พันธมิตรฯ อัด ต้มยำรวมมิตรกลโกงเลือกตั้ง - ร้องศาลปกครองระงับประกาศผล
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 2 เมษายน 2549 18:23 น.
ผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ระบุ การเลือกตั้งครั้งนี้เป็น ต้มยำรวมมิตรกลโกงการเลือกตั้ง เตรียมร้องศาลปกครองกลางระงับการประกาศผลเลือกตั้ง และให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ เชิญองค์กร ปชช.ร่วมแฉกลโกงเลือกตั้ง 4 เม.ย.ที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา ยก ผบ.ทบ.แสดงออกได้ ติงระวังคำพูดจะเข้าทางฝ่ายไม่เห็นด้วยกับพันธมิตรฯ อัด ตร.อย่าใช้ดับเบิลสแตนดาร์ด ระบุ สนธิ ปกป้องสถาบันและวิจารณ์นักการเมืองที่พฤติกรรมไม่เหมาะสม ชี้ ต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
เมื่อเวลา 17.00 น.วันนี้ ที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา สี่แยกคอกวัว กรุงเทพฯ นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเกี่ยวกับสถานการณ์การเลือกตั้งในวันนี้ ว่า ตนคิดว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ถือเป็นการเลือกตั้งที่มีเล่ห์เหลี่ยมกลโกงมากที่สุด เรียกได้ว่า เป็นต้มยำรวมมิตรกลโกงการเลือกตั้งเลยก็ว่าได้ โดยเฉพาะการที่ กกต.เปลี่ยนรูปแบบคูหาการเลือกตั้งโดยหันคูหาลงคะแนนเลือกตั้งเข้าหาผนังและหันหลังให้เจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้ง โดยบุคคลภายนอกสามารถมองเห็นการลงคะแนนของผู้ลงคะแนนได้
ถือว่าเป็นการปฏิบัติที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 104 ที่ระบุให้การเลือกตั้งเป็นการเลือกตั้งโดยตรงและเป็นความลับ ซึ่งข้ออ้างของ กกต.ที่ระบุว่า เพื่อป้องกันการทุจริตและการแอบถ่ายรูปบัตรเลือกตั้งนั้น ถือว่าเป็นการคุ้มครองการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ กกต.แต่ไม่ได้คุ้มครองการใช้สิทธิเลือกตั้งของประชาชนที่ต้องระมัดระวัง และถือเป็นความลับ ความผิดของ กกต.ครั้งนี้ กกต.ทั้ง 4 คน อาจถึงขั้นต้องมีความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ได้ในที่สุด
พรุ่งนี้เวลา 11.00 น.พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย โดย คุณสมศักดิ์ โกศัยสุข จะเป็นตัวแทนไปยื่นร้องต่อศาลปกครองเพื่อพิพากษาให้การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นโมฆะ และร้องให้เปิดไต่สวนฉุกเฉินเพื่อมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวให้ กกต.ระงับการประกาศรับรองผลการเลือกตั้งไว้ก่อน นายสุริยะใส กล่าวและว่า
นอกเหนือจากนี้ จะมีการจัดกิจกรรมสมัชชาผู้รักประชาธิปไตย ในวันที่ 4 เมษายน 2549 ที่ห้องประชุมอนุสรณ์สถาน 14 ตุลา เพื่อรับลงทะเบียนองค์กรแนวร่วมเครือข่ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจากทุกจังหวัด และทุกสาขาอาชีพ โดยรูปแบบจะเป็นทั้งการเปิดรับสมัครสมาชิกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยในจังหวัดต่างๆ
และอีกรูปแบบจะเป็นการเปิดเวทีให้การต่อสาธารณะโดยตัวแทนองค์กรต่างๆ เพื่อรายงานผลการตรวจสอบการทุจริตการเลือกตั้ง และการเสนอแนะต่อแนวทางการเคลื่อนไหวของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย โดยจะมีแกนนำพันธมิตรฯ ทั้ง 5 คนมาร่วมรับฟังตั้งแต่เวลา 09.3015.00 น.จึงขอประกาศเชิญชวนองค์กรประชาชน องค์กรประชาธิปไตย และผู้รักชาติทั้งหลายมาร่วมเปิดโปงการโกงการเลือกตั้ง และเสนอแนะแนวทางการเคลื่อนไหวต่อพันธมิตรประชานชนเพื่อประชาธิปไตยในวันและเวลาดังกล่าว
ส่วนกรณี พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ.ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นและแนะนำให้พันธมิตรฯ ทบทวนการชุมนุมและยุติการเคลื่อนไหว นั้น นายสุริยะใส กล่าวว่า เข้าใจและเห็นใจ ผบ.ทบ.ในฐานะผู้บัญชาการทหารที่มีหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยของชาติ ที่สถานการณ์การเผชิญหน้าของคนในสังคมปรากฏไปทั่ว และมีสัญญาณของความรุนแรงเผยตัวให้เห็นตลอดเวลา ซึ่งพันธมิตรฯ เองก็วิตกกังวลต่อสถานการณ์ดังกล่าว ที่ผ่านมา จึงพยายามจัดชุมนุมกันอย่างสันติ ยึดหลักอหิงสธรรม เป็นไปตามกรอบรัฐธรรมนูญอย่างเคร่งครัด และ ผบ.ทบ.ก็ถึงกับเอ่ยปากชมว่าเป็นการชุมนุมที่ดีที่สุดในโลก ควรจะได้ลงบันทึกในกินเนสส์บุ๊ก
พันธมิตรฯเห็นว่า ท่าน ผบ.ทบ.มีสิทธิที่จะให้ความเห็น หรือแสดงความรู้สึกต่อสถานการณ์การเมือง แต่ต้องระมัดระวังไม่เปิดช่องให้ผู้ไม่หวังดีฉวยโอกาสนำไปใช้เป็นเครื่องมือทำลายความชอบธรรมอีกฝ่ายหนึ่ง และสร้างความชอบธรรมให้กับตนเอง ที่ผ่านมา ท่านก็วางตัวเป็นกลางต่อสถานการณ์ จนได้รับความชื่นชมจากหลายฝ่าย แต่ครั้งนี้กลับพุ่งเป้ากดดันมาที่พันธมิตรฯ ให้ทบทวนหรือยกเลิกการชุมนุม จึงชวนให้สงสัยว่าท่านมีเจตนาอะไรกันแน่
นายสุริยะใส ยังกล่าวอีกว่า ผบ.ทบ.ไม่ควรให้ความเห็นต่อสถานการณ์ในลักษณะตัดตอน เพราะอาจทำให้ประชาชนเข้าใจผิดต่อการชุมนุมของพันธมิตรฯได้ เพราะ ผบ.ทบ.ทราบดีว่าทำไมพันธมิตรฯ ต้องชุมนุมยืดเยื้อ ใครกันแน่เป็นชนวนปัญหา และใครกันแน่กำลังสร้างความแตกแยกให้กับสังคมทุกชนชั้นในขณะนี้
ทำไมท่านถึงไม่ช่วยกดดันไปที่ต้นเหตุของปัญหา คือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ให้เห็นแก่ชาติบ้านเมืองบ้าง รวมทั้งคนในพรรคไทยรักไทยที่อยู่เบื้องหลังว่าจ้างและจัดตั้งมอเตอร์ไซค์รับจ้างให้ไปป่วน นสพ.คมชัดลึก และผู้จัดการ รวมทั้งเวทีปราศรัยฝ่ายค้านด้วย อย่างไรก็ตาม พันธมิตรฯ ยังยืนยันจะจัดชุมนุมใหญ่ต่อไปโดยนัดหมายกันในวันที่ 7 เมษายน เวลา 15.00 น และเคลื่อนขบวนไปปักหลักที่ 4 แยกสะพานมัฆวานรังสรรค์ ต่อไป นายสุริยะใส กล่าวและว่า
ในส่วนที่มีขบวนการทางการเมืองพยายามใส่ร้ายป้ายสี นายสนธิ ลิ้มทองกุล 1 ในแกนนำพันธมิตรฯ ด้วยประเด็นที่มาการกล่าวถึงสถาบันเบื้องสูง ว่า เป็นการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพนั้น ถือว่าการพยายามขยายผลดังกล่าวของกลุ่มผู้ไม่หวังดีเป็นเรื่องที่ตลก เพราะหากใครติดตามการเคลื่อนไหวมาโดยตลอด จะพบว่า นายสนธิ เป็นคนแรกที่ชูประเด็นการขอพึ่งพระบารมีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยอาศัยรัฐธรรมนูญ มาตรา 7 เพื่อขอพระราชทานนายกรัฐมนตรี และได้แสดงให้เห็นมาตลอดว่ามีความจงรักภักดีต่อสถาบันกษัตริย์
เป็นคุณสนธิด้วยซ้ำ ที่พยายามปกป้องสถาบันเบื้องสูง ด้วยการออกมาวิพากษ์วิจารณ์นักการเมืองที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม และจาบจ้วงสถาบัน ดังที่ปรากฏมาแล้วก่อนหน้านี้ ดังนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องแสดงให้สังคมได้เห็นด้วยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานอย่างมีความเป็น กลาง ยุติธรรม และไม่เลือกปฏิบัติ นายสุริยะใส กล่าว