15 ม.ค. 58 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักข่าวอิศรา เปิดบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน
ของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ หรือ พระสุเทพ ปภากโร อดีตเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ และอดีตแกนนำ กปปส. ภายหลังยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กรณีพ้นจากตำแหน่ง ส.ส. ครบ 1 ปี เมื่อวันที่ 11 พ.ย. 2557 ที่ผ่านมา โดยมีข้อมูลทรัพย์สินและหนี้สินเป็นที่น่าสนใจคือ นายสุเทพ มีหนี้สินลดลง 36,704,921 บาท โดยหนี้สินที่ลดลงคือ จากการกู้ ธ.อิสลามฯ (สุราษฎร์) กว่า 35 ล้านบาท และจากการกู้บริษัท ศรีสุบรรณฟาร์มฯ กว่า 6.8 แสนบาท ส่วนหนี้กับ ธ.กรุงไทย (สุราษฎร์) หายไป 2 ครั้ง คือในปี 2546-2547 ดังนี้
แจ้งสถานะว่า หม้าย มีรายได้ทั้งหมด 31,314,929 บาท เป็นเงินบำนาญ 107,940 บาท และรายได้จากสวนยาง, สวนปาล์ม 31,206,989 บาท
เทียบกับช่วงพ้นตำแหน่ง เมื่อวันที่ 11 พ.ย. 2556 แจ้งว่า หม้าย มีรายได้ทั้งหมด 39,940,228 บาท เป็นเงินบำนาญ 75,540 บาท และรายได้จากสวนยาง, สวนปาล์ม 39,864,688 บาท
เท่ากับว่า นายสุเทพ มีรายได้ลดลง 8,625,299 บาท โดยรายได้ที่ลดลงได้แก่การทำสวนยาง, สวนปาล์ม กว่า 8 ล้านบาท
ขณะที่แจ้งรายจ่ายทั้งหมด 38,878,083 บาท เป็นค่าใช้จ่ายส่วนตัว 6 แสนบาท ค่าผ่อนรถ (สินเชื่อธนาคาร) 6,084,000 บาท ค่าเบี้ยประกันชีวิต 943,083 บาท ดอกเบี้ยเงินกู้ 12,151,000 บาท ทำสวน 10.7 ล้านบาท ผ่อนชำระหนี้ธนาคาร 7 ล้านบาท ซ่อมบำรุงยานพาหนะ-น้ำมันรถ 6 แสนบาท เงินบริจาค-ทำบุญ 4 แสนบาท และการเดินทาง 4 แสนบาท
เทียบกับช่วงพ้นตำแหน่ง แจ้งว่า มีรายจ่ายทั้งหมด 42,078,083 บาท เป็นค่าใช้จ่ายส่วนตัว 6 แสนบาท ค่าผ่อนรถฯ 6,084,000 บาท ค่าเบี้ยประกันชีวิต 943,083 บาท ดอกเบี้ยเงินกู้ 12,151,000 บาท ทำสวน 10.7 ล้านบาท ผ่อนชำระหนี้ธนาคาร 8.6 ล้านบาท ซ่อมบำรุงยานพาหนะ-น้ำมันรถ 5 แสนบาท เงินบริจาค-ทำบุญ 5 แสนบาท ท่องเที่ยว 2 ล้านบาท
เท่ากับว่า นายสุเทพ มีรายจ่ายลดลง 3.2 ล้านบาท โดยรายจ่ายที่ลดลงได้แก่ ค่าผ่อนชำระหนี้ธนาคาร 1.6 ล้านบาท ค่าซ่อมบำรุงยานพหานะ-น้ำมันรถ 1 แสนบาท เงินบริจาค-ทำบุญ 1 แสนบาท และค่าเดินทาง-ท่องเที่ยว 6 แสนบาท
น่าสังเกตว่ารายจ่ายในส่วนของ ค่าเบี้ยประกันชีวิต-ดอกเบี้ยเงินกู้-ทำสวน เท่าเดิมทุกประการ
ส่วนทรัพย์สินฯในช่วงพ้นตำแหน่งครบ 1 ปี มีทั้งสิ้น 211,182,630 บาท เป็นเงินฝาก 6 บัญชี 4,613,260 บาท ที่ดิน 155 แปลง 177,044,250 บาท (ส่วนใหญ่อยู่ใน อ.พุนพิน-อ.ดอนสัก-บางส่วนใน อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช)
โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 1 แห่ง บริเวณ ถ.ลาดพร้าว เขตจตุจักร กทม. 1,975,120 บาท และรถยนต์ 5 คัน 27,590,000 บาท ได้มาช่วง มิ.ย. 2554 3 คัน ช่วง มิ.ย. 2556 2 คัน
เทียบกับช่วงพ้นตำแหน่ง มีทั้งสิ้น 210,139,734 บาท เป็นเงินฝาก 7 บัญชี 3,570,364 บาท ที่ดิน 155 แปลง 177,004,250 บาท โรงเรือนฯ 1 แห่ง 1,975,120 บาท รถยนต์ 5 คัน 27,590,000 บาท
เท่ากับว่า นายสุเทพ มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้น 1,042,896 บาท โดยทรัพย์สินที่เพิ่มขึ้นคือ เงินในบัญชี โดยเฉพาะในบัญชี ธ.กรุงเทพฯ สาขาสำนักงาน ก.พ. เลขที่บัญชี 201-0-110xx-x เพิ่มมากว่า 1 ล้านบาท แต่บัญชีเงินฝากหายไป 1 บัญชี คือ บัญชี ธ.กสิกรไทย สาขาเกาะพงัน
นอกจากนี้ยังน่าสังเกตว่า มีเงินฝากอย่างน้อย 2 บัญชี คือ ธ.อิสลามแห่งประเทศไทย (อโศก) และ ธ.อิสลามแห่งประเทศไทย (สุราษฎร์) มียอดเงินเคลื่อนไหวในช่วงเดือน ก.ค. 2557-ต.ค. 2557 ที่โอนเข้าออกในวันเดียวกัน-ใกล้เคียงกัน
เช่น ธ.อิสลามฯ (อโศก) ฝาก 29 ส.ค. 2557 507,000 บาท ถอน 29 ส.ค. 2557 507,000 บาท หรือ ธ.อิสลามฯ (สุราษฎร์) ฝากวันที่ 30 ก.ย. 2557 4,142,000 บาท ถอน 4,142,000 บาท เป็นต้น
ด้านหนี้สินในช่วงพ้นตำแหน่งครบ 1 ปี มีทั้งสิ้น 287,271,724 บาท เป็นเงินเบิกเกินบัญชี (บัตรเครดิต ธ.กรุงเทพ) 31,499 บาท เงินกู้จากธนาคารฯ 3 แห่ง 202,310,169 บาท เป็น ธ.กรุงไทย (สุราษฎร์) 5 ครั้ง ช่วงปี 2532-2537 8,386,466 บาท ธ.อิสลามฯ (อโศก) 8,765,903 บาท ช่วงปี 2554 และ ธ.อิสลามฯ (สุราษฏร์) 185,157,799 บาท ช่วงปี 2555
และหนี้สินที่มีหลักฐานเป็นหนังสือ 84,930,055 บาท เป็นเงินกู้จากบริษัท ศรีสุบรรณฟาร์ม จำกัด (บริษัทลูกนายสุเทพ) ช่วงปี 2555 59,930,055 บาท และนายวิศว ศรีรัตนประภาส ช่วง พ.ย. 2556 25 ล้านบาท
ขณะที่หนี้สินในช่วงพ้นตำแหน่ง มีทั้งสิ้น 323,976,645 บาท เป็นเงินเบิกเกินบัญชี 15,600 บาท เงินกู้จากธนาคารฯ 3 แห่ง 238,343,910 บาท เป็น ธ.กรุงไทย (สุราษฎร์) 7 ครั้ง ช่วงปี 2532-2547 3,194,746 บาท ธ.อิสลามฯ (อโศก) 14,064,789 บาท และ ธ.อิสลามฯ (สุราษฎร์) 221,057,374 บาท
และหนี้สินที่มีหลักฐานเป็นหนังสือ 85,617,134 บาท เป็นเงินกู้จากบริษัท ศรีสุบรรณฟาร์มฯ 60,617,134 บาท และนายวิศว ศรีรัตนประภาส 25 ล้านบาท
เท่ากับว่า นายสุเทพ มีหนี้สินลดลง 36,704,921 บาท โดยหนี้สินที่ลดลงคือ จากการกู้ ธ.อิสลามฯ (สุราษฎร์) กว่า 35 ล้านบาท และจากการกู้บริษัท ศรีสุบรรณฟาร์มฯ กว่า 6.8 แสนบาท ส่วนหนี้กับ ธ.กรุงไทย (สุราษฎร์) หายไป 2 ครั้ง คือในปี 2546-2547
ขอบคุณ : สำนักข่าวอิศรา
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
