พล.อ.สนธิยันนายกฯพร้อม ประกาศภาวะฉุกเฉินหากวิกฤติ

"พล.อ.สนธิ" รู้ข่าวม๊อบเสื้อแดงเคลื่อนไหวตามเช็คใครอยู่เบื้องหลังกันแน่ ยันปรับแผน"พิทักษ์1" เพื่อให้เกิดความเข้มงวดรัดกุม พร้อมประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินหากสถานการณ์วิกฤติ

ถึงการเตรียมการรับการเคลื่อนไหวของกลุ่มม๊อบเสื้อสีแดงว่า จากข้อมูลของงานข่าวกรองได้แจ้งว่ามีการเคลื่อนไหวจริงแต่ยังไม่รู้ว่าเป็นใคร องค์กรไหนหรือกลุ่มไหน เรากำลังติดตามอยู่ ต้องรอให้ปรากฏขึ้นมาก่อนแล้วเราค่อยว่ากันอีกที

อย่างไรก็ตามในฐานะที่ตนดูแลด้านความมั่นคงไม่ได้วิตกอะไรและไม่ได้เป็นห่วงอะไร

"จากที่ได้รับข่าวมีการจ่ายเงินจ้างมอเตอร์ไซต์รับจ้างและแท๊กซี่จริง หัวละ 200 บาท อย่างไรก็ตามก็ต้องตรวจสอบเพราะเรื่องอย่างนี้ สามารถพูดใส่ร้ายกันได้ ต้องรอให้เกิดเสียก่อนแล้วค่อยว่ากันอีกที

ทั้งนี้ทาง คมช.ได้สั่งให้มีการเตรียมการตามแผนพิทักษ์ 1 ที่ปรับกันขึ้นมาใหม่และได้ประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและกทม.รวมถึงในจังหวัดต่างๆและปริมณฑล ทั้งนี้การปรับแผนเป็นแผนพิทักษ์ 1 เพื่อที่จะให้จำกัดวงให้แคบลงมาในการปฎิบัติ เพื่อให้เกิดความสมบูรณ์" พล.อ.สนธิ กล่าว

พล.อ.สนธิ กล่าวว่า ก็ไม่เป็นไร ซึ่งเราจะต้องติดตามดูว่าจะชุมนุมกันที่บริเวณใด ซึ่งการชุมนุมกันจะต้องได้รับขออนุญาตก่อน

ซึ่งถือว่าเป็นขั้นตอนการปฎิบัติของเจ้าหน้าที่ คือวิกฤติขั้นที่ 1-2-3 หากไม่รุนแรงก็ไม่จำเป็นต้องใช้กำลังทหาร ถ้าจำเป็นก็จะประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ซึ่งถือว่าเป็นขั้นต้องการปฎิบัติตามธรรมดา

โดยในสัปดาห์นี้ตั้งแต่วันที่ 25 พฤษภาคมเป็นต้นไป ได้สั่งการให้เตรียมพร้อมเข้มงวดมากกว่าทุกครั้งแต่ไม่วิตกอะไรเพราะเราได้เกาะติดสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

ส่วนที่มีกระแสข่าวว่า มีเงิน 500 ล้านบาทสนับสนุนการเคลื่อนไหวของผู้ชุมนุม พล.อ.สนธิ กล่าวว่า ตนยังไม่ได้รับรายละเอียดถึงเรื่องเงินดังกล่าว

เมื่อถามว่าหากประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ต้องอยู่ในภาวการณ์เผชิญหน้าระหว่างเจ้าหน้าที่กับผู้ชุมนุม

พล.อ.สนธิ กล่าวว่าไม่ได้หมายถึงอย่างนั้น แล้วแต่เหตุการณ์ ต้องดูกันอีกทีว่ามีอะไรที่เป็นเหตุเพราะไม่จำเป็นต้องเกิดเหตุการณ์แล้วถึงประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน หากมีอะไรเป็นสิ่งบอกเหตุก็จะใช้ได้อยู่แล้ว พ.ร.ก.ฉุกเฉิน จะประกาศก่อนหรือหลังก็ได้ หรือระหว่างเกิดเหตุก็ได้

อย่างไรก็ตามขณะนี้ยังไม่มีสิ่งบอกเหตุ มีแต่เพียงข่าวลือที่ว่าจะมีเหตุการณ์แต่จริงๆแล้วยังไม่แน่ใจ เพราะคิดว่าเมื่อมีกระแสพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวออกไปแล้ว น่าจะทำให้หลายคนได้ตระหนัก น่าจะดีขึ้นหรือเลิกการชุมนุมไปแต่ทุกพรรคจะต้องยอมรับว่าให้ทางศาลเป็นผู้พิจารณา

อย่างไรก็ตาม ตนอยากให้ประชาชนสนองพระราชดำรัสเพราะตัวเราเองก็อยากเห็นบ้านเมืองสงบเรียบร้อยนำไปสู่การเลือกตั้งเพื่อจะได้ว่ากันไปตามรัฐธรรมนูญ

พล.อ.สนธิ กล่าวว่า ไม่วิตก ซึ่งเราก็ยังไม่รู้ว่าเป็นกลุ่มไหน อย่าพึ่งไปว่าใครเป็นใครต้องรอให้ออกมาเสียก่อนแล้วจะรู้ว่าใครเป็นใคร

ส่วนช่วงที่นายกรัฐมนตรีเดินทางไปประเทศจีนจะเตรียมการอย่างไรในช่วงดังกล่าวในด้านความมั่นคง

พล.อ.สนธิ กล่าวว่า ในช่วงนั้นรองนายกรัฐมนตรีจะเป็นผู้รักษาการไม่มีปัญหาในการทำการแทน เมื่อมีอะไรก็สามารถพูดคุยกัน

เมื่อถามว่า นายกรัฐมนตรีได้สั่งการอะไรไว้หรือไม่ในช่วงที่ไม่อยู่

พล.อ.สนธิ กล่าวว่า ได้คุยกันแล้ว ซึ่งนายกรัฐมนตรีท่านบอกว่าจะต้องไปต่างประเทศ ตนก็รับจะดูแลด้านความมั่นคง ได้คุยกันเรียบร้อยแล้วไม่ต้องเป็นห่วงขอให้เดินทางไปอย่างสบายใจ ตรงนี้เรียบร้อยไม่มีปัญหา

เมื่อถามว่า ทาง คมช. ดูแนวโน้มเรื่องการยุบพรรคการเมืองอย่างไรในวันที่ 30 พฤษภาคม

พล.อ.สนธิ กล่าวว่า เราไม่รู้จริงๆ เพราะไม่ได้เข้าไปยุ่งด้วยเป็นหน้าที่ของตุลาการ

เมื่อถามว่า หากมีคำตัดสินให้ยุบพรรคก็สามารถให้ตั้งพรรคใหม่ได้

พล.อ.สนธิ กล่าวสั้นๆ ว่า ก็เป็นธรรมดาอยู่แล้ว

จาก หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ