พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวเปิดงานสัมมนาในหัวข้อ “ยุทธศาสตร์การส่งเสริมการลงทุนใหม่ : เพื่ออุตสาหกรรมไทยเติบโตอย่างยั่งยืน” และปาฐกถาพิเศษ เรื่อง ยุทธศาสตร์การส่งเสริมการลงทุนในระยะ 7 ปี (พ.ศ. 2558-2564) โดยกล่าวตอนหนึ่งว่า ตั้งแต่ปี 56-57 ประเทศไทยมีความไม่สงบเกิดขึ้น ซึ่งความขัดแย้งความจริงมีมาก่อนหน้านี้นานแล้ว และส่งผลกระทบในวงกว้าง โดยเฉพาะเรื่องเศรษฐกิจการค้าและการลงทุน ทุกอย่างได้รับผลกระทบ แต่วันนี้ยืนยันว่าสถานการณ์เราดีขึ้นในระดับหนึ่ง ส่วนจะดีขึ้นไปกว่านี้หรือไม่อยู่ที่ความร่วมมือกัน มีความเป็นเสถียรภาพทางการเมืองมากขึ้น แต่เราต้องใช้เวลาในการปฏิรูปในทุกๆ ด้านตั้งแต่ฐานราก ความปรองดองและความสมานฉันท์ รวมทั้งการสร้างความเสมอภาค แม้วันนี้เศรษฐกิจไทยจะมีการติดลบแต่ก็ยังดีขึ้นบ้าง แม้จะยังไม่เป็นที่พอใจมากนัก แต่เราก็ยังคาดหวังว่าปี 2558 การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจก็น่าจะอยู่ที่ประมาณการร้อยละ 3.5-4.5 ความมั่นใจของนักลงทุนมีมากขึ้น
ปีนี้ก็น่าจะทะลุอยู่ที่ 8 แสนล้านบาทอย่างแน่นอน สำหรับเรื่องการท่องเที่ยว สถานการณ์ก็เริ่มดีขึ้นตั้งแต่เดือนตุลาคม จนถึงช่วงฤดูการท่องเที่ยว ยอดการจองโรงแรมและตั๋วเครื่องบินเต็มทั้งหมด แต่ถ้าจะให้เทียบกับปีที่ผ่านมาก็ยังคงเทียบไม่ได้ เนื่องจากเราเจอสถานการณ์ที่ส่งผลกระทบ แต่ยืนยันว่าดีขึ้น แม้การประมาณการณ์จากปีที่ผ่านมาตัวเลขอยู่ที่ 26.7 ล้านคน แต่ตัวเลขก็ทำได้ที่ 25 ล้านคน ก็ถือว่ายังดีและยืนยันว่ากฎหมายที่เราประกาศใช้ไม่ได้มีผลกระทบต่อการท่องเที่ยวหรือนักท่องเที่ยวเลย แต่ทั้งหมดก็ต้องขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วนขอให้เสียสละบ้างหรือมีกำไรน้อยลงบ้าง ยืนยันว่ารัฐบาลจะไม่ทำให้ขาดทุนอย่างแน่นอน
เรื่องของไกด์ ผู้ประกอบการจะต้องไม่โกง สิ่งเหล่านี้จะช่วยในภาพลักษณ์ของประเทศให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งจะส่งผลต่อการค้า การลงทุนด้วยและขณะนี้รัฐบาลกำลังเร่งปรับโครงสร้างและการประกอบอาชีพเกษตรกรรมและปฏิรูปนโยบายต่างๆ ให้สอดคล้องตามยุทธศาสตร์การพัฒนาและความต้องการของประเทศ การพัฒนาอุตสาหกรรมอย่างยั่งยืน การส่งเสริมธุรกิจเอสเอ็มอี ซึ่งแผนการลงทุน 7 ปี ถ้าทุกฝ่ายร่วมมือกัน โดยเริ่มตั้งแต่ปี 2558 คาดว่าภายใน 3 ปีจะเริ่มเห็นผล เศรษฐกิจจะดีขึ้น ทุกคนจะมีอาชีพและมีรายได้