ทักษิณ ชินวัตร หลังถอดถอนยิ่งลักษณ์

ทักษิณ ชินวัตร หลังถอดถอนยิ่งลักษณ์

คอลัมน์ โครงร่างตำนานคน โดย การ์ตอง


ไม่ใช่แค่ถูกสภานิติบัญญัติแห่งชาติถอดถอนจนสิทธิทางการเมืองถูกตัดไป 5 ปี ถูกบังคับให้เดินลงจากสนามการเมืองเท่านั้น แต่ "ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" ยังต้องเผชิญชะตากรรมในความผิดทางอาญา ด้วยสำนักงานอัยการสูงสุดแถลงออกมาแล้วว่าจะส่งฟ้องข้อหาทุจริตในโครงการรับจำนำข้าวต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง อันหมายถึงเส้นทางของ "ยิ่งลักษณ์" เลยเถิดไปถึงมีโอกาสติดคุกติดตะรางได้

นับเป็นชะตากรรมที่ชวนขนลุกขนพองไม่น้อย

ดังนั้นหลังจากอัยการสูงสุดประกาศฟ้องและสนช.ลงมติถอดถอนในวันเดียวกันเสียงพูดถึง "ยิ่งลักษณ์" จึงออกมาในทางที่ดูเหมือนว่าการจัดการตัวเองที่ดีที่สุดน่าจะเป็นแบบเดินตามรอย "ทักษิณ ชินวัตร" ผู้พี่ คือหาทางออกไปอยู่ต่างประเทศในฐานะผู้ลี้ภัยทางการเมือง

มีการประเมินกันว่า แม้จะดูจากการที่นายนิคม ไวยรัชพานิช และนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ไม่ถูกถอดถอนไปด้วย แสดงว่านักการเมืองที่เคยเป็นเครือข่ายของ "ทักษิณ ชินวัตร" ยังไม่ได้ถูกล้างบางให้ล้มหายกันแบบสิ้นซาก ยังเปิดทางให้เข้ามามีบทบาทได้อีกหลังจากนี้

อย่างไรก็ตาม บทบาทที่จะเข้ามาเล่นนั้น คงต้องทบทวนกันอย่างหนักว่าจะยืนหยัดอยู่ในสายชินวัตรหรือไม่ เนื่องจากเสียงถอดถอน "ยิ่งลักษณ์" 190 ต่อ 18 เสียงนั้นเป็นการส่งสัญญาณชัดเจนว่าเป็นการผนึกกำลังกันอย่างเป็นเอกภาพในการจัดการกับ "ตระกูลชินวัตร" อย่างเด็ดขาด

ปิดหนทางที่จะกลับมาสู่เส้นทางอำนาจอย่างสิ้นเชิง

เป็นความชัดเจนว่าทุกฝ่ายพร้อมผนึกกำลังอย่างพร้อมเผชิญหน้าเพื่อเขี่ยทิ้งตระกูลชินวัตรพ้นไป

และนี่เป็นสัญญาณที่น่าสนใจไม่น้อย

และคนที่จะต้องมองเรื่องราวนี้อย่างวิเคราะห์ทบทวนใหญ่อีกครั้งคือ "ทักษิณ ชินวัตร"

ก่อนหน้านั้นแม้จะเผชิญชะตากรรมหนักหนาสาหัสเพียงไหนแต่เป็นที่รับรู้กันในแวดวงผู้เสาะหาข่าวว่า "ทักษิณ ชินวัตร" ยังมีความหวังเสมอว่าจะได้กลับมาอยู่ในแผ่นดินเกิด

ยังเชื่อมั่นว่า หากประเทศกลับเข้าสู่ระบอบประชาธิปไตย เปิดโอกาสให้ประชาชนเลือกผู้นำประเทศ พรรคการเมืองที่ "ทักษิณ" มีบทบาทสำคัญในการก่อตั้งจะได้ชัยชนะเป็นรัฐบาล

และอำนาจรัฐที่ได้มาจะทำให้ช่องทางกลับแผ่นดินเกิดเปิดขึ้นเพื่อต้อนรับได้

ความหวังเช่นนั้นมีอยู่เสมอท่ามกลางความเชื่อมั่นว่าหากเป็นเวทีประชาธิปไตยแล้วยังมีความเหนือกว่าคู่ต่อสู้อยู่

และความเชื่อนี้ส่งผลทางการเมืองอยู่ไม่น้อย

มันหมายถึงการต่อสู้ทางการเมืองระหว่างผู้นิยมประชาธิปไตยกับฝ่ายอำนาจนิยมยังมีเงื่อนไขที่ขบเหลี่ยมเฉือนคมในโอกาศแห่งชัยชนะกันอยู่

ดังนั้นความน่าสนใจจึงอยู่ที่"ชะตากรรม"ของ "ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" ครั้งนี้ ส่งผลอย่างไรต่อความคิดของ "ทักษิณ"

เมื่อคนแล้วคนเล่าต้องเอาอนาคตที่สุขสบายมาสังเวยการเมือง ทำให้กลายเป็นผู้ที่อยู่อย่างทุกข์ร้อนลำบาก

จะยังยืนหยัดที่จะสู้ต่อหรือไม่

การตัดสินใจสู้หรือไม่สู้ของ"ทักษิณ"

ย่อมส่งผลต่อความเป็นไปของประเทศที่แตกต่างกัน



ที่มา : มติชนรายวัน ฉบับวันที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2558


เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์