เมื่อวันที่ 2 ม.ค.ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการแก้ปัญหาราคาสินค้าเกษตรของรัฐบาล ว่า ตนมีแนวความคิดในเรื่องการแก้ปัญหาที่อาจจะไม่ตรงกับรัฐบาล โดยเฉพาะการแก้ปัญหาเรื่องข้าว ที่มองว่า นโยบายการประกันรายได้ในสมัยรัฐบาลประชาธิปัตย์กับนโยบายจำนำข้าว เป็นโยบายลักษณะเดียวกันนั้นไม่ใช่ นโยบายการประกันรายได้ ไม่ได้ไปกระทบกับการซื้อขายในตลาดข้าว แล้วเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรโดยตรง ในเรื่องการประกันรายได้ รัฐบาลปฏิเสธการช่วยเหลือในเรื่องนี้ และปฏิเสธนโยบายจำนำไปยึดถือเอาว่า จ่ายเงินต่อไร่ โดยที่คิดว่า เร่งจ่ายจะทำให้เกิดผลที่ดีกว่า แต่ในความเป็นจริงผู้ที่อยู่ในตลาดข้าว ทราบว่า เกษตรกรได้รับความช่วยเหลือก็จะส่งผลต่อการซื้อขาย ทำให้ราคาต่ำลง เมื่อราคาต่ำก็ไม่แน่ใจว่า จะมีมาตรการช่วยเหลืออย่างไรหรือไม่ ส่วนในเรื่องข้าว เนื่องจากมีปัญหาเรื่องน้ำ ก็จะมีประเด็นเรื่องรายได้จากนาปรัง รัฐบาลใช้คำว่า ขอความร่วมมือมีโครงการงดปลูกข้าว แต่ความจริงในความคิดของตนที่เสนอ ว่า ควรมีความชัดเจนว่า รายได้เกษตรกรที่งดปลูกข้าวจะมาจากตรงไหนอย่างไร และรัฐจะช่วยเหลือเกษตรกรอย่างไร
ส่วนเรื่องปัญหายางพารานั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ปัญหาที่มีในปัจจุบัน คือ สต๊อกที่เกิดจากการไปซื้อมาแล้วมาเก็บเอาไว้ของรัฐบาลชุดที่แล้ว สิ่งที่จะช่วย คือ รัฐบาลต้องมีความชัดเจน ว่า ยางในส่วนนี้ จะทำอย่างไร ไม่ให้มากระทบกับตลาด ปัญหา คือ รัฐบาลยังพูดไม่ชัด และเมื่อพูดไม่ชัดในตลาดก็มองว่า มียางในส่วนนี้อยู่ ก็ทำให้ราคายางขยับยาก ส่วนเรื่องการท่องเที่ยวก็เช่นกันแม้จะเริ่มฟื้นตัว แต่ก็ยังมีปัญหาในเรื่อง กฎอัยการศึก ที่เป็นปัญหา ตรงนี้จึงเป็นจุดที่ต้องรอการตัดสินของรัฐบาล ว่าจะมีการทบทวนการเรื่องหลัก ๆอย่างนี้หรือไม่ เพราะการจะไปหวังการส่งออกหรือการกระตุ้นเศรษฐกิจจากรัฐบาลดูจะเป็นเรื่องยาก