทั้งที่ผ่านมาก็ได้สิบถามเพื่อน ส.ส.ที่เคยบวชไปก่อนบ้างแล้วการบวชเป็นการชำระล้างจิตใจ คิดว่าหลังจากนี้เชื่อมั่นว่าการทำหน้าที่การเป็น ส.สจะดีขึ้นมีคุณธรรมจริยธรรมมากขึ้น อย่างไรก็ตามกลับไปอาจจะไปชวนบรรดาเพื่อนส.ส.ให้มาร่วมในการปฎิบัติธรรมด้วย


เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์แนวหน้า


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์