วันที่ 1 ธันวาคม ที่ลานพระแม่ธรณีบีบมวยผม พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคปชป. กล่าว
ถึงการยกร่างรัฐธรรมนูญที่มีข้อเสนอให้การเลือกคณะรัฐมนตรี(ครม.)และนายกรัฐมนตรีโดยตรง ว่า ได้ให้ความเห็นกับคณะกรรมาธิการ(กมธ.)ยกร่างฯแล้วว่าให้ตั้งโจทย์ให้ชัด เพราะสภาพปัญหาที่ผ่านมาเป็นเรื่องของการไม่สามารถตรวจสอบอำนาจฝ่ายบริหารได้ ฉะนั้นข้อเสนออะไรก็ตาม ต้องมาดูว่าจะแก้ปัญหานั้นได้หรือไม่ หรือจะทำให้ปัญหานั้นรุนแรงขึ้น ซึ่งตนให้ความเห็นไปว่าถ้ามีการเลือกผู้บริหารโดยตรง แต่ไม่มีรูปธรรมว่ากลไกการตรวจสอบฝ่ายบริหาร โดยสภาหรือฝ่ายอื่นๆ จะเข้มแข็งขึ้นอย่างไร ก็จะเป็นเรื่องที่อันตราย
เนื่องจากผู้ที่ได้รับการเลือกตั้งโดยตรงมาจะอ้างความชอบธรรมจากการเลือกตั้ง ทำให้การตรวจสอบยากยิ่งขึ้น
หากมีการเสนอบัญชีต่างๆ และมาในลักษณะเหมือนกับการรวบอำนาจไว้ที่คนกลุ่มเดียว แต่ทั้งหมดไม่สามารถไปตอบคำถามทีละข้อได้ ต้องดูว่าถ้าออกมาทั้งระบบจะออกมาอย่างไร ตนถึงจะสามารถตอบได้ว่า วิธีเลือกแบบนี้จะแก้ปัญหาได้หรือไม่ ถามถึง แนวคิดของนานครินทร์ เมฆไตรรัตน์ กรรมาธิการยกร่างฯ ที่เสนอให้ประเทศไทยใช้ระบบการเลือกตั้งแบบเยอรมัน
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า มีข้อดีอยู่ 2 ประการ คือ 1.มีการพูดถึงคะแนนเสียงของประชาชน ว่าทำอย่างไรให้ทุกคะแนนเสียงมีความหมาย
2.ต้องการที่จะให้สัดส่วนในสภา คือ เวลาประชาชนไปเลือกตั้ง แล้วต้องการเลือกฝ่ายใดเป็นผู้บริหารประเทศก็จะสะท้อนคะแนนเสียงตามนั้น มากกว่าที่ใช้คะแนนเสียงที่เลือกตัว ส.ส. แต่รายละเอียดจะซับซ้อนพอสมควร เห็นว่าทุกคนต้องเริ่มต้อจากการบอกข้อเสนอแต่ละข้อก่อน ว่าจะแก้ปัญหาอย่างไร เพื่อจะตอบได้ว่าสอดคล้องกับเรื่องอื่นๆหรือไม่