วันที่ 23 ธันวาคม นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รักษาการรองโฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า
คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)มีมติไม่ฟ้องคดีข้าวในสมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ทั้งๆที่มีความผิดปรกติหลายอย่าง ทั้งการไม่ขายข้าวให้กับผู้ประมูลที่ให้ราคาสูงสุด การขายต่ำกว่าราคาตลาด ขายโดยไม่ต้องประกวดราคา และมีการนำแคชเชียร์เช็คเงินกองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา(กยศ.) มาวางค้ำประกัน แต่ ป.ป.ช. กลับไม่เห็นว่ามีความผิด แต่กรณีข้าวของพรรคพท. กลับพยายามเล่นงานน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี อย่างเต็มที่
ทั้งๆที่เป็นนโยบายที่ได้แถลงไว้ในรัฐสภาแล้ว ถือเป็นการช่วยเหลือชาวนาและกระตุ้นเศรษฐกิจ เหมือนกับที่สหรัฐและญี่ปุ่นทำ
โดยกระตุ้นไปที่รากหญ้า ถ้าหากเป็นการกระทำความผิด ผู้นำประเทศทั้งสหรัฐและญี่ปุ่นคงต้องผิดด้วย เพราะหนี้สาธารณะของสองประเทศสูงมาก โดยเฉพาะญี่ปุ่นมีหนี้สูงถึง 230% ของจีดีพี แต่ไทยมีหนี้เพียง 46%เท่านั้น ไม่ได้ทำให้ประเทศล่มสลายแต่อย่างไร
ก่อนหน้าป.ป.ช. ก็ปล่อยให้ไม่มีการฟ้องคดี ปรส. จนพึ่งหมดอายุความไปเมื่อเดือนพฤศจิกายน
และกกต. ก็ปล่อยให้คดีบริจาคเงินของพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) 258 ล้านบาท หมดอายุความเช่นกัน อีกทั้งในโครงการไทยเข้มแข็ง 4 แสนล้านบาท ก็มีการทุจริตคอรัปชั่นมากมาย ประชาชนไม่รับรู้และจำไม่ได้เลยว่ารัฐบาลในสมัยนั้นใช้อะไรไปบ้าง เห็นแต่ สถานีตำรวจที่สร้างไม่เสร็จ และครุภัณฑ์อาชีวะที่ราคาแพงมหาโหด ป.ป.ช. ก็ไม่ตัดสิน
แต่พรรคเพื่อไทยกลับโดนทุกเรื่อง แม้กระทั่งความพยายามที่จะเปลี่ยนประเทศให้เป็นประชาธิปไตยมากขึ้นโดยมีให้มีการเลือกตั้งส.ว. ยังโดนฟ้อง จึงอยากถามว่า ประเทศนี้จะสงบได้อย่างไร ถ้าไม่มีความยุติธรรม