เมื่อวันที่ 30 ธ.ค.นายวีระชัย นาควิบูลย์วงศ์ เลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (สปก.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการตรวจสอบพื้นที่ สปก.5 ล้านไร่ ที่ยังไม่ได้จัดให้เกษตรกรเข้าทำกิน ว่า มีหลายจังหวัดที่มีบริษัทเอกชนชื่อดัง ได้เข้าถือครองพื้นที่ สปก.แปลงใหญ่ เช่น จ.นครราชสีมา จ.กระบี่ โดยเฉพาะ จ.ฉะเชิงเทรา มีเอกชนเป็นผู้ถือครองกว่า 2 แสนไร่ และได้ดำเนินการปลูกต้นยูคาลิปตัสมาหลายปี ยอมรับว่าในพื้นที่ดังกล่าวมีการตรวจสอบค่อนข้างยาก เนื่องจากกำลังเจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอ ซึ่งในเบื้องต้นได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบเชิงลึกก่อนที่จะสรุปข้อมูล ประสานงานฝ่ายความมั่นคงลงตรวจสอบพื้นที่อีกครั้ง อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ทำงานลำบาก เพราะที่ จ.ฉะเชิงเทรา มีเรื่องกลุ่มอิทธิพลทางการเมืองในพื้นที่สูงมาก หากใช้กฏหมายอย่างเดียวอาจทำให้เจ้าหน้าที่ไม่ปลอดภัย จึงให้ปรับเปลี่ยนแผนในการสำรวจข้อมูลเชิงลึก ร่วมกับฝ่ายความมั่นคง เพื่อหาทางเข้าดำเนินการทางกฏหมาย เรียกคืนพื้นที่ สปก.ดังกล่าวกลับคืนมาให้กับเกษตรกรที่มีคุณสมบัติ
นายวีระชัย กล่าวถึงกรณีที่มีข่าวซื้อขายที่ดิน สปก.ในพื้นที่ภาคอีสานเพื่อปลูกต้นยางพาราโดยเอกชน ว่าตนได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ สปก.ภาคอีสานทั้งหมด โดยเฉพาะ จ.หนองบัวลำภู เลย หนองคาย อุดรธานี นครพนม ตรวจสอบ เนื่องจากพบว่ามีการปลูกยางในพื้นที่ สปก.จำนวนมาก โดยเป็นลักษณะแปลงใหญ่ และมีเบาะแสแจ้งว่ามีหลายพื้นที่ที่มีกลุ่มนายทุนรายใหญ่เข้าไปกว้านซื้อไว้ตั้งแต่ยางมีราคาแพง แต่ขณะนี้ราคายางตกต่ำอย่างมาก ทำให้มีการติดป้ายประกาศขายสวนยางจำนวนมาก ซึ่งขณะนี้ได้ให้ สปก.จังหวัด ไปแจ้งเตือนและปลดป้ายลง เพราะพื้นที่ สปก.ไม่สามารถซื้อขายได้ และหลังปีใหม่ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่สอบสวนผู้ครอบครองที่ดินในพื้นที่ปลูกยางที่ต้องสงสัยว่าเป็นเจ้าของรายเดิมหรือไม่ หากไม่ใช่และมีการเปลี่ยนมือ จะเรียกคืนทั้งหมด
“เรื่องการตรวจสอบได้ใช้ภาพถ่ายทางดาวเทียมตามพิกัดที่ต้องสงสัย โดยดูภาพถ่ายย้อนหลัง ซึ่งเท่าที่ดูเป็นที่น่าสังเกตว่าพื้นที่ปลูกยางมีการดำเนินการแปลงใหญ่ ไม่น่าจะเป็นของเกษตรกร เพราะมีลักษณะเป็นระบบชัดเจนว่าเป็นของเอกชน มีการลงทุนโดยนักลงทุนรายใหญ่”เลขาธิการ สปก.กล่าว