อภิสิทธิ์ เชื่อตุลาการฯหนักแน่นพอ

"คำให้การในคดียุบพรรค" และ "คำแถลงปิดคดีพรรคประชาธิปัตย์" ไปจำหน่ายที่ห้างสรรพสินค้าโลตัส สาขาจรัญสนิทวงศ์ โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก มีประชาชนให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก

จากนั้น นายอภิสิทธิ์ให้สัมภาษณ์ว่า มั่นใจว่าตุลาการรัฐธรรมนูญคงไม่อยู่ภายใต้ภาวะแรงกดดันอะไร ทั้ง 9 ท่านเป็นผู้ใหญ่และมีประสบการณ์มากมาย คงวินิจฉัยไปตามเนื้อหาของคดี เชื่อว่าท่านคงมีเหตุผลเพียงพอ ไม่ว่าจะตัดสินอย่างไรก็จะต้องชี้แจงกับประชาชน

ต่อข้อถามว่าล่าสุด ส.ส.ภาคอีสานพรรคไทยรักไทยออกมาระบุว่า ถ้าไทยรักไทยถูกยุบ จะนำประชาชนไปบุกยึดศาลากลางทุกจังหวัดในภาคอีสาน

นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า อยากให้ทุกคนมองถึงประโยชน์ของประเทศ ความสงบเรียบร้อยเป็นหลัก การต่อสู้คดี คิดว่าทั้ง 2 พรรค หรือกี่พรรคก็แล้วแต่ได้มีโอกาสต่อสู้เต็มที่แล้ว ขณะนี้ขอให้กระบวนการยุติธรรมทำงานอย่างตรงไปตรงมา ไม่เชื่อว่าความรุนแรงจะสามารถทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอะไรได้

แต่ผู้ที่รับผิดชอบบ้านเมืองต้องดูแลไม่ให้เกิดความรุนแรง แต่สิ่งที่สำคัญที่ย้ำมาตลอดคือ การวินิจฉัยหรือตัดสินอะไร ถ้ามีเหตุผลรองรับมีการชี้แจง ก็เชื่อว่าคนส่วนใหญ่จะเข้าใจ

ผู้สื่อข่าวถามว่าพรรคประชาธิปัตย์มั่นใจว่าผลการตัดสินวันที่ 30 พ.ค. พรรคประชาธิปัตย์จะไม่ถูกยุบ

นายอภิสิทธิ์ตอบว่า ไม่สามารถตอบได้เรื่องของผล แต่พูดในหลักโดยรวมว่า ถ้าผู้ที่ทำคำวินิจฉัยมีเหตุผลที่ชัดเจน ชี้แจงการตัดสินได้ เชื่อว่าคนส่วนใหญ่ก็รับฟัง ทั้งหมดอยู่ที่การเอาข้อเท็จจริงให้ประชาชนทราบ ถ้าสังคมเราไม่ยอมรับกระบวนการยุติธรรม เป็นพื้นฐานของเหตุผล เราก็คงทำอะไรไม่ได้

เพราะฉะนั้นถ้าพรรคไทยรักไทยไม่ได้ทำผิด ก็ไม่มีสิทธิ์ไปยุบเขา ใครทำผิดถูกลงโทษ ใครไม่ได้ทำผิดก็ไม่ถูกลงโทษ สังคมก็ต้องยอมรับกระบวนการยุติธรรม

ผู้สื่อข่าวถามว่าจะเกิดการปฏิวัติซ้อนหรือไม่

นายอภิสิทธิ์ตอบว่า ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ใครที่คิดจะแก้ปัญหาโดยการปฏิวัติอีกครั้ง ถือว่าเป็นความเข้าใจผิดอย่างมหาศาล หลายฝ่ายหวังว่าภายในสิ้นปี ทุกสิ่งทุกอย่างจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ถ้าเราไปเปลี่ยน แปลงนอกระบบ ไม่เป็นไปตามกรอบของรัฐธรรมนูญชั่วคราว ก็จะมีแต่ปัญหาตามมา และใครก็ตามที่จะเข้ามาบริหารประเทศยากมาก รวมทั้งจะมีการต่อต้านอีกด้วย

ผู้สื่อข่าวถามว่าหวั่นเกรงความเคลื่อนไหวของ พ.ต.ท.ทักษิณหรือไม่

นายอภิสิทธิ์ตอบว่า พ.ต.ท.ทักษิณคงเคลื่อนไหวไม่ได้เฉพาะแต่เรื่องนี้ จริงๆเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหญ่ของ พ.ต.ท.ทักษิณ เท่ากับคดีที่เกี่ยวข้องกับครอบครัวท่าน

นายนาม ยิ้มแย้ม ประธานคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) กล่าวถึงกรณีที่มีข่าวระบุว่าให้สัมภาษณ์ว่า เห็นควรยุบพรรคไทยรักไทยนั้น ความจริงตนพ้นจากหน้าที่ประธานคณะอนุกรรมการสอบสวน กกต.ไปแล้ว และไม่เกี่ยวข้องในเรื่องดังกล่าวแล้ว

ส่วนการให้ความเห็นก็เป็นการให้ความเห็นอย่างเป็นกลาง ไม่ระบุถึงพรรคใดพรรคหนึ่ง เพียงกล่าวว่าหากสมาชิกพรรคการเมืองใดกระทำการใดๆ แล้วพรรคการเมืองนั้นได้รับประโยชน์ พรรคการเมืองนั้นก็ต้องรับผิดชอบจากการกระทำของสมาชิกพรรคนั้น ที่พูดไม่ได้เจาะจงถึงพรรคไทยรักไทย

ส่วนที่มีการพูดถึงชื่ออดีตรัฐมนตรีในพรรคไทยรักไทย ก็เป็นการถามนำของผู้สื่อข่าว ได้ถามย้อนกลับไปว่า "แล้วเขาเป็นใครล่ะ" เท่านั้น และไม่ขอมีความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้อีกต่อไป

เนื่องจากอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ

ขอขอบคุณ : ข้อมูลข่าวที่มีคุณภาพจาก หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ