"ดุสิตโพล" เผยคนไทยกังวลข่าว "ปฏิวัติซ้อน" ของ "บิ๊กจิ๋ว" หวั่นบ้านเมืองวุ่นวายมากขึ้น ภาพลักษณ์ประเทศเสียหาย แต่เชื่อยังไม่น่าเกิดขึ้นจริง เหตุบ้านเมืองสงบ คสช.มีอำนาจเต็มบริหารประเทศ

เมื่อวันที่ 12 ธ.ค. สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต ได้เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ จำนวน 1,269 คน
 
ระหว่างวันที่ 7-11 ธ.ค.ที่ผ่านมา ถึงกรณีที่พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี ออกมาเตือนรัฐบาล และคสช.ให้ระวังการเกิดปฏิวัติซ้อน หากมีการบรรจุที่มาของนายกรัฐมนตรีด้วยการให้ประชาชนเลือกโดยตรงในรัฐธรรมนูญ พบว่า ข่าวการปฏิวัติซ้อน ทำให้ประชาชนรู้สึกกังวล เป็นห่วงสถานการณ์บ้านเมือง ไม่อยากให้เกิดความวุ่นวายขึ้นอีก มากที่สุดถึงร้อยละ 80.61 รองลงมาร้อยละ 79.20 เห็นว่าหากมีการปฏิวัติซ้อน ภาพลักษณ์ประเทศจะยิ่งเสียหาย เศรษฐกิจตกต่ำ และร้อยละ 74.70 ระบุยังไม่รู้ข้อเท็จจริง อาจเป็นเพียงข่าวลือ ควรตรวจสอบแหล่งที่มาของข่าว

เมื่อถามว่าประชาชนคิดว่าการปฏิวัติซ้อน มีทางเกิดขึ้นได้หรือไม่ พบว่าร้อยละ 37.83 มองว่าไม่น่าจะเกิดขึ้น
 
เพราะบ้านเมืองสงบเรียบร้อยมากขึ้น คสช.มีอำนาจในการบริหารดูแลเต็มที่ ไม่อยากให้บ้านเมืองกลับไปวุ่นวายอีกครั้ง ส่วนร้อยละ 34.04 บอกไม่แน่ใจ เพราะยังไม่รู้รายละเอียดที่ชัดเจน ต้องติดตามข้อมูลข่าวสารอย่างใกล้ชิด อาจเกี่ยวข้องกับเรื่องผลประโยชน์ทางการเมือง และร้อยละ 28.13 ระบุน่าจะเกิดขึ้นได้ เพราะยังมีหลายกลุ่มที่ไม่เห็นด้วย และมีการเคลื่อนไหว อาจมีผู้ที่ต้องการสร้างความวุ่นวาย การเมืองเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา อาจมาจากปัญหาเศรษฐกิจไม่ดี ประชาชนเดือดร้อน

ทั้งนี้ประชาชนมองว่า "ผลเสีย"ถ้ามีการปฏิวัติซ้อนเกิดขึ้น ร้อยละ 78.32 มองว่าทำให้ประเทศชาติเสียหาย การพัฒนาหยุดชะงัก เศรษฐกิจตกต่ำ และร้อยละ 74.54 บ้านเมืองไม่สงบ เกิดเหตุการณ์วุ่นวายและอาจมีเหตุรุนแรงเกิดขึ้น อย่างไรก็ตามประชาชนส่วนใหญ่ถึงร้อยละ 85.57 คิดว่ายังไม่ถึงเวลาที่จะมีการปฏิวัติซ้อนเกิดขึ้น เพราะคสช.และรัฐบาล บริหารได้ดี บ้านเมืองกำลังจะเดินหน้า ควรให้โอกาสและใช้เวลาสักระยะ หากเกิดความวุ่นวายอีกประเทศจะยิ่งเสียหาย คนไทยบอบช้ำมามากแล้ว มีเพียงร้อยละ 14.43 ที่เห็นว่าถึงเวลาแล้ว เพราะยังมีบางกลุ่มที่เคลื่อนไหว มีความขัดแย้งในบ้านเมืองเพิ่มขึ้น ประชาชนยังเดือดร้อน สภาพเศรษฐกิจตกต่ำ ข้าวของแพง.