26 ม.ค. 58 เมื่อเวลา 10.10 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี
ให้สัมภาษณ์หลังจากที่หลายฝ่ายเป็นห่วงสถานการณ์ทางการเมืองที่อาจเกิดความวุ่นวายขึ้นภายหลังที่สนช.มีมติถอดถอนนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีว่า ไม่ห่วงทุกคนต้องเข้าใจว่าทุกอย่างเป็นไปตามกติกาและกฎหมาย "อย่าไปเขียนว่าเป็นการไปไล่ล่าใคร อย่าลงทุนกันมากขนาดนั้นเลยไม่ได้ต้องการไปไล่ล่าใครเป็นกรณีพิเศษแล้วต้องใช้ประเทศทั้งประเทศ หรือประชาชนทั้งประเทศมาต่อสู้กันนั้น ผมว่ามันไม่ใช่ ผมคงไม่ไปลงทุนขนาดนั้น ทุกอย่างก็ต้องเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย กติกาและกฎหมายว่าอย่างไร ถ้ามันทำไม่ได้ก็คือทำไม่ได้อะไรทำได้ก็ทำได้"
เมื่อถามว่านางสาวยิ่งลักษณ์ ได้มีการติดต่อมาบ้างหรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวปฏิเสธว่า ไม่มีการติดต่อ เขาจะติดต่อมาเรื่องอะไร ยืนยันว่าไม่มีการโทรศัพท์มาพูดคุยหรือติดต่ออะไรมาทั้งนั้น
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากช่วงนี้นางสาวยิ่งลักษณ์จะขออนุญาต คสช.เพื่อเดินทางไปต่างประเทศทำได้หรือไม่
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องถามกระบวนการยุติธรรมเขาก่อนว่าจะว่าอย่างไร ปกติการจะห้ามคนเดินทางไปไหนมาไหนต้องใช้กฎหมายไม่ใช่อะไรก็จะถาม คสช.ฝ่ายเดียว วันนี้ต้องถามว่าฝ่ายกฎหมายว่าอย่างไร มีความผิดแล้วหรือยัง เมื่อถามต่อว่า หากขั้นตอนของกฎหมายไม่มีข้อบัญญัติห้าม ก็มีสิทธิที่จะเดินทางไปต่างประเทศใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ถ้ายังไม่มีการห้ามมาก็ต้องมาดูว่าวันนี้ยังอยู่ในกระบวนการการต่อสู้หรือเปล่า วันนี้ในเรื่องการถอดถอนจากตำแหน่งเป็นเรื่องของคดีทางการเมือง ซึ่งก็เหมือนทุกครั้ง ในส่วนคดีการถอดถอนมันไม่ได้มีคดีอาญาไม่ใช่หรือ
เมื่อถามว่า หากมองภาพกว้างของสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจะส่งผลกระทบต่อการปรองดองหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวปฏิเสธว่า ไม่กระทบ ตนบอกแล้วว่าให้แยกเรื่องออกจากกันว่าอะไรคือการสร้างความปรองดอง อะไรคือคดีความทางกฎหมาย
"ผมบอกแล้วไงว่าเราอย่าลงทุนประเทศทั้งประเทศกันเลย บางอย่างขอให้เป็นไปตามกระบวนการต่อสู้ ซึ่งทุกคนก็ต้องยอมรับในกติกา ถ้าทุกคนไม่ยอมรับกติกาทุกอย่างก็จะกลับไปเป็นเหมือนเดิม กลับไปที่เก่า ผมเคยบอกแล้วว่าถ้าไม่ได้ทำอะไรให้เกิดปัญหา ไม่มีเรื่องเกิดขึ้นก็จะไม่ต้องเข้าสู่กระบวนการ แต่เมื่อมันมีปัญหาเกิดขึ้นมา ทุกอย่างก็ต้องเข้าสู่กระบวนการ ทุกคนก็ต้องเคารพเมื่อตัดสินอย่างไรก็ต้องว่าไปตามนั้น วันนี้ไม่มีสภา มีแต่ สนช.และสปช.ซึ่ง สนช.ก็ต้องทำงานแทนสภา ก่อนหน้านี้ก็ใช้สภาเป็นที่ถอดถอนไม่ใช่หรือ ถ้าจะบอกว่าสภานี้ไม่ได้รับการเลือกตั้งมา แต่ สนช. เป็นของรัฐบาลนี้ ซึ่งเป็นรัฐบาลในวาระพิเศษ ทำหน้าที่แทนรัฐบาลจริง เมื่อแต่งตั้ง สนช.ขึ้นมา เขาก็ต้องทำงานและสมาชิกที่อยู่ใน สนช.ก็ไม่ใช่พวกผม ไม่ได้คัดมาเพราะพวกผมแต่คัดมาด้วยคุณสมบัติและความเหมาะสม เพียงแต่ต้องมีทหารและข้าราชการอื่นๆ เข้ามาด้วยและการตัดสินก็เป็นไปตามกระบวนการและวิจารณญานของเขา ขึ้นอยู่กับการชี้แจงและการตอบคำถาม ผมออกมาอย่างไรก็เป็นอย่างยั้น ถ้ามันไม่ผิดก็คือไม่ผิดจะไปสั่งอะไรเขาได้ ผมไม่ได้ตั้งขึ้นมาเพื่อใช้ไปไล่ล่า ฆ่าฟันใคร เพียงแต่ตั้งขึ้นมาเพื่อแทนสภาเพราะยังมีกฎหมายอีกมากที่ริผ่านการพิจารณา"นายกฯกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีข้อเท็จจริงอย่างไรเพราะขณะนี้มีกระแสข่าวว่าถ้ามีการเคลื่อนไหวอย่างใดอย่างหนึ่งจะมีการใช้กฎอัยการศึกเข้าไปดำเนินการ
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า "ไม่ใช่อย่างนั้น เพียงแต่ ไม่ว่าใคร จะออกมาเคลื่อนไหวใดๆ ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ไม่ได้ทั้งนั้น วันนี้เราต้องการความสงบสุขเรียบร้อย ประชาชนก็เรียกร้องว่าขอให้บ้านเมืองมีความสงบสุข ดังนั้นไม่ว่าใครก็ออกมาเคลื่อนไหวไม่ได้ ไม่ใช่เฉพาะเรื่องคดีการถอดถอนเท่านั้น ทุกคณะจะออกมาเคลื่อนไหวใดๆ ไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม"