นายกฯ วอนกลุ่มต่อต้านเสนอไอเดียปฏิรูป ขอแค่อย่าต่อต้าน รัฐ- คสช.
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวการเมือง นายกฯ วอนกลุ่มต่อต้านเสนอไอเดียปฏิรูป ขอแค่อย่าต่อต้าน รัฐ- คสช.
นายกฯ ชี้กลุ่มต่อต้านร่วมเสนอไอเดียปฏิรูป พร้อมรับฟังความคิดเห็นของคนในทุกระดับ ขอแค่อย่าต่อต้าน "รัฐ- คสช."
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในรายการ "คืนความสุขให้คนในชาติ" ออกอากาศทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ได้มีการเปลี่ยนฉากหลังของรายการ เป็นภาพภายในตึกไทยคู่ฟ้า นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ยังได้ปรับเปลี่ยนรูปแบบการดำเนินรายการ จากการยืนพูด เป็นการนั่งคุยแบบสบาย ๆ ตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ ได้มีการสั่งเปลี่ยนฉากและรูปแบบก่อนหน้านี้
ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวใน รายการ "คืนความสุขให้คนในชาติ" ตอนหนึ่งว่า การทำงานทั้งเรื่องของการปฏิรูป มีหลายท่าน ทั้ง อดีตผู้นำรัฐบาล นักวิชาการ นักศึกษา ออกมาพูดว่า ขอให้รับฟังความคิดเห็นของคนในทุกระดับบ้าง ซึ่งก็ทำอยู่แล้ว เพียงแต่ขอว่าอย่าให้มีการต่อต้านการทำงานของรัฐบาล และคสช. ทั้งนี้หากมีการเสนอความคิดเห็นขอให้ส่งมาที่รัฐบาล หรือกกต. หรือที่สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ในวันนี้ขอให้ทำบทบาทของตัวเองให้ดีที่สุด โดยคสช. จะกำหนดบทบาทตัวเองชัดเจน รัฐบาลก็จะเกื้อกูลในการปฏิรูปให้ได้ โดยใช้เวลาให้น้อยที่สุด
พล.ต.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า ส่วนในการประชุม ครม. มีประเด็นสำคัญคือการหารือในเรื่องการปฏิรูปว่า จะทำยังไงที่จะใช้เวลาที่มีอยู่อย่างเหมาะสมและทันเวลา รวมถึงการลำดับความสำคัญของเรื่อง ซึ่งวันนี้ได้มีการตกลงกันว่า ถ้าจะมีการเลือกตั้งกันในระยะเวลาอันใกล้ จะต้องสร้างกระบวนการในการเข้ามาสู่การบริหารราชการแผ่นดิน ให้มีความสมดุลกันกับข้าราชการ ที่ต้องทำงานตามกรอบระเบียบของกฎหมายที่กำหนดไว้แล้วเดิม เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาความขัดแย้ง และการก้าวล่วงซึ่งกันและกัน ทั้งนี้ในส่วนของกระบวนการบริหาร และนิติบัญญัติ จะทำต้อง ไม่ให้มีการทับซ้อน รวมไปถึงกระบวนการตุลาการ ที่จะต้องไม่ใช้เครื่องมือเหล่านี้เป็นอำนาจ 3 อำนาจมาพันกัน ซึ่งทำให้เกิดปัญหาในอนาคต
ส่วนการบริหารจัดการน้ำ การสร้างอ่างเก็บน้ำจะต้องชัดเจน ตั้งแต่พื้นที่ตอนเหนือ ตอนกลาง รวมไปถึงการขยายพื้นที่ท้ายน้ำ และการระบายน้ำ ซึ่งจะต้องวางแผนทีเดียว เพื่อทั้งป้องกันภัยแล้ง และป้องกันน้ำท่วมด้วย ทั้งนี้ฝากประชาชนหาทางออกเช่นกันว่า จะทำอ่างเก็บน้ำได้ไหม แล้วจะช่วยกันดูแลยังไงในอนาคตระยะยาว
นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า ในเรื่องของ "ความเหลื่อมล้ำ" มีกฎหมายหลายฉบับที่เข้ามา โดยกระทรวงยุติธรรม มีการเสนอตั้งกองทุนยุติธรรมขึ้น โดยคนที่มีรายได้น้อย หรือคนที่มีปัญหาเรื่องทางกฎหมาย เข้าไม่ถึงกระบวนการยุติธรรม ก็จะตั้งกองทุนนี้ไว้ให้ ทั้งนี้จะต้องจัดหาเงินเข้าไปเติม โดยดูงบประมาณด้วย อย่างไรก็ตาม จะเร่งดำเนินการโดยเร็ว
สำหรับ "การแก้ไขกฎหมาย" ทั้งนี้มีกฎหมายจำนวน 163 ฉบับ ที่จะต้องออกให้ทันภายใน 1 ปี ที่มีการปฏิรูป ซึ่งได้มีการกำหนดไว้ว่าแต่ละเรื่องควรจะเท่าไร ในระยะ 3 เดือนแรก และ3 เดือนต่อไป ทั้งนี้ขอเรียนสภานิติบัญญัติ (สนช.) และสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ด้วย เนื่องจากการออกกฏหมายจะต้องสอดคล้องกันทั้งหมด ตามแม่น้ำ 5 สาย รัฐบาลก็จะดำเนินการขับเคลื่อน อะไรที่สามารถทำได้ทำเลย อะไรที่ต้องแก้กฎหมาย ก็จะต้องแก้ให้ทันใน 1 ปี อะไรที่ทำไม่ได้ ต้องไปเพิ่มเติมในรายละเอียด ทั้งนี้ทั้งนั้นขอย้ำว่าจะต้องมีการฟังความคิดเห็นก่อน
ในส่วนของเรื่อง "เศรษฐกิจพิเศษ" จะต้องสร้างทั้งในส่วนของการเทรดดิ้ง หรือการค้า ทั้งนี้พี่น้องประชาชนก็ต้องหาทางว่าทำยังไง จะเกิดตลาดชุมชน ตลาดกลุ่มจังหวัดให้ได้ เพื่อลดในเรื่องของการควบคุมราคาต่ำ โดยเฉพาะพ่อค้าคนกลาง ทั้งนี้หากมีการค้าขายกันเอง เชื่อว่าจะได้รายได้ดีขึ้น โดยรัฐบาลจะดูแลทั้งเรื่องของการเทรดดิ้ง ทั้งในระดับท้องถิ่น ในระดับรัฐบาล และต่างประเทศ รวมถึงการเตรียมการส่งเสริมการลงทุนในลักษณะบริษัทการเงินจากต่างประเทศ มาลงทุนในประเทศไทย และการตั้งบริษัทอีกด้วย
ส่วนในการ "ประชุมร่วมกับต่างประเทศ" ได้ให้นโยบายกับทุกกระทรวงว่า เวลาประชุมจะต้องมีข้อเสนอจากไปด้วย และทุกกระทรวงจะต้องรู้ทุกเรื่องว่าเราจะไปพูดอะไรกับเขา รวมไปถึงต้องรู้งานของกระทรวงอื่นด้วย
"เรื่องการค้ามนุษย์" การจดทะเบียนแรงงานประเทศเพื่อนบ้าน ในขณะที่บางประเทศยังไม่ได้จด เช่น เวียดนาม ก็สามารถได้คุยกัน โดยหารือกันว่า จะต้องตั้งขึ้นมาแล้วจดทะเบียนชาวเวียดนามที่ทำงานในประเทศไทย ซึ่งทางประเทศต้นทางขอมา แต่ปัญหาอยู่ที่การพิสูจน์สัญชาติทำได้ช้า ซึ่งต้องคิดว่าต่อไปจะทำอย่างไรให้เร็ว รวมถึงการรองรับเออีซีในปีหน้าด้วย ที่จะต้องเตรียมคนงานแรงงานให้พร้อม ทั้งไทยและต่างประเทศ ซึ่งต้องให้ถูกกฎหมายด้วย
อีกเรื่องที่มีผลต่อการพัฒนาประเทศ คือการสัมพันธ์ที่ดีระหว่าง ประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้าน ถ้าเกิดความเชื่อถือระหว่างผู้นำของแต่ละประเทศ จะพูดอะไรกันก็ได้ แต่ให้อยู่ในกรอบที่เป็นผลประโยชน์ของชาติ ทั้งนี้ขอว่าอย่าไปขัดแย้งกับใครอีกเลย ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ วันนี้ขอให้ร่วมมือกันลดความขัดแย้งในประเทศที่จะเป็นตัวถ่วงความเจริญในทุกด้านก่อน
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่ององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น(อปท.) ซึ่งจะมีการหมดอายุ ได้เสนอไปให้ ครม. พิจารณาแล้ว ทั้งนี้ตนคิดว่าหากเลือกตั้งไม่ได้ ก็ให้รักษาการก่อนน่าจะดีกว่า ทั้งนี้อปท.จะต้องคิดว่าจะทำอย่างไร ให้ประเทศชาติปลอดภัย แล้วก็ก้าวหน้าไปให้ได้ เพราะต้องสอดคล้องกันทั้งรัฐบาล ส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค ส่วนท้องถิ่น ที่จะต้องสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน.
นอกจากนี้ในสัปดาห์นี้ได้เดินทางไปประเทศลาว และเวียดนาม โดยมีการพบปะ และพูดคุยเฉพาะทวิภาคีกันอีกครั้ง ซึ่งต้องพูดกันให้หมด แล้วจะได้เดินหน้าประเทศทั้งสองประเทศให้มีความก้าวหน้า ซึ่งจากนี้ช่วงสิ้นเดือน อาจต้องเดินทางไปประเทศมาเลเซีย เนื่องจากเลื่อนการเดินทางมาหลายครั้งแล้ว นอกจากนี้เป็นการประชุมตามวาระ เช่น เกาหลี เรื่องความร่วมมือ อย่างไรก็ตาม ตนอยากขับเคลื่อนทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพราะมัวแก้ปัญหาในประเทศอย่างเดียวคงไม่ได้ ประกอบกับการที่จะต้องค่อยๆ สร้างการรับรู้ไปให้กับพี่น้องประชาชนตามลำดับ