“หมอวรงค์”จี้รัฐบาล เปิดผลสอบปริมาณข้าวหาย-ข้าวเน่าให้ประชาชนรับรู้ แฉจีนสั่งชะลอรับข้าวลอต 3 จากไทย หวั่นทำเสียเครดิต
เมื่อวันที่ 10 ธ.ค. นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีตส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์
เปิดเผยถึงการติดตามตรวจสอบข้าวในสต๊อกของรัฐว่า ตามที่มีรายงานข่าวถึงผลตรวจสอบคุณภาพข้าวโดยคณะอนุกรรมการตรวจสอบปริมาณและคุณภาพข้าวคงเหลือของรัฐ ซึ่ง ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน พบว่ามีข้าวสารในสต๊อกจำนวน 17 ล้านตัน ข้าวคุณภาพดี 10 เปอร์เซ็นต์ หรือประมาณ 2 ล้านตัน ข้าวคุณภาพต่ำกว่ามาตรฐาน 80 เปอร์เซ็นต์ โดยลักษณะภายนอกเหลืองบางส่วน 14 ล้านตัน เป็นข้าวเสื่อมคุณภาพ 4 เปอร์เซ็นต์ หรือ 7 แสนตัน และข้าวหายอีก 200,000 ตัน จากผลรายงานดังกล่าวของคณะอนุกรรมการของ ม.ล.ปนัดดา ที่มีการตรวจจริงตามโกดัง เริ่มตั้งแต่วันที่ 3 ก.ค.2557 นำมาเทียบกับตัวเลขของอนุกรรมการปิดบัญชีที่มีการปิดบัญชีวันที่ 22 พ.ค.2557 ตามรายงานของคณะอนุกรรมการปิดบัญชี มีรายงานข้าวตามบัญชีถึง 19.2 ล้านตัน แต่คณะกรรมการตรวจโกดังมีรายงานข้าวสาร 17 ล้านตัน แต่กลับรายงานข้าวสารหายเพียง 2แสนตัน ในความเป็นจริงแล้ว ข้าวสารน่าจะหายสูงถึง 2.2 ล้านตัน
นพ.วรงค์ กล่าวอีกว่า นโยบายของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี
มีความชัดเจนในการปราบปรามการทุจริต ดังนั้นสิ่งที่รัฐบาลควรชี้แจงประชาชนคือปริมาณข้าวสารที่หายและข้าวสารที่เสื่อมสภาพเหล่านี้ ล้วนเกิดจากการทุจริต รัฐบาลได้ให้เจ้าหน้าที่รัฐดำเนินคดีแก่ผู้เกี่ยวข้องต่อความเสียหายดังกล่าวไปแล้วจำนวนกี่คดี ตนคิดว่าถ้ารัฐบาลสามารถรวบรวมคดีต่าง ๆ ที่ดำเนินการและรายงานให้ประชาชนทราบ ก็จะสร้างความเชื่อมั่นแก่ประชาชนว่ารัฐบาลเอาจริงในการปราบปรามการทุจริต อย่างไรก็ตาม
ล่าสุดมีข่าวว่าบริษัทคอฟโก ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบการนำเข้าข้าวของรัฐบาลจีน ที่มีสัญญาซื้อข้าวแบบรัฐต่อรัฐ(จีทูจี)กับรัฐบาลไทย
ได้สั่งชะลอการรับมอบข้าวลอตที่ 3 จากฝ่ายไทย ดังนั้นทางที่ดี รัฐบาลต้องลงไปดูแลปัญหานี้อย่างใกล้ชิดว่าเกิดจากฝ่ายใด ไม่ควรที่จะเกิดจากฝ่ายไทย โดยเฉพาะปัญหาคุณภาพข้าวที่ส่งมอบ และรัฐบาลควรชี้แจงให้ประชาชนรับทราบด้วยเพราะสัญญาการซื้อขายข้าวแบบจีทูจีเป็นเครดิตของประเทศ.