12 ธ.ค.57 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลวงปู่พุทธะอิสระ เจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม
ได้โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊คส่วนตัว "หลวงปู่พุทธะอิสระ (Buddha Isara)" โดยระบุว่า เวลาทำดีต้องการรับผลแห่งความดี แล้วทำชั่วล่ะทำไมต้องขออภัยโทษ ฉันยังไม่เข้าใจวิธีคิดของคนสมัยนี้ เวลาทำความดี ทำคุณประโยชน์ ก็อยากแสดงตน เสนอตัว เพื่อรับประโยชน์ รับผลที่ตนคิดว่าต้องได้ จากการทำคุณงามความดี ทั้งที่จริงแล้ว ความดีมีคุณสมบัติดังน้ำ ผู้ทำย่อมได้รับความชุ่มฉ่ำหัวใจ ดุจดั่งน้ำที่ได้ดื่มกิน ไม่จำเป็นต้องประกาศโฆษณาเรียกร้องขอความดีความชอบ ทั้งขอผู้อื่นให้ผลตอบแทน เพราะผลตอบแทนมันเกิดขึ้นในระหว่างที่ทำและหลังทำแล้ว
ซึ่งในคนคนเดียวกัน เวลาทำชั่ว ทำไม่ดี ทำผิด แทนที่จะปล่อยให้ผลแห่งกรรมชั่วส่งผลตอบสนอง กลับออกมาวิงวอนขอร้องได้โปรดให้อภัย ทั้งที่มันเป็นผลที่ผู้ทำต้องได้รับ ซ้ำร้ายยังไม่รู้สึกสำนึกผิด ออกมากล่าวหาผู้อื่นว่า ไม่เป็นธรรม ไม่ยุติธรรม ไม่มีน้ำใจ ซึ่งในโลกนี้มีคนแบบนี้อยู่เยอะมาก
จนเป็นเหตุให้ความเที่ยงธรรมเอนเอียง นำมาซึ่งความวุ่นวายของสังคม
หากผู้คนในสังคมนี้รู้จักยอมรับกฎของกรรม ยอมรับบทบัญญัติของกฎหมาย ยอมรับผิดชอบในสิ่งที่ตนกระทำ ไม่ว่าจะดีหรือเลว ไม่ควรปฏิเสธผลตอบสนองนั้นๆ สังคมคงจะน่าอยู่กว่านี้เยอะเลย ที่ต้องเขียนเรื่องนี้ เพราะรู้สึกว่าความสุจริต ซื่อตรง เที่ยงธรรม ดูว่าคนในสังคมจะทำได้ยาก บางทีไม่รู้จักเสียด้วยซ้ำไป จนมีคำกล่าวว่า ความสุจริตซื่อตรง เที่ยงธรรม ล้วนแต่แอบแฝงไว้ด้วยผลประโยชน์ทั้งนั้น หาได้บริสุทธิ์ถูกต้องจริงไม่
ชั่วชีวิตฉัน เฝ้าเพ้อ เฝ้าฝัน ว่าโลกนี้ยังมีความสุจริต ซื่อตรง เที่ยงธรรม อยู่ในมวลหมู่เพื่อนมนุษย์ด้วยกัน
แต่ดูเหมือนงมเข็มในมหาสมุทร สุดจะยากเย็นจริงๆ เลยนำมาซึ่งบทโศลกที่ฉันเขียนเอาไว้ว่า ลูกรัก ความสุจริต ซื่อตรง เที่ยงธรรม หาได้มีอยู่ศาลใดๆ แม้แต่เปาบุ้นจิ้น แต่มันมีอยู่ในกฎของธรรมชาติ กฎของกรรมต่างหากเล่า เหตุเพราะแต่ละศาล ล้วนแล้วแต่ตัดสินเป็นเวลา แต่กฎของกรรม ตัดสินได้ทุกเวลาไม่มีว่างเว้น
และด้วยความเชื่อในกฎของกรรมมาโดยตลอด ฉันจึงไม่เคยขอร้อง เรียกร้อง ขอให้ใครๆ ยกโทษให้ หากฉันชั่วฉันผิด ฉันไม่คิดว่ากฎของกรรมจะยกโทษให้ฉันด้วย ฉันพร้อมและเต็มใจรับผลกรรมนั้นๆ อย่างไม่บ่ายเบี่ยง