นายวัชระ กล่าวต่อว่า ล่าสุด การทุจริตนาฬิกาแขวนผนังที่ทางสภาผู้แทนราษฎรยืนยันว่า ไม่มีวันตายและเดินตรงกันทุกเรือน 

แต่พบว่า มีนาฬิกา 2 เรือนที่โรงอาหารในสโมสรรัฐสภา หยุดเดินไปหลายเดือนแล้ว อีกทั้งยังทราบว่า บริษัทฯ ที่มาติดตั้งได้ทำหนังสือถึงเลขาธิการสภาฯ เพื่อยกนาฬิกาทั้งหมดให้สภาฯ เพราะกลัวความผิด  แต่ทางสภาฯไม่รับมอบนาฬิกาดังกล่าว อย่างไรก็ตามตนอยากจะขอเอกสารโครงการจัดซื้อจัดจ้างห้องออกกำลังกาย ที่สโมสรรัฐสภามูลค่า 40 ล้านบาท และยังพบว่า มีปัญหาการทุจริตห้องน้ำ มูลค่า 15ล้านบาท  ที่อาคารกษาปณ์  ถ.ประดิพัทธ์ รวมถึงห้องนักข่าวที่อาคารรัฐสภาวงเงิน 5 ล้านบาท ที่พบว่า มีราคาสูงทั้งที่ไม่มีการตอกเสาเข็มหรือมุงหลังคา

นายคุณวุฒิ กล่าวภายหลังการรับหนังสือพร้อมชี้แจงผลความคืบหน้าในการสอบสวนการทุจริตการจัดซื้อนาฬิกา ว่า

 ขณะนี้ได้ไปแจ้งความแก่ข้าราชการที่เกี่ยวข้องรวมทั้งนานสุวิจักขณ์  ต่อสน.ดุสิต ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา  157 พร้อมส่งเรื่องไปให้คณะกรรมการป.ป.ช. ตรวจสอบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว  ขณะเดียวกันนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ในฐานะประธานรัฐสภา ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงแก่ข้าราชการที่เกี่ยวข้องอีกด้วยขณะที่นายสุวิจักขณ์ ที่ถูกย้ายไปประจำสำนักนายกฯขณะนี้ก็มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบทางวินัยร้ายแรง โดยมีนายธงทอง จันทรางศุ  ที่ปรึกษาประจำสำนักนายกฯ  เป็นประธานในการตรวจสอบเช่นกัน  ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบอยู่

รองเลขาธิการสภาฯ กล่าวต่อว่า  ส่วนการดำเนินคดีแก่บริษัทที่สภาฯ

จัดซื้อนาฬิกาได้แจ้งความต่อสถานีตำรวจบางซื่อ ในฐานความผิดปลอมแปลงเอกสารเท็จเพราะมีการทำสัญญาที่อาคารกษาปณ์  ส่วนกรณีที่ทางสภาฯไม่รับนาฬิกาดังกล่าว  เนื่องจากอาจจะกระทบต่อรูปคดีที่อยู่ระหว่างสอบสวนโดยมีแนวโน้มจะไม่รับนาฬิกาดังกล่าวทั้งหมด ขณะที่ห้องออกกำลังกาย ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการยกเลิกสัญญาเช่นกัน.