ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีสนธิหมิ่นดามาพงศ์28มิ.ย.นี้

"สนธิ" เบิกความพยานปากสุดท้าย คดีหมิ่น "ดามาพงศ์" โกงขายหุ้นชิน ฯ ยันแค่วิจารณ์รัฐบาล - ทักษิณ ทุจริตเชิงนโยบาย ไม่เจตนาใส่ร้ายคนในตระกูล

ขณะที่ศาลนัดฟังคำพิพากษา 28 มิ.ย.นี้ " ชี้ "ทักษิณ" จ้อผ่านวิทยุชุมชนส่งสัญญาณให้ท้ายลิ่วล้อเคลื่อนไหว

ศาลนัดสืบพยานจำเลย คดีที่ พล.ร.ท.เกียรติศักดิ์ ดามาพงศ์ ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพเรือ ญาติคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา พ.ต.ท.ทักษิณ อดีตนายก รัฐมนตรี เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง

นายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ,
น.ส.สโรชา พรอุดมศักดิ์ ผู้ดำเนินรายการเมืองไทยรายสัปดาห์สัญจร ,
บริษัท แมเนเจอร์ มีเดีย กรุ๊ปจำกัด(มหาชน) เจ้าของหนังสือพิมพ์ผู้จัดการรายวัน และ
ผู้บริหาร บมจ.แมเนเจอร์ ฯ และ
ผู้บริหารบริษัทไทยเดย์ ด็อทคอม จำกัด ผู้ผลิตรายการเมืองไทยรายสัปดาห์สัญจร และ
ผู้ควบคุมดูแลเว็บไซด์ผู้จัดการ

ร่วมกันเป็นจำเลยที่ 1-10 ในความผิดฐานร่วมกันดูหมิ่น และหมิ่นประมาทผู้อื่นด้วยการโฆษณา

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 24 ม.ค.- 5 ก.พ. 49 พวกจำเลยร่วมกันกล่าวและเผยแพร่ข้อความพาดพิงการขายหุ้นบริษัท ชินคอร์เปอร์เรชั่น จำกัด (มหาชน) ธุรกิจของครอบครัวชินวัตรของกลุ่มผู้ถือหุ้นตระกูลชินวัตรและดามาพงศ์

คำพูดที่จำเลยกล่าวบนเวทีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ไม่มีข้อความใดที่พูดถึงโจทก์ หรือตระกูลดามาพงศ์ของโจทก์ในทางเสียหาย

เป็นแต่เพียงการวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาลและ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น ต่อการทุจริตเชิงนโยบายและผลประโยชน์ทับซ้อนกับธุรกิจครอบครัวที่ยอมนำผลประโยชน์ของชาติและประชาชนไปให้ต่างชาติเพื่อแลกกับผลประโยชน์ของพวกตนเอง

นายสนธิ เบิกความด้วยว่า ในฟ้องโจทก์ ได้มีการตัดต่อคำพูดบางตอนของจำเลยมาเรียงใหม่เขียนเป็นคำฟ้อง จึงทำให้ความหมายในข้อความบางส่วนผิดเพี้ยนไปจากข้อเท็จจริงที่จำเลยกล่าวบนเวที พันธมิตร ฯ

ส่วนที่ปรากฎคำว่า "โคตรโกงหรือโกงทั้งโคตร" เป็นเพียงการเล่นคำเท่านั้นไม่ได้ใส่ความโจทก์ในทางที่ไม่ดีแต่อย่างใด ดังนั้นการฟ้องคดีโจทก์ไม่มีสิทธิ์ยื่นฟ้องเพราะไม่ใช่ผู้เสียหายในคดีนี้ภายหลังสืบพยานจำเลยปากสุดท้ายเสร็จสิ้นแล้ว

ศาลมีคำสั่งให้โจทก์- จำเลย ยื่นคำแถลงปิดคดีภายใน 30 วัน โดยนัดฟังคำพิพากษาในวันที่ 28 มิ.ย.นี้ เวลา 09.00 น.

พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ออกมาเคลื่อนไหวให้สัมภาษณ์โจมตีการทำงานของ รัฐบาล และ คมช.ผ่านทางคลื่นวิทยุชุมชนว่า ส่วนตัวเห็นว่าเป็นการส่งสัญญานของ พ.ต.ท.ทักษิณ เพื่อให้กำลังใจกลุ่มผู้ที่ยังสนับสนุน

เนื่องจากขณะนี้คดีที่เกี่ยวข้องกับการตรวจสอบทุจริตของครอบครัวเริ่มเข้าสู่ศาล และใกล้ถึงวันพิพากษาคดียุบพรรคไทยรักไทย

นายสนธิ ยังกล่าวถึงกรณี ที่มีความพยายามโยงเรื่องวัตถุระเบิดที่พบในห้องพักของนายสมพงษ์ หรือโจ้ อินทร์งาม หลานชายนายเพียร ยงหนู เข้ากับกลุ่มพันธมิตรฯ ด้วยว่า

เรื่องนี้เป็นแค่เรื่องตลกเพราะเป็นที่รู้กันดีว่าในการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ เลือกแนวทางสงบมาโดยตลอดไม่เคยใช้วิธีรุนแรงแม้จะมีความพยายามยุยงบุคคลบางกลุ่ม

ทั้งนี้ตนยังตั้งข้อสังเกตว่าคดีดังกล่าวมีพิรุธตรงที่คนเช่าห้องหายไปโดยไม่จ่ายค่าเช่าถึง 5 เดือนแต่ทำไมเจ้าของกลับเพิ่งเปิดประตูห้องพักเข้าไปตรวจสอบ

ขอขอบคุณ : ข้อมูลข่าวที่มีคุณภาพ จาก หนังสือพิมพ์คมชัดลึก