ประยุทธ์เปรยต้านกฏอัยการศึก!ลำบากเอง หน.กม.พท.ค้าน

ลั่นออกมาประท้วง-เคลื่อนไหว ภายใต้กฎอัยการศึกไม่กลัวเหรอ ถ้าไม่กลัวก็จะได้รู้ไว้ เตือนเดี้ยวจะลำบากเอง

เมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 1 ธ.ค. ที่ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 ดอนเมือง

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช.ให้สัมภาษณ์ หลังกลับจากการเยือนประเทศมาเลเซียว่า เป็นการไปเยือนแนะนำตัวอย่างเป็นทางการ หารือข้อราชการ ความร่วมมือระหว่างกัน ขับเคลื่อนเศรษฐกิจอาเซียน เชื่อมโยงทางบก อากาศ น้ำ ทางรถไฟในอนาคต ก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโกลก เปิดพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดน เห็นชอบหลักการคณะพูดคุยสันติสุขจังหวัดชายแดนใต้ และการตั้ง พล.อ.อักษรา เกิดผล ประธานที่ปรึกษากองทัพบก เป็นหัวหน้าคณะพูดคุยสันติสุข โดยมาเลเซียเป็นผู้อำนวยความสะดวกเหมือนเดิม แบ่งระดับการทำงาน รัฐบาลมีอำนาจเต็มในการตัดสินใจ มีคณะกรรมการพูดคุย และคณะประสานในพื้นที่ว่าด้วยกระบวนการยุติธรรม และกฎหมาย สร้างความไว้วางซึ่งกันและกัน
 
ขั้นตอนที่ 2 ลงสัตยาบันหยุด จัดทำโรดแม็ปร่วมกัน ทั้งนี้ไม่อยากให้มีการเร่งรัด เพราะจะกลายเป็นการกดดัน

ถ้าไม่เป็นไปตามนั้นผู้ก่อความไม่สงบก็จะใช้เป็นสาเหตุสร้างความรุนแรงมากขึ้น แต่ถ้ายุติความรุนแรงจะดูแลเรื่องของคดีกระบวนการยุติธรรม ความเป็นอยู่ของประชาชนที่บริสุทธิ์ให้มากที่สุด ไม่จำเป็นต้องรอรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง คุยได้เลย ใครมาเป็นรัฐบาลก็ทำตามโครงสร้างนี้ที่จริงมาเลเซียอยู่เฉยก็ได้ เป็นเรื่องของเราแต่เขาไม่ต้องการให้รังแกคนอิสลามจึงยื่นมือเข้ามาช่วย ส่วนปัญหาเกี่ยวกับการค้าน้ำมันเถื่อน ผู้มีอิทธิพลของผิดกฎหมายหนีภาษี เป็นแค่ภัยแทรกซ้อน เพราะเรื่องเหล่านี้ไม่มีถึงฆ่าเด็ก ฆ่าผู้หญิง เป็นการต่อสู้เชิงอัตลักษณ์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สัปดาห์ที่ 3 ของเดือน ธ.ค. ทีมงาน พล.อ.อักษรา และคณะร่วม 10 คนจะเดินทางไปคุยกับทีมงานมาเลเซีย

ซึ่งมีนายดาโต๊ะ ซัมซามิน ผู้อำนวยความสะดวกพูดคุยสันติสุขเป็นหัวหน้าทีม เพื่อพูดคุยและวางกรอบการเจรจา และเพื่อประสานงานการเปิดโต๊ะคุยครั้งแรก ในช่วงกลางเดือน ม.ค. 58 แต่อย่างไรก็ตามต้องรอให้ทางมาเลเซียเป็นผู้ประสานเข้ามาก่อน

พล.อ.ประยุทธ์ เปิดเผยเกี่ยวกับข้อเสนอการนิรโทษกรรมคดีทางการเมืองว่า เป็นเรื่องที่ต้องว่ากันตามกฎหมาย

 ตนขอเอาประเทศชาติเดินหน้าไปก่อน คนที่ทำความผิดก็ให้ว่ากันไป วันนี้กระบวนการยุติธรรมยังมีอยู่หรือไม่ ศาลปกครอง ศาลรัฐธรรมนูญ อัยการ ตำรวจ ปปช. ยังมีอยู่ครบ ต้องให้เขาทำงาน ตนขอเดินหน้าประเทศปัญหาความไม่สงบชายแดนใต้ก็รบกันจะเป็นจะตาย ปัญหาปากท้องก็ยังมีอยู่ ปัญหาทุกวันนี้ควรจะมีหรือไม่ ทั้งการส่งออกการแก้กฎหมายให้ทันสมัย ซึ่งทั้งหมดควรจะทำมาตั้งแต่ทุกรัฐบาล ทำไมมันเหลือให้ตนมาทำ สำหรับกรณีที่มีกลุ่มประชาชนต่อต้านรัฐบาลระหว่างการลงพื้นที่ต่างจังหวัดและเดินทางไปต่างประเทศนั้น เรื่องดังกล่าวไม่เป็นอุปสรรค เขาจะประท้วงก็ประท้วงไป ตนถามว่าตนได้ทำเสียหรือทำดีถ้าตนทำดีแล้วอยากให้ทำต่อก็ดูแลหน่อย แต่ถ้าคิดว่าผู้ที่ออกมาต่อต้านนั้นทำถูกแล้วก็ออกมาว่าตนไปเรื่อยๆ วันหน้าก็ลำบากกันเอง

 ส่วนกรณี พล.ท.กัมปนาท รุดดิษฐ์ แม่ทัพภาคที่ 1 ระบุว่า กลุ่มนักศึกษา 5 คนออกมาชู 3 นิ้ว ประท้วงนายกรัฐมนตรีที่ จ.ขอนแก่นเป็นการรับจ้างมาจากนักการเมืองท้องถิ่นนั้น อยู่ระหว่างสอบสวนว่ามีหลักฐานหรือไม่ ส่วนที่ยังมีกลุ่มการเมืองออกมาเคลื่อนไหว ภายใต้กฎอัยการศึกต้องไปถามกลุ่มการเมืองว่ากลัวกฎอัยการศึกหรือไม่ ถ้าไม่กลัวก็จะได้รู้

นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า "ผมไม่กลัวว่าเหตุการจะลุกลามบานปลาย ผมเป็นผู้รักษากฎหมาย

กลัวคนผิดกฎหมายไม่ได้ต้องตักเตือนให้คนอยู่ในความสงบ ให้กำลังใจรัฐบาลทำงาน วันนี้รัฐบาลกำลังทำอยู่ ทั้งดูแลเรื่องความเหลื่อมล้ำ ปัญหาราคาข้าว ยางพารา เดี๋ยวก็ไปพูดกับต่างประเทศในเรื่องการค้าขายสร้างความเข้มแข็งเศรษฐกิจ ปีใหม่ก็จัดหาสินค้ามาขายในราคาถูก เราขับเคลื่อนทุกวัน กับอีกฝ่ายที่เอาแต่ประท้วง เรื่องการเมือง เรื่องเลือกตั้ง ท่านจะเลือกใคร ไปคิดเอาเอง ส่วนกรณีที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะขอเดินทางไปต่างประเทศ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะกรอง และส่งขึ้นมาเอง

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ขณะที่นายกรัฐมนตรีเดินเข้ามาในห้องแถลงสื่อมวลชนนั้น ปรากฏว่าไฟบริเวณโพเดียมได้ดับลง ซึ่งระหว่างนั้นทีมรักษาความปลอดภัยได้ใช้มือตบไปเอวอยู่ในท่าเตรียมพร้อม และได้ขยับเข้าไปประชิดใกล้ตัวนายกฯ เพื่อรักษาความปลอดภัยทันที ขณะที่นายกรัฐมนตรีบอกว่า “เปิดไฟสิ ใครไปกดปิด” .