โภคิน ปัดขัดตาทัพ - ชี้ช่องดันก้น แม้ว รักษาการนายกฯ ข้ามปี
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 2 เมษายน 2549 19:29 น.
โภคิน ระบุเส้นตาย 30 วันต้องเปิดสภาไม่เป็นปัญหาหากผลเลือกได้ ส.ส.ไม่เต็มสภา ชี้เป็นหน้าที่ กกต. ต้องจัดเลือกให้ได้จนครบ อ้างปัญหาเกิดขึ้นไม่ใช่ความผิดรัฐบาล โทษ ฝ่ายค้านบอยคอตเลือกตั้งทำป่วนเอง ต้องทนมี รัฐบาลรักษาการ กันนานนับปี เผยหาก ทรท.กลับมาอีก จะแก้ รธน.มาตรา 313 เปิดทางให้คนกลางมาร่วมแก้ไข รธน. แถมเปิดแนวคิดพิสดาร ทาบพรรคอื่นร่วม ครม. อ้างเพื่อตรวจสอบรมต.ของไทยรักไทยโดยเฉพาะ ขณะเดียวกัน ปฏิเสธถูกวางตัวเป็น นายกรัฐมนตรีรักษาการ
นายโภคิน พลกุล รองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ให้สัมภาษณ์ภายหลังหมดเวลาลงคะแนนเลือกตั้งถึงแนวทางแก้ปัญหากรณีผู้สมัครของพรรคไทยรักไทยที่ลงสมัครเพียงพรรคเดียว อาจมีคะแนนไม่ถึงร้อยละ 20 ว่า กฎหมายได้ระบุไว้ชัดว่าหากผู้สมัครคนใดได้คะแนนไม่ถึงร้อยละ 20 ก็ให้จัดการเลือกตั้งใหม่ ส่วนกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะต้องประกาศรับรองผลภายใน 30 วัน เพื่อให้ทันกับการเปิดประชุมสภาฯ นั้น ถ้าเกิดเหตุสุดวิสัยจริงก็ต้องรอจนกว่าเหตุการณ์นั้นจะยุติลง เช่น หากพบว่ามี 40-50 เขต ที่ยังมีปัญหาต้องมีการเลือกตั้งใหม่ตามปกติ และหากเกิน 30 วันแล้วยังได้ผู้สมัครไม่ครบ ก็อยู่ที่ กกต.จะเป็นผู้พิจารณาทางออกที่เหมาะสม เพราะหาก 50 เขต มีปัญหาแล้วจะบอกว่า 350 เขต มีปัญหาทั้งหมดคงไม่ได้ ดังนั้น กกต.ต้องจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ ซึ่งอาจเปิดรับสมัครใหม่ก็ได้เพื่อให้มีผู้แข่งขัน ได้ ส.ส.มาทำให้ระบบเดินหน้าต่อไป และจบด้วยกระบวนการยุติธรรม
หากไม่เอากติกาแล้วจะเอาแบบไหน หรือการที่อดีตพรรคฝ่ายค้านพยายามให้ผลการเลือกตั้งใหม่มีคะแนนไม่ถึง 20% เพื่อสร้างปัญหาจนเปิดประชุมสภาฯ ไม่ได้ และต้องมีรัฐบาลรักษาการเป็นปีจะเอาหรือไม่ เพราะถ้าไม่เชื่อในระบอบประชาธิปไตย แต่แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยก็ยังไปเลือกตั้ง แล้วเหตุใดถึงไม่ยอมรับผลการเลือกตั้ง รองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย กล่าว
นายโภคิน กล่าวต่อว่า หลังการเลือกตั้งพรรคไทยรักไทยได้โอกาสเข้ามา สิ่งที่ต้องดำเนินการเป็นลำดับแรก คือ การแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 313 เพื่อเปิดโอกาสให้มีคนกลางมาทำหน้าที่แก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งจะไม่ใช่คณะรัฐมนตรี หรือ ส.ส. แต่จะมาจากบุคคลหลากหลายอาชีพ เช่นเดียวกับสมัชชาสนามม้าสมัยนายสัญญา ธรรมศักดิ์ โดยแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ การนำรูปแบบจาก พ.ร.บ.สภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่กำหนดตัวแทนบุคคลหลากหลายอาชีพ มาเป็นกรอบในการกำหนด และอดีตตัวแทนจากศาลและอดีตกรรมการในองค์กรอิสระ เพื่อทำหน้าที่ยกร่างรัฐธรรมนูญและเสนอผ่านรัฐสภา เพราะเป็นผู้ที่เคยใช้กฎหมาย พร้อมกับทำประชามติ ซึ่งจะกำหนดระยะเวลาแก้ไข 1 ปี อาจจะมากหรือน้อยกว่าประมาณ 3 เดือน จากนั้นถึงจะยุบสภาและเลือกตั้งใหม่
ผู้สื่อข่าวถามว่า ในขณะที่ไทยรักไทยเป็นรัฐบาลพรรคเดียวในสภาฯ จะเกิดปัญหาการตรวจสอบหรือไม่ นายโภคิน กล่าวว่า ไม่ใช่ความผิดของพรรคไทยรักไทย เพราะพรรคส่งผู้สมัครตามปกติ และ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ก็เป็นห่วงเรื่องการตรวจสอบ จึงเสนอให้โครงการเมกะโปรเจกต์ที่มีวงเงิน 100 ล้านบาทขึ้นไป จะให้สื่อมวลชนเข้าร่วมตรวจสอบด้วย และให้แต่ละพรรคที่ไม่มี ส.ส.ในสภาฯ ส่งตัวแทนมานั่งในคณะรัฐมนตรี เพื่อร่วมตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล ขณะเดียวกันการตรวจสอบในสภาฯ จะเปิดโอกาสให้คนนอกเข้ามาเป็นคณะอนุกรรมาธิการ หรือคณะกรรมาธิการวิสามัญ โดยพรรคไทยรักไทยจะเหลือสัดส่วนเพียงร้อยละ 50 เท่านั้น
เมื่อถามว่า มีข่าวว่าจะมีการเว้นวรรคทางการเมืองของ พ.ต.ท.ทักษิณ เพื่อสร้างความชอบธรรมในการปฏิรูปการเมือง นายโภคิน กล่าวว่า ไม่ทราบ แต่สิ่งที่เราอยากเห็นคือ การร่างรัฐธรรมนูญที่ไม่มีส่วนได้ส่วนเสีย แต่เมื่อถามว่ามีชื่อนายโภคิน อาจติดโผรักษาการนายกรัฐมนตรี หาก พ.ต.ท.ทักษิณ ประกาศเว้นวรรค นายโภคิน กล่าวว่า โอ้ย คนในพรรคมีตั้งเยอะ และเมื่อถามย้ำว่านายโภคินเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ ปรากฏว่านายโภคินปฏิเสธที่จะตอบคำถาม พร้อมกับยุติการให้สัมภาษณ์