ปมฟ้องยิ่งลักษณ์ส่อลากยาวถึงปีหน้า

เมื่อวันที่ 23 ธ.ค. นายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)

 กล่าวถึง การประชุมครั้งที่ 4 ของคณะทำงานร่วมระหว่าง ป.ป.ช.และอัยการสูงสุด(อสส.) เพื่อพิจารณาข้อไม่สมบูรณ์ในคดีอาญาของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีที่มีการนัดประชุมในวันที่ 25 ธ.ค.นี้ ว่า ถือเป็นนิมิตรหมายอันดีที่ทาง อสส.ให้ความสำคัญถึงแม้ว่า คณะทำงานร่วมของทั้งสองฝ่ายอาจจะไม่ครบร้อยเปอร์เซ็นต์ เนื่องจากมีบางส่วนติดภารกิจ เพราะในวันเดียวกันนั้นเจ้าหน้าที่ในคณะทำงานร่วมฝ่ายป.ป.ช.ที่เป็นผู้รับผิดชอบสำนวนคดีโครงการรับจำนำข้าวจะนำข้อมูลที่ได้จากการดำเนินการไต่สวนที่แล้วเสร็จ โดยเฉพาะข้อมูลการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าวครั้งที่ 1 และ 2ไปรายงานถึงความเสียหายของโครงการดังกล่าว ตามที่คณะกรรมาธิการการบริหารราชการแผ่นดินสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ที่มีพล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการฯ ได้มีการร้องขอ แต่ก็เชื่อว่าคงไม่กระทบต่อการประชุมแต่อย่างใด 

ด้านนายวุฒิพงศ์   วิบูลย์วงศ์ รองอัยการสูงสุด (อสส.) ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานฝ่าย อสส.

กล่าว่าการประชุมครั้งนี้ฝ่าย อสส. ก็ยังยืนยันจุดยืนเดิมอย่างที่เคยแถลง คือ ต้องมีการสอบพยานบุคคลเพิ่มเติมไม่อย่างนั้นสำนวนจะไม่สมบูรณ์ ทั้งนี้แม้จะเป็นการนัดประชุมด่วนแต่คาดว่า ภายในสิ้นปีนี้คงไม่ได้ข้อสรุป และคงจะมีการนัดประชุมกันอีกครั้งในต้นปีหน้า เนื่องจากหาก ป.ป.ช. รับข้อเสนอของ อสส. ก็คงต้องมีการเรียกพยานมาสอบเพิ่มเติมอีกและเมื่อ ป.ป.ช. สอบพยานเสร็จสิ้น ก็จะส่งเรื่องให้ อสส. นำไปพิจารณา ซึ่งก็แล้วแต่ว่าในที่ประชุมจะตกลงกันอย่างไรซึ่งเราก็พยายามจะให้เสร็จโดยเร็ว เพราะสังคมก็จับตาดูอยู่