ประสงค์ มันปาก! บดขิงแก่ อัด สุรยุทธ์

"ประสงค์" มันปาก! บดขิงแก่ อัด "สุรยุทธ์"


เหมือนอ่านวิทยานิพนธ์แจงผลงานรัฐ จวก 8เดือนยังไม่เห็นผลงาน แถมมีแต่เรื่องวุ่นวาย ปัญหาเล็กกลายเป็นใหญ่

ชี้ดูดีแค่ 3 เดือนแรก เปรียบความรู้สึก ปชช.เหมือนถูกหวยแต่เจ้ามือไม่จ่าย บอกความตั้งใจดี-การทำงานคนละเรื่องกัน



ผู้สื่อข่ารายงานว่า หลังจากที่ นายกรัฐมนตรีได้แถลงผลงานของรัฐบาลได้เสร็จสิ้นแล้ว


ที่ประชุมได้หารือว่าจะให้สมาชิกได้อภิปรายคนละกี่นาที ซึ่งในที่สุดได้มีการลงมติให้อภิปรายคนละไม่เกิน 15 นาที

จากนั้น น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) ได้ลุกขึ้นอภิปรายเป็นคนแรก ว่า

อยากให้รัฐบาลใจกว้างฟังข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะ สนช.กับการบริหารงานของรัฐบาล ซึ่งทุกคนปรารถนาดีต่อบ้านเมือง หากรัฐบาลตั้งใจรับฟังข้อเสนอแนะ ถ้าไม่จบพรุ่งนี้ก็ควรจะให้เวลา สนช. ได้อภิปรายต่อในวันพรุ่งนี้ เพราะจะเป็นประโยชน์ทั้งสองฝ่าย

อย่างไรก็ดี หลังรัฐประหารเมื่อ 19 ก.ย. ประชาชนมีความยินดี ภายใต้การนำของ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ซึ่งประชาชนเชื่อว่าเป็นคนดี 3 เดือนที่ผ่านมา ประชาชนเทใจฝากความหวังไว้กับรัฐบาล เหมือนประชาชนถูกหวย แต่ขณะนี้ล่วงเลยมา 7-8 เดือน รัฐบาลยังไม่ยอมจ่ายอะไรให้ประชาชนเลย


"วันนี้เหมือนอ่านวิทยานิพนธ์ให้ฟัง


ในขณะที่ช่วงเวลาวิกฤติความเสียหายที่ถูกทิ้งไว้รัฐบาลกลับไม่ได้แก้ไข เมื่อวันที่ 3 พ.ย.49 รัฐบาลแถลงนโยบาย และบอกเหตุผล 4 ปะการในการยึดอำนาจ

ซึ่งควรเป็นสิ่งที่ถูกต้อง เมื่อ คมช.โยนอำนาจมาให้รัฐบาลแล้ว อย่างน้อยที่สุด 7 เดือนที่ผ่านมา ก็น่าจะเห็นผลอะไรขึ้นบ้าง ไม่อยากเห็นรัฐบาลถูกไล่ ผู้คนสาปแช่ง

ขณะนี้ 7 เดือน ที่ผ่านมา ความรู้สึกของประชาชนที่เคยสนับสนุนรัฐบาลชุดนี้เปลี่ยนไป เพราะไม่เห็นอะไรออกมาเป็นรูปธรรมชัดเจน" น.ต.ประสงค์ กล่าวและว่า ฟังท่านนายกฯอ่านวิทยานิพนธ์ 1ชั่วโมง 13 นาที

โดยภาพรวมจับประเด็นไม่ได้ว่าผลงานมีอะไรบ้าง วิกฤติศรัทธาขยายตัวเรื่อย ๆ ยิ่งบริหารเท่าไหร่สิ่งเลวร้ายต่าง ๆ ที่ล้มไปแล้วกลับมีโอกาสลุกขึ้นมาท้าทายอำนาจรัฐ และปีนี้เป็นปีมหามงคล

แต่มีเรื่องวุ่นวายไม่หยุด ตนไม่เห็นรัฐบาลทำอะไรเลย ท่านต้องแสดงให้เห็น ไม่ใช่รอหมดเวลาจะได้กลับบ้าน

ท่านกำลังทำร้ายตัวเองจะกลับบ้านไม่สง่างาม วิกฤติศรัทธาจะเกิด


น.ต.ประสงค์ อภิปรายต่อว่า ปัญหาในเรื่องภาคเศรษฐกิจที่ถดถอย


ก็ยังไม่มีผลงานอะไรออกมา รายรับไม่พอรายจ่าย หนี้สินเพิ่มพูนขึ้นมา เงินบาทแข็งขึ้น ค้าขายลำบาก ของแพง น้ำมันแพง เศรษฐกิจยังเป็นปัญหาอยู่

ขณะเดียวกันความแตกแยกของประชาชนก็มีมากยิ่งกว่าแต่ก่อน รัฐบาลต้องการสมานฉันท์ แต่กลับเกิดวุ่นวายเพราะความไม่เด็ดขาดในกฎหมาย และตัวท่าน

ส่วนปัญหาความมั่นคงจากเล็กก็ขยายใหญ่ขึ้น จากฆ่ากันในเวลากลางคืน ก็กลายมาเป็นฆ่ากันในเวลากลางวัน จากประชาชนมาเป็นตำรวจ ตร.กลายเป็นทหาร นี่มันอะไรกัน ขณะที่รัฐบาลบอกว่าแก้ปัญหาถูกทางแล้ว แต่ตนมองว่า หากรัฐบาลยังยังเดินอยู่ในลักษณะนี้รัฐบาล และคมช.จะถูกประนาม ต้องมีการปรับปรุงใหม่อย่าเอาแต่พูด

ผลงานต่างๆยังมองไม่เห็น คนทำงานคือข้าราชการรประจำ ทั้งนี้ ตนรู้จักนายกฯและ รมต.ทุกคนดี ว่ามีความตั้งใจดี แต่ถ้าทำงานแบบนี้ประชาชนคงรับไม่ได้ เพราะความตั้งใจดีกับการทำงานเป็นคนละอย่างกัน.



ขอขอบคุณ : ข้อมูลข่าวที่มีคุณภาพ โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์