สพรั่งลั่นพร้อมเด็ดขาด กลุ่มเคลื่อนไหวคดียุบพรรค

พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะผู้ช่วยเลขาธิการคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) กล่าววันนี้ (22 พ.ค.) กรณีมีการระบุว่ากลุ่มการเมืองหลังเตรียมเคลื่อนไหวระหว่างการพิจารณาคดียุบพรรคการเมือง ว่า

เรื่องดังกล่าวยังเป็นแค่คำขู่ แต่หากมีการกระทำดังกล่าวขัดต่อกฎหมาย หน่วยงานด้านความมั่นคงพร้อมเข้าดูแลและจัดการปัญหาทุกอย่างให้เรียบร้อย

ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กรณีมีการระบุว่าจะเดินทางกลับเข้าประเทศไทยปลายเดือนพ.ค.นี้ ว่า ฝ่ายความมั่นคงยังไม่ได้รับรายงานเรื่องดังกล่าว ทราบเพียงข่าวจากสื่อ และทนายของ พ.ต.ท.ทักษิณ แจ้งว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะยังไม่เดินทางเข้ามา

อย่างไรก็ตาม การเคลื่อนไหวก็เป็นสิทธิที่ พ.ต.ท.ทักษิณ จะทำในต่างประเทศได้ ไม่สามารถไปห้ามปรามได้ สิ่งที่จะทำคือ การทำให้บ้านเมืองสงบเรียบร้อย

แม่ทัพภาคที่ 1 กล่าวต่อถึงถานการณ์ทางการเมืองที่ระบุว่าจะเข้มข้น ในวันที่ 30 พ.ค.นี้ วันตัดสินคดียุบพรรค ว่า ขณะนี้ยังไม่ทราบผลการตัดสินที่แน่นอน แต่สิ่งหนึ่งที่ตนสบายใจคือ ประชาชนส่วนใหญ่ รวมทั้งฝ่ายพรรคการเมือง ก็หวังให้เกิดความสงบเรียบร้อย และพร้อมจะยอมรับและปฏิบัติตามคำตัดสินของตุลาการรัฐธรรมนูญ

"พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ประธาน คมช.มีความเป็นห่วงที่อยากจะให้ทุกฝ่ายช่วยกันทำให้บ้านเมืองไปสู่ความเรียบร้อย มุ่งไปสู่การเลือกตั้งที่ดีที่สุด" แม่ทัพภาคที่ 1 กล่าว

กองทัพบกได้สั่งการทุกหน่วยให้ติดตามสถานการณ์ และประสานกับทุกกระทรวง ทบวง กรม ให้ช่วยกันดูแล ประสานทุกกลุ่มที่มีความเคลื่อนไหวให้อยู่ในความสงบเรียบร้อย

ขณะที่ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาต่างๆ รัฐบาลก็พยายามที่จะเข้าไปแก้ไขปัญหาให้โดยเร็วที่สุด

"คิดว่าภายในสิ้นเดือนนี้ ต้นเดือนหน้า ไม่น่าจะมีเหตุการณ์ร้ายแรงเกิดขึ้น ฝ่ายความมั่นคงยังมั่นใจในระบบการรักษาความปลอดภัย อย่างไรก็ตาม นอกจากข้าราชการทั้งพลเรือน ตำรวจ ทหาร องค์การบริหารส่วนท้องถิ่นต่าง ๆ ก็มีความสำคัญที่จะมีส่วนช่วยกันในการดูแล

ชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชนให้บ้านเมืองผ่านวิกฤตการณ์ช่วงนี้ไปก่อน อะไรก็ตามที่เป็นการกระทำผิดกฎหมาย ต้องเข้าไปดำเนินการ เพราะถ้าบ้านเมืองไร้กฎหมาย ไม่มีขื่อมีแป ไม่มีการควบคุม ทุกคนไม่ช่วยกันดูแล ก็จะทำให้บ้านเมืองเกิดความวุ่นวาย" แม่ทัพภาคที่ 1 กล่าว

ไม่มี ประธาน คมช. ยืนยันแล้ว หน้าที่ของทหารเข้ามาดูแลความเรียบร้อย เป็นผู้ช่วยเหลือ สนับสนุน ประสานงาน เราคงไม่ทำอะไรฝืนกับสิ่งที่ควรจะเป็น

"เวลาที่เสียไป 8 เดือน ผมว่ามันช้าไปแล้ว 1 ปี ก็โอเค แต่อย่าให้เกิน 1 ปี จะดีกว่า 1 ปีนั้น ไม่มากไปหรือน้อยไป ขึ้นอยู่กับประชาชนที่จะต้องช่วยกันทำให้บ้านเมืองสงบสุข อย่าไปร่วมในสิ่งที่ไม่ควรร่วม" แม่ทัพภาคที่ 1 กล่าว

ขอขอบคุณ : ข้อมูลข่าวที่มีคุณภาพจาก หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ