
จับตาปรับ "ครม.ประยุทธ์ 3" หลังปีใหม่ ปั่นผลงาน ค้ำยันอำนาจ "รัฐบาลนายพล" !!
เมื่อต้นทุนรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ได้ก่อกำเนิดจากแรงรัก-แรงศรัทธาจากประชาชนเป็นเบื้องต้น
แต่ เมื่อตัดสินใจขึ้นหลังเสือแล้ว สิ่งที่จะทำให้องคาพยพลงจากหลังเสืออย่างสง่างามจึงวัดกันที่ผลงาน ที่มีเวลาจำกัดเพียง 1 ปีในการแก้ปัญหาร้อยแปดพันเก้าหลังจากนี้ เพื่อล้างภาพรัฐประหารที่ผ่านมาเปรียบเสมือน "ต้นไม้พิษย่อมให้ลูกพิษ"ดังคำกล่าวระหว่างลงพื้นที่จังหวัด ขอนแก่น-กาฬสินธุ์ ของ พล.อ.ประยุทธ์ท่อนหนึ่งว่า "วันนี้คงได้เห็นตัวจริงกันแล้ว ได้พกพาความห่วงใยและนำกำลังใจมาเยอะแยะ เพื่อส่งมอบให้กับชาวอีสานโดยเฉพาะ จังหวัดขอนแก่น และพื้นที่จังหวัดใกล้เคียง...วันนี้เอาหัวใจเต็มร้อยมา คาดหวังว่าจะได้หัวใจคนอีสานกลับไปเกิน 100 เช่นกัน สัญญาว่าเราและรัฐบาลทหารต้องช่วยกันขับเคลื่อนประเทศในทุกมิติ"
หลัง มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ "อำนวย ปะติเส" ที่ปรึกษา "ปีติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา" รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็น (ว่าที่) รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และ "วิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ" อดีตปลัดกระทรวงการคลัง เป็น (ว่าที่) รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง
เป็น การ "ปรับเล็ก" เพื่อมาช่วยงาน "ทีมเศรษฐกิจ" ด้านนโยบายการคลังและด้านสินค้าเกษตรตกต่ำ เนื่องจากเริ่มมีกระแสข่าวขยับเลเวล "อำนวย ปะติเส" ตั้งแต่ช่วงแก้ปัญหาสินค้าเกษตรตกต่ำมาสักพักใหญ่แล้ว โดยเฉพาะการแก้ปัญหายางพารา-รับศึกม็อบชาวสวนยาง
นอกจากนี้ยังเป็น การ "เสริมใยเหล็ก" รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เต็มโควตา 36 คน (นายกฯ 1 คน และรัฐมนตรีไม่เกิน 35 คน) ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ฉบับชั่วคราว พ.ศ. 2557 มาตรา 19
อย่างไรก็ตาม สัญญาณปรับคณะรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ 3 (ครม.ประยุทธ์ 3) หลังปีใหม่ ก็เริ่มมีสัญญาณมากขึ้นเมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ "ขอดูอีกที"
เหตุ-ผลของ การ "ขอดูอีกที" ของ พล.อ.ประยุทธ์ คือ การดูผลงาน-ของขวัญปีใหม่ 20 กระทรวง ซึ่งหลายกระทรวงกำลังขับเคี่ยวเพื่อสร้างผลงาน "ชิ้นโบแดง" จับต้องได้ของ "รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์" หลังกลายร่างจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มาเป็น "รัฐบาลนายพล" เพื่อแถลงผลงานครบรอบ 3 เดือน ราวต้นเดือนมกราคม 58
โดยมีกระทรวงการ คลัง ออกตัว "นำโด่ง" ทุกกระทรวง หลังผลักดันกฎหมาย "ภาษีมรดก" ซึ่งรัฐบาลที่ผ่าน ๆ มาไม่สามารถทำได้ ผ่านความเห็นชอบจาก ครม.ได้สำเร็จสด ๆ ร้อน ๆ โดยมีผลงานชิ้นต่อไปคือ กฎหมายที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง อยู่ในมืออีก 1 ฉบับ โดยจะเสนอ ครม.ในเดือนธันวาคมปีนี้
ขณะที่อีก 2 กระทรวง "เพื่อน-พี่" พล.อ.ประยุทธ์ ของ "บิ๊กป๊อก"-พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และ "บิ๊กหนุ่ย"-พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กับอีก 1 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งกำลังขะมักเขม้น รุกไล่นายทุนรุกล้ำที่สาธารณะ เพื่อจัดสรรที่ดินทำกินให้กับเกษตรกรผู้ยากไร้
ล่าสุดในการประชุม ครม.เมื่อวันที่ 18 พ.ย.ที่ผ่านมา ได้เห็นชอบหลักการร่างพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) กำหนดเขตที่ดิน จังหวัดนครพนม ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน
ส่วนกระทรวงที่กำลังขับเคลื่อนเพื่อมอบ "ของขวัญปีใหม่" ให้กับประชาชนทั้งระยะสั้น-ระยะยาว คือ กระทรวงพลังงานของ "ณรงค์ชัย อัครเศรณี" หลังชะลอการขึ้นราคาน้ำมันและเตรียมปรับโครงสร้างราคาพลังงานเพื่อสะท้อนต้น ทุนที่แท้จริงและไม่ให้เป็นภาระงบประมาณของประเทศมากเกินไป
อีกกระทรวง ที่ต้องจับตา คือ กระทรวงคมนาคม ที่มีโครงการระดับภูมิภาค กับ "เมกะโปรเจ็กต์"-โครงการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่ง
หลังจากเสนอ ครม.เห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) เวนคืนที่ดินเพื่อก่อสร้างเส้นทางรถไฟทางคู่จำนวน 5 เส้นทางถึง 50 ฉบับ
นอกจากนี้ ครม.ยังไฟเขียวร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เวนคืนอสังหาริมทรัพย์กรณีมีความจำเป็นเร่งด่วนอีก 3 ฉบับ เพื่อก่อสร้างตามโครงการขยายทางหลวงชนบทเพื่อให้ทันกำหนดเวลาอีกด้วย
ขณะที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารภายใต้การขับเคลื่อนของ "หม่อมอุ๋ย"-ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกฯฝ่ายเศรษฐกิจ ก็กำลังตั้งไข่ "ดิจิทัลอีโคโนมี" ไว้รองรับเศรษฐกิจดิจิทัลในอนาคต
อย่างไรก็ตาม ยังมี "เสนาบดีโลกลืม" อีกหลายกระทรวงที่ห่างหายไปจากหน้าสื่อ-ผลงานยังไม่เป็นชิ้นเป็นอัน เพื่อสร้างชื่อในหน้าประวัติศาสตร์ประดับผลงานรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์
แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาลเปิดเผยว่า ยุทธศาสตร์การสร้างผลงานแต่ละกระทรวงของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ต้องตอบโจทย์ของรัฐบาล
โดยการตอบสนองและส่งผลต่อการแก้ปัญหาของประชาชน ส่วนปัจจัยหลักในการปรับ ครม.ของ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้ดูว่ารัฐมนตรีคนใดเป็นทหารหรือไม่เป็นทหาร แต่จะพิจารณาจากเรื่องความโปร่งใสและผลงานว่าเป็นไปตามเป้าหมายหรือไม่ ตามสโลแกนที่ว่า "3 เดือนทำทันที" ซึ่งนายกรัฐมนตรีมอบนโยบายเสมอว่า รัฐมนตรีอย่าก้มหน้าก้มตาทำงานอย่างเดียว แต่ต้องทำงานด้วย และสื่อสารให้ประชาชนได้รับรู้ไปด้วยว่าได้ทำอะไรไปแล้วบ้าง
ที่ผ่านมารัฐบาลจากการเลือกตั้ง แม้กระทั่ง "รัฐบาลขิงแก่"-ยุคคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) มีเหตุผลการปรับ ครม.ไม่ต่างกัน เพื่อ "ปลดชนวนระเบิดเวลา" ทั้งจากปัญหาการเมือง-ความโปร่งใส ลดแรงสั่นสะเทือนอำนาจรัฐบาล
แต่สำหรับ "รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์" แล้ว เมื่อไม่มี "ฐานเสียง" เฉกเช่นรัฐบาลนักการเมือง จึงต้องปรับองคาพยพเพื่อ "ปั่นผลงาน" ค้ำยันอำนาจไม่ให้สั่นคลอน




กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
























กระทู้ล่าสุด


รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
















































Love Attack เทศกาลความรักแบบนี้ บอกอ้อมๆให้เขารู้กัน
Chocolate Dreams สาวชั่งฝันและช็อคโกแลต กับหนุ่มหล่อ ไม่แน่คุณอาจจะได้เจอแบบนี้ก็ได้
Love You Like Crazy เพลงเพราะๆ ที่ถ้าส่งให้คนที่เรารัก โลกนี้ก็สีชมพูกันทีเดียว