ป.ป.ช.ส่งเจ้าหน้าที่ประสานงาน ตร. สอบทรัพย์สิน "บิ๊กกิ๊ก"ร่ำรวยผิดปกติ เตรียมขยายผลเอาผิด ม.157 ยันทำได้ แม้ไม่มีผู้ร้อง
เมื่อวันที่ 25 พ.ย.นายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการ ป.ป.ช. กล่าวว่า
ป.ป.ช.ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ไปรวบรวมพยานหลักฐานเกี่ยวกับทรัพย์สินของ พล.ต.ท.พงศพัฒน์ ฉายาพันธ์ อดีต ผบช.ก. และภายในสัปดาห์นี้จะส่งเจ้าหน้าที่ไปประสานงานกับตำรวจเพื่อขอดูทรัพย์สินของพล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ที่ถูกยึดได้ ว่าเป็นของพล.ต.ท.พงศ์พัฒน์หรือไม่ และมีที่มาที่ไปอย่างไร เพื่อนำมาเปรียบเทียบว่าตรงกับทรัพย์สินที่ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ เคยยื่นแสดงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินต่อ ป.ป.ช.เมื่อครั้งเข้ารับตำแหน่ง ผบช.ก.หรือไม่ จากนั้นจึงจะรวบรวมพยานหลักฐาน เสนอคณะกรรมการ ป.ป.ช.อีกครั้งหนึ่ง หากเห็นว่ามีเหตุอันควรสงสัยว่ามีการปกปิดบัญชีทรัพย์สิน หรือร่ำรวยผิดปกติ ป.ป.ช.ก็สามารถดำเนินการได้ ซึ่งถือเป็นกระบวนการเดียวกับที่ ป.ป.ช.เคยตรวจสอบกรณีนายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม อดีตปลัดคมนาคม มาก่อนหน้านี้ ทั้งนี้ในส่วนของการรวบรวมพยานหลักฐาน คงจะใช้เวลาไม่นาน เพราะมีพยานหลักฐานอยู่แล้ว หากพนักงานสอบสวนยืนยันว่าหลักฐานเป็นของ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ก็สามารถตรวจสอบได้
นายสรรเสริญ กล่าวอีกว่า นอกจากนั้น ป.ป.ช.จะตรวจสอบขยายผลไปถึงกรณีการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157ด้วย
อย่างไรก็ตามแม้ว่า พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ จะอยู่ระหว่างการถูกควบคุมตัว ป.ป.ช.ก็จะไม่ตัดสิทธิการให้ชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา โดย ป.ป.ช.สามารถเข้าไปรับฟังคำชี้แจงของ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ในเรือนจำได้“ในเมื่อเรื่องนี้มีประเด็นที่สาธารณะให้ความสนใจ ป.ป.ช.ก็ต้องเข้ามาตรวจสอบในเบื้องต้น ซึ่งเป็นการทำงานเชิงรุก ไม่ใช่รอให้มีการร้องเรียนเข้ามาอย่างเดียว เพื่อให้การทำงานเกิดความต่อเนื่อง ซึ่งไม่ใช่เรื่องผิดปกติหรือดำเนินการอะไรเป็นพิเศษแต่อย่างใด”นายสรรเสริญ กล่าว
เลขาธิการ ป.ป.ช. กล่าวอีกว่า ส่วนการตรวจสอบในส่วนของพล.ต.ต.โกวิทย์ วงศ์รุ่งโรจน์ รองผบช.ก.รวมทั้ง 2 คนขับรถ
ที่พบว่ามีทรัพย์สินจำนวนมากเช่นกันนั้น ต้องดูอีกรอบหนึ่ง เพราะรายอื่นไม่ได้อยู่ในตำแหน่งที่ต้องยื่นแสดงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินต่อ ป.ป.ช. ซึ่งจะเหลือเพียงเรื่องร่ำรวยผิดปกติอย่างเดียว โดย ป.ป.ช.จะต้องไปหาข้อมูลว่าพื้นฐานของแต่ละคนเป็นอย่างไรเพราะในการตรวจสอบเรื่องร่ำรวยผิดปรกติต้องมีข้อมูล ว่ามีเหตุอันควรสงสัย.