ศาลนัดพระสุเทพ สอบคดี-ฮิโรยูกิ

ศาลนัด "พระสุเทพ" ขึ้นเบิกความเดือนมี.ค.58 ไต่สวนการตายของ "ฮิโรยูกิ มูราโมโตะ" ช่างภาพรอยเตอร์ ชาวญี่ปุ่นกับ นปช.อีก 2 ศพ
 
ที่ถูกยิงในเหตุการณ์สลายม็อบแดง 10 เม.ย. 53 ขณะที่ร.ต.อ.ในฐานะพนักงานสอบสวนขึ้นให้ปากคำระบุดีเอสไอส่งสำนวนสอบสวนมา ให้ตำรวจ เพราะเห็นว่าทั้ง 3 ศพ อาจเกิดจากการปฏิบัติงานตามหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 12 พ.ย. ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ศาลนัดไต่สวนคดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญากรุงเทพใต้ 1 ยื่นคำร้องขอให้ศาลไต่สวนชันสูตรพลิกศพนายฮิโรยูกิ มูราโมโตะ ช่างภาพสำนักข่าวรอยเตอร์ชาวญี่ปุ่น นายวสันต์ ภู่ทอง และนายทศชัย เมฆงามฟ้า ผู้ชุมนุมนปช. ที่ถูกยิงเสียชีวิตหน้าโรงเรียนสตรีวิทยา ถนนดินสอ ในเหตุการณ์สลายการชุมนุมบริเวณแยกคอกวัว ถนนราชดำเนินของเจ้าหน้าที่ เมื่อวันที่ 10 เม.ย. 2553 ในสมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี โดยในวันนี้ศาลนัดสืบพยานปาก ร.ต.อ.อริย์ธัช อธิสุรีย์มาศ พนักงานสอบสวน สน.พลับพลาไชย 1

ร.ต.อ.อริย์ธัชเบิกความว่า เมื่อวันที่ 10 เม.ย. 2553 ปฏิบัติหน้าที่ตั้งแต่เวลา 18.00-24.00 น.
 
ได้รับแจ้งจากร.พ.กลาง ว่ามีผู้เสียชีวิตจากการชุมนุมทางการเมืองที่ถนนดินสอ จำนวน 11 คน จึงเดินทางไปชันสูตรพลิกศพร่วมกับแพทย์นิติเวช จากการชันสูตรพลิกศพนายฮิโรยูกิ มูราโมโตะ นายวสันต์ ภู่ทอง และนายทศชัย เมฆงามฟ้า เบื้องต้นพบว่าทั้ง 3 ราย เสียชีวิตเพราะถูกวัตถุความเร็วสูง และเสียชีวิตก่อนถึงโรงพยาบาล หลังจากนั้นจึงนำศพไปชันสูตรพลิกศพอีกครั้งที่โรงพยาบาลตำรวจ โดยแพทย์ทำรายงานการชันสูตรพลิกศพส่งพนักงานสอบสวน ระบุว่าผู้ตายทั้งสามเสียชีวิตเมื่อเวลาประมาณ 21.00 น. วันที่ 10 เม.ย. 2553 ที่หน้าโรงเรียนสตรีวิทยา และยังไม่ทราบว่าใครเป็นผู้ทำให้ถึงแก่ความตาย จากนั้นพนักงานสอบสวนทำสำนวนสรุปว่า ผู้ตายทั้งสามตายโดยผิดธรรมชาติจากผู้อื่นทำให้ตาย

พยานเบิก ความต่อว่า ต่อมากรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) มีมติให้คดีที่เสียชีวิตจากการชุมนุมวันที่ 10 เม.ย. 2553 เป็นคดีพิเศษ

ให้พนักงานสอบสวนส่งสำนวนคดีไปรวมกับคดีอาญาหลัก ซึ่งเป็นของสน.ชนะสงคราม ที่ส่งไปดีเอสไอก่อนหน้านี้แล้ว ต่อมาประมาณเดือนพ.ย.2553 ดีเอสไอส่งสำนวนการชันสูตรกลับมาที่สน.พลับพลาไชย 1 อ้างว่าความตายของผู้ตายทั้งสาม น่าจะเกิดจากการปฏิบัติงานตามหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ แต่ดีเอสไอไม่มีอำนาจสอบสวน จึงส่งกลับมาให้สน. พลับพลาไชย 1 ยื่นคำร้องต่อศาล สน. พลับพลาไชย 1 รวบรวมหลักฐาน ไม่ปรากฏว่าความตายของผู้ตายทั้งสามเกิดจากเจ้าพนักงาน จึงส่งสำนวนกลับไปที่ดีเอสไอ

ต่อมาเดือน ก.ย. 2554 ดีเอสไอส่งสำนวนกลับมา
 
อ้างว่ามีพยานหลักฐานว่าการตาย เกิดจากการปฏิบัติงานของเจ้าพนักงาน บช.น.จึงตั้งคณะทำงานรวบรวมพยานหลักฐาน โดย มีพ.ต.อ.วัลลภ ประทุมเมือง เป็นหัวหน้า คณะทำงาน โดยในส่วนของรายละเอียดทั้งหมด พ.ต.อ.วัลลภ จะเป็นผู้เข้าเบิกความ รายละเอียดต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเสร็จสิ้นการสืบพยาน ศาลจึงได้นัดให้ร.ต.อ.อริย์ธัช มาศาลอีกครั้ง ในวันที่ 25 พ.ย. ที่จะถึงนี้

เพื่อให้ทนายฝ่ายญาติผู้ตายซักถาม เนื่องจากวันนี้ทนายญาติผู้ตายทั้ง 3 ราย ติดภารกิจไม่สามารถมาศาลได้ ซึ่งในวันดังกล่าวจะได้สืบพยานปากพ.ต.อ.วัลลภ ประทุมเมือง หัวหน้าคณะพนักงานสอบสวน ไปในคราวเดียวกัน ส่วนกรณีพยานปาก พระสุเทพ เทือกสุบรรณ ที่ขณะเกิดเหตุเป็นรองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง และผอ.ศอฉ. ตามที่อัยการแถลง เมื่อวันที่ 23 ต.ค. ว่าจะทำหนังสือถึงอธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญากรุงเทพใต้ เพื่อขออนุญาตตัดพยานปากพระสุเทพนั้น พนักงานอัยการแจ้งว่า ทางผู้บังคับบัญชาไม่เห็นด้วยเนื่องจากเห็นว่าเป็นคดีสำคัญ อัยการผู้ร้องจึงติดต่อประสานงานไปยังเลขานุการส่วนตัวของพระสุเทพ ที่จ.สุราษฎร์ธานี ได้ความว่าพระสุเทพสะดวกจะมาให้ปากคำด้วยตัวเอง หรือให้ปากคำผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ในวันที่ 24 มี.ค. 2558 ศาลจึงนัดให้มีการสอบปากคำในวันดังกล่าวต่อไป