เมื่อวันที่ 11 ธ.ค. พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิดรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์โต้ กรณีที่นายวรชัย เหมะอดีตส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย ออกมาระบุ 4 สาเหตุที่จะนำไปสู่การปฏิวัติซ้อน ว่า ยืนยันรัฐบาลมีเอกภาพและไม่มีการปฏิวัติซ้อน อีกทั้งทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ต้องช่วยกันแก้ปัญหาความขัดแย้ง ทั้งนี้ต้องถามว่า นายวรชัย เป็นอะไร เป็นนักการเมืองแล้วมาชี้แจงถึงสาเหตุที่จะเกิดการปฏิวัติกับทหารที่ดูแล และในส่วนของข้าวของแพง ชาวสวนยางจะบุกทำเนียบฯ ตรงนี้ตนมองว่า ไม่เกี่ยวกับการปฏิวัติ จึงขอถามกลับอีกว่า หากมีการปฏิวัติซ้อนแล้วปัญหาทุกอย่างจะถูกแก้อย่างนั้นหรือ ส่วนการคงกฎอัยการศึกก็ไม่ได้ทำให้เศรษฐกิจแย่ลง เพราะเวลานี้ เศรษฐกิจกำลังมีแนวโน้มที่จะฟื้นตัวแต่อาจฟื้นตัวไม่มาก เพราะต้องเข้าใจเรื่องเศรษฐกิจโลก อีกทั้งปัญหาความขัดแย้งในอดีตที่ผ่านมาทำให้การแก้ปัญหาของเศรษฐกิจเดินได้ไม่เต็มสูบ และรัฐบาลที่ผ่านมาไม่มีอำนาจเต็มที่จะแก้ปัญหา จึงเป็นที่มาของคสช.และรัฐบาลในขณะนี้ ส่วนเรื่องการปฏิรูปเป็นไปไม่ได้ที่จะเป็นการปฏิรูปที่ผิดทาง หรือจะต้องให้ฝั่งการเมืองเป็นคนกำหนดอย่างนั้นหรือ ที่ผ่านมาปัญหาที่เกิดขึ้นมาจากความขัดแย้งทางการเมืองไม่ใช่หรือ
“ ขณะนี้รัฐบาลไม่ได้ฟันธงเลยว่า จะเป็นอย่างไรและนายกฯ ก็บอกแล้วว่า ไม่อยู่ในสถานะที่จะออกความเห็นใด ๆ ได้ เพราะแสดงความเห็นไปจะทำให้สังคมมองว่า นายกฯชี้นำได้ ส่วนตัวบุคคลที่เข้ามาทำหน้าที่ต่าง ๆ นั้น แม้คสช.จะมีส่วนคัดเลือกในรอบสุดท้าย แต่ต้องยอมรับว่า มาจากฝ่ายต่าง ๆ ฉะนั้นเมื่อคัดเลือกคนที่เข้ามาร่างกฎกติกา ก็ต้องยอมรับความคิดความเห็นที่แตกต่างกันและต้องฟังเสียงส่วนใหญ่ ทั้งนี้เชื่อว่า กติกาใหม่ที่ออกมาจะมีคำอธิบายให้สังคมยอมรับได้เพราะที่ผ่านมาความขัดแย้งเกิดจากแนวคิดทางการเมืองที่มีความเห็นไม่ตรงกัน ส่วนพล.อ.ประยุทธ์ เป็นผู้อาสาเข้ามาทำหน้าที่ยุติความขัดแย้งและหาแนวทางที่เหมาะสมที่สุด ที่ประเทศยอมรับได้ ฉะนั้นจะบอกว่า ไม่ถูกทางคงไม่ใช่ ” พล.ต.สรรเสริญ กล่าว