30 พ.ย. 57 พระสุเทพ ปภากโร เทศน์กับผู้ที่มาบวช ในโครงการบรรพชาอุปสมบท
เพื่อปฏิบัติธรรมถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวรโรกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม รุ่นที่ 2 ตอนหนึ่งว่าการปฏิบัติธรรมะเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล น่าจะเป็นสิ่งที่ดีของชาวพุทธ เพราะพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระองค์ทรงอยู่ในใจคนไทยทุกคน ที่ผ่านมาอาตมาได้ลาออกจากการเป็น ส.ส. ลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อมาต่อสู้กับมวลชน เพื่อรักษาชาติรักษาแผ่นดิน เราทำจนสำเร็จด้วยความเสียสละอย่างยิ่งของมวลมหาประชาชน เสียเงิน เสียทอง สละเวลาทำมาหากิน ไปนอนกลางดินกินกลางถนน ทุกข์ยาก มีคนเสียชีวิต 24 คน ไม่มีครั้งไหนที่มวลมหาประชาชนของประเทศไหน จะลุกขึ้นปกป้องแผ่นดิน เป็นจำนวนหลายๆ ล้านคนเหมือนที่พวกเราทำมาในปี 2556-2557 ที่น่าสรรเสริญคือ คนที่ลุกขึ้นไปต่อสู้ ล้วนแต่เป็นคนดีมีศีลธรรม มีธรรมะของพระพุทธเจ้า สู้อย่างสันติ อหิงสา ไม่คิดไปทำร้ายใคร แม้ถูกกระทำด้วยความทารุณโหดร้ายถูกเขาเล่นงานด้วยอาวุธสงครามยืนน้ำตาไหล อดทน อดกลั้นใช้ขันติธรรมอย่างถึงที่สุด ต้องยกย่องสรรเสริญ และโลกก็ยกย่องสรรเสริญผู้ที่สู้ด้วยใจ ว่า เราสู้เพื่อชาติ เพื่อแผ่นดินกันไปแล้ว วันนี้เรามาทำหน้าที่เพื่อศาสนา เพื่อพระมหากษัตริย์กันบ้าง
พระสุเทพ เทศน์ต่ออีกว่า เรื่องพระศาสนาเป็นเรื่องสำคัญ ในปัจจุบันหลายคนศีลก็ไม่เคยถือ วัดก็ไม่เคยเข้า
บางคนเป็นส.ส. อาราธนาศีลก็ทำไม่เป็น เห็นพระเมินเลย จะอยู่ได้อย่างไรประเทศไทย ที่ผ่านมาคนไทยเข้าวัดกันบ่อยประเทศชาติร่มเย็น ใครเห็นใครก็รักต่างชาติมาเห็นก็ยิ้ม อยู่กันด้วยความเมตตากรุณาเอื้อเฟื้อ คนไทยมีธรรมะของพระพุทธเจ้าเป็นสรณะ แต่วันนี้ เปลี่ยนไปเยอะ ลืมธรรมะของพระพุทธเจ้า ติดวัตถุนิยม กลายเป็นคนติดวัตถุนิยม เปลี่ยนโทรศัพท์เป็นรุ่นใหม่ๆ เพราะอยากเท่ห์ แพ้กิเลสมากขึ้น
ด้านนายพุทธิพงษ์ หนึ่งในแกนนำ กปปส. กล่าวว่า สำหรับตนแล้ว คงไม่สามารถเข้าร่วมโครงการบวชถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ เนื่องจากมีงานในส่วนที่พระสุเทพ มอบหมายให้ทำโดยเฉพาะการดูแลผู้บาดเจ็บ และผู้ที่ได้รีบผลกระทบจากการชุมนุม ที่ผ่านมา