ในประเทศ มติชนสุดสัปดาห์
ผ่าดวง "บิ๊กตู่" ปีแพะโหด การเมืองเร้า-เศรษฐกิจรุม กับบทสรุป ไม่จอด-ก็แจว การเมือง "ปีม้า" โขยกเขยกเข้าสู่ "ปีแพะ"
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังเป็นที่จับตาจากสังคมในฐานะ "บุคคลแห่งปี" ที่เป็นทั้งนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ในคนคนเดียว
ความรู้ความสามารถ ความอดทน ความสุขุมรอบคอบ การมีปฏิภาณไหวพริบ ตลอดจนดวงชะตาราศีของผู้นำระดับนี้ ล้วนมีผลต่อการขับเคลื่อนประเทศชาติในทุกมิติทั้งการเมือง ความมั่นคง และเศรษฐกิจ
ช่วงปลายปี 2557 เกิดเหตุการณ์กิ่งต้นชมพูพันธุ์ทิพย์ หักหล่นใส่รถของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หลายคนที่มีความเชื่อเรื่องโชคลาง ลางสังหรณ์ มองว่าอาจเป็นสัญญาณเตือนบางอย่างให้ต้องรับมือในอนาคตอันใกล้
อุบัติเหตุทางธรรมชาติดังกล่าว เป็นจุดเริ่มคำทำนายในทางโหราศาสตร์เกี่ยวกับดวงชะตาของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในปี 2558 ที่น่าสนใจ
ภิญโญ พงศ์เจริญ นายกสมาคมโหราศาสตร์นานาชาติ กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า ในแง่โชคลาง ระบุได้ว่าเทวดาหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์มาเตือนให้ระมัดระวังตัว โดยเฉพาะปี 2558
จะเกิดเหตุไม่คาดคิดกับตัวนายกฯ
2 ช่วงเวลาที่ต้องระมัดระวัง คือ ช่วงกลางเดือนมีนาคมถึงเดือนเมษายน และช่วงกลางเดือนกันยายนถึงเดือนตุลาคม จะมีเหตุการณ์เปลี่ยนแปลงทางการเมืองการปกครองที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น
ตั้งแต่กลางเดือนมีนาคมเป็นต้นไป
โดยเฉพาะช่วงวันเกิด พล.อ.ประยุทธ์ 19-22 มีนาคม ให้ระมัดระวังให้จงหนัก เพราะเกิดจุดอุปราคาไปทับอาทิตย์กำเนิดในราศีมีนที่เป็นราศีเกิด ให้ระวังในเรื่องอุบัติเหตุความปลอดภัย ตำแหน่งหน้าที่การงานและปัญหาสุขภาพ
อย่างไรก็ตาม โหรภิญโญ ระบุว่า หากก้าวข้ามปี 2558 ไปได้ เข้าสู่ปี 2559 ดวงชะตาของ พล.อ.ประยุทธ์ จะดีขึ้น
เป็นคำทำนายในทิศทางเดียวกับโหรดังอีกหลายคน
ด้าน บุญเลิศ ไพรินทร์ เจ้าของฉายา "โหร ส.ว." ทำนายว่า
หลังเดือนมิถุนายน 2558 พล.อ.ประยุทธ์ ต้องพบกับแรงเสียดทานรุนแรง ความขัดแย้งเพิ่มขึ้น ถึงขั้นที่ว่าอาจจะไม่สามารถอยู่ในตำแหน่งต่อได้
แต่หากสามารถผ่านพ้นปี 2558 ไปได้ ถ้าอยากอยู่ต่อก็จะอยู่ต่อได้อีกยาวนาน 5-6 ปี เพราะดวงจะเข้าเคราะห์อีกครั้งในปี 2564-2565
ขณะที่ โสรัจจะ นวลอยู่ หรือ "นอสตราดามุสเมืองไทย" กล่าวไว้ในหนังสือ "ศาสตร์แห่งโหร 2558" ตอนหนึ่งว่า
ดาวมฤตยูกับพระราหูเล็งกันลอยอยู่เหนือขอบฟ้าไปจนถึงวันที่ 11 กรกฎาคม 2558 ดาวคู่นี้หมายถึง การถูกปล่อยเกาะอย่างโดดเดี่ยว การถูกลอยแพ
บ่งถึงว่าเมืองไทยจะตกอยู่ในภาวะคับขันรอบด้าน โดยประเทศที่ล้อมอยู่ลุกเป็นไฟ และตกอยู่ในสภาพตึงเครียดตลอดเวลา อาจต้องปิดประเทศไม่คบหาสมาคมกับใคร
ในวันที่ 12 กรกฎาคม 2558 ดาวมฤตยูย้ายเข้าทับลัคนาดวงเมืองในราศีเมษ ทำให้เกิดเป็น "ปีมหาวิปโยค" ที่เป็นการปฏิวัติเปลี่ยนโฉมหน้าประวัติศาสตร์โดยสิ้นเชิง
เดือนเมษายน เดือนพฤษภาคม เดือนมิถุนายน และเดือนกรกฎาคม ผู้มีอำนาจในการบริหารบ้านเมืองควรต้องระมัดระวังอย่างรอบคอบ
"จะเกิดความวุ่นวายปั่นป่วนทางการเมือง เกิดการแตกแยก บุคคลในเครื่องแบบจะมีบทบาททันทีอีกครั้งหนึ่ง"
แต่โหรที่ทำนายแตกต่างออกไปจากโหรคนอื่นๆ
วารินทร์ บัววิรัตน์เลิศ หรือ "โหร คมช." ผู้ที่ระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ คือ "ทหารเอกของพระองค์ดำ" ที่กลับชาติมาเกิด เพื่อนำประเทศไทยก้าวพ้นวิกฤตความขัดแย้ง
ต่อเหตุการณ์กิ่งไม้หักหล่นใส่ขบวนรถของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
โหร คมช. กล่าวว่า จากที่เข้านิมิตสอบถาม "หลวงปู่ฤๅษีเกวลัน" แห่งเทือกเขาหิมาลัย หลวงปู่ดูภาพแล้วยืนยันไม่เกี่ยวกับลางบอกเหตุใดๆ ทั้งสิ้น
และเหตุการณ์ที่เกิด ไม่กระทบกระเทือนถึงตำแหน่งหน้าที่ของนายกรัฐมนตรี สิ่งที่เกิดขึ้นเกิดขึ้นตามธรรมชาติ และนายกรัฐมนตรีเพิ่งเริ่มทำงานตามที่ได้รับมอบหมายจากชะตาฟ้า
ชะตาฟ้ากำหนดแล้วให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มาทำหน้าที่กอบกู้ประเทศชาติบ้านเมือง ขณะนี้ภารกิจยังไม่สำเร็จ จึงต้องปฏิบัติหน้าที่ไปอีก 3-5 ปีในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
"ไม่มีเหตุการณ์อะไรที่จะมาทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ ต้องลงจากตำแหน่งได้ ด้วยบุญและบารมีของ พล.อ.ประยุทธ์ ต้องเป็นคนนี้เท่านั้นมาทำหน้าที่ฟื้นฟูประเทศถึงจะสำเร็จ ถ้าเป็นคนอื่นก็พังไปแล้ว"
โหรวารินทร์ยังเห็นถึงบารมีของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่ก้าวไปข้างหน้าด้วยว่าจะได้เป็น "องคมนตรี" ในที่สุด
สำหรับดวงชะตาบนเส้นทางการเมืองของ พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะนายกรัฐมนตรีภายหลังรัฐประหาร 22 พฤษภาคม 2557
จะ "สิ้นสุด" ในระยะเวลาตามโรดแม็ป 3 ระยะ หรือว่าจะ "ลากยาว" ออกไปตามที่บุคคลบางกลุ่มพยายามเรียกร้องผลักดัน เพื่อตัวเองจะได้อาศัยเกาะอำนาจต่อไปด้วย
ธนกร สินเกษม นายกสมาคมโหรแห่งประเทศไทย ทำนายว่า ตามดวงเกิดของ พล.อ.ประยุทธ์ วันที่ 21 มีนาคม 2497 ที่จังหวัดนครราชสีมา ตรงกับวันอาทิตย์ เดือน 4 ปีมะเส็ง อายุย่าง 61 ปี
พื้นฐานเหมาะเป็นชายชาติทหาร เป็นทหารแล้วรุ่งโรจน์ แต่ไม่เหมาะที่จะเล่นการเมือง ถึงเล่นก็ไม่รุ่ง จะไม่ได้รับการยอมรับจากประชาชนเหมือนกับตอนเป็นทหาร
ตามดวง พล.อ.ประยุทธ์ เป็นคนไม่ชอบการเมือง จึงเป็นได้แค่นายกรัฐมนตรีเฉพาะกิจเท่านั้น หากเสร็จสิ้นภารกิจชาติก็จะไป ไม่มีการลากยาว
ไม่กลับมาสู่เส้นทางการเมืองแน่นอน
ในมุมนักวิเคราะห์การเมืองมองว่า
ชะตากรรม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หรือ "นายกฯ ลุงตู่" ในปี 2558 จะเป็นอย่างไรนั้น ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ทางการเมืองและเศรษฐกิจเป็นสำคัญ
กล่าวถึงสถานการณ์ด้านการเมือง ต้องมุ่งไปยังการร่างรัฐธรรมนูญใหม่ฉบับถาวร ที่เริ่มเห็นเค้าโครงบ้างแล้วจากการประชุมวางกรอบของคณะกรรมาธิการยกร่างฯ ที่มี นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ เป็นประธาน
ไม่ว่าประเด็นการเปิดช่องให้มี "นายกฯ คนนอก" การกำหนดที่มา ส.ส. 2 ระบบตามรูปแบบของประเทศเยอรมนี โดยไม่จำเป็นต้องสังกัดพรรคการเมือง การยกเลิก ส.ว.เลือกตั้ง ให้มีแต่ ส.ว.สรรหา 200 คน จาก 5 แหล่งที่มา ฯลฯ
ตลอดจนการกำหนดขอบเขตอำนาจขององค์กรอิสระขึ้นมาใหม่ อาทิ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) หรือกระทั่งศาลรัฐธรรมนูญ
แต่ละจุดล้วนเป็นประเด็นร้อนนำไปสู่ความขัดแย้งบานปลายได้ทั้งสิ้น
ขณะเดียวกัน สถานการณ์ด้านเศรษฐกิจ สิ่งที่มายืนรอรัฐบาลตั้งแต่ต้นปีใหม่คือปัญหาราคาพืชผลการเกษตรตกต่ำ สวนทางค่าครองชีพและราคาสินค้าอุปโภคบริโภคที่ถีบตัวสูงขึ้น
การเดินหน้าแผนปฏิรูปประเทศให้สำเร็จลุล่วง เพื่อคืน "การเลือกตั้ง" ตามระบอบประชาธิปไตยให้ประชาชนตามกรอบโรดแม็ปที่ประกาศไว้
ตลอดจนความสำเร็จในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจทั้งในระดับมหภาค และระดับปากท้องประชาชน ตรงนี้ต่างหากที่หลายคนเชื่อว่าจะเป็นตัวกำหนดชะตากรรม พล.อ.ประยุทธ์ อย่างแท้จริง
ตลอดระยะ 7 เดือนของการเป็นหัวหน้า คสช. และ 4 เดือนของการเป็นนายกรัฐมนตรี มีคำทำนายต่างๆ มากมายเกี่ยวกับตัว พล.อ.ประยุทธ์ ทั้งจากโหรอาชีพ โหรการเมือง และโหรเศรษฐกิจ รวมถึงบรรดา "โหน" จำนวนหนึ่ง
พล.อ.ประยุทธ์ เคยกล่าวถึงคำทำนายของ "หมอดู" ว่าการรับฟังไว้ก็ไม่เสียหายเพราะถือเป็นศาสตร์อย่างหนึ่ง
"ส่วนตัวคิดว่าดูกันอย่างไรมากกว่า ถ้าดูให้คุณเป็นนายกรัฐมนตรี แล้วคุณไม่ทำความดี จะได้เป็นหรือเปล่า หรือหมอดูบอกว่าคุณจะรวย แต่คุณนอนอยู่ ไม่ทำงานเลยทั้งวันแล้วจะรวยหรือเปล่า"
จากคำทำนายทางโหราศาสตร์อันหลากหลาย ประกอบกับบริบททางการเมืองและเศรษฐกิจทั้งในและนอกประเทศ บ่งบอกว่าปี 2558 เป็นอีกปีแห่งความยากลำบากของ พล.อ.ประยุทธ์
นายกฯ ลุงตู่ ในนามทหารเอกพระองค์ดำ จะเอาตัวรอดจากสถานการณ์ปี "แพะโหด" นี้อย่างไร แล้วจะนำพาประเทศชาติรอดไปด้วยหรือไม่
เป็นเรื่องน่าจับตาเป็นอย่างยิ่ง