เปิดจดหมาย′พี่เมียอดีตส.ส.สุนัย′ ถึง พ.ต.ท.ทักษิณ-คุณหญิงพจมาน′

เรียน พ.ต.ท. ดร. ทักษิณ ชินวัตรและคุณหญิงพจมาน ที่นับถือ

ก่อนอื่นผมต้องขอแสดงความขอบคุณต่อท่านและครอบครัวที่ได้แสดงไมตรีจิต ด้วยการส่งหรีดและผู้แทนมาร่วมพิธีศพของ พ.ต.อ.(พิเศษ)สมพาสน์ คุมพ์ประพันธ์ ผู้เป็นบิดาของผม ถือเป็นการสานสัมพันธ์ของผู้ใหญ่ผู้ล่วงลับทั้งสองท่าน คือ บิดาของผมและท่าน พล.ต.ต. เสมอ ดามาพงศ์ ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทกัน เคยพักอาศัยอยู่ในเรือนแถวของกรมตำรวจด้านหลังสนามกีฬาแห่งชาติด้วยกันเมื่อหกสิบกว่าปีมาแล้ว (เดิมบริเวณนั้นเป็นโรงเรียนพลตำรวจ)

ตามที่คุณสุนัย จุลพงศธร ได้เขียนจดหมายเปิดผนึกถึงท่านและคุณหญิงพจมาน

กล่าวถึงบิดาและมารดาของผมมีข้อความตอนหนึ่งว่า”เป็นเสื้อแดงดูทีวีแดงทั้งวันกับแม่ยายผม2คนตายายด้วยกันครับ ท่านสนับสนุนพรรคของเราและสนับสนุนท่านหัวหน้าทักษิณเต็มที่อย่างเปิดเผยกับลูกหลานทุกคน แม้ใครไม่เห็นด้วยก็ไม่สนใจ ถึงแม้ชราภาพอย่างไรเดินไม่ค่อยจะไหวในช่วงก่อนเสียชีวิตก็ไปลงคะแนนให้พรรคทุกครั้ง” ................... “โดยขอหรีดของท่านหัวหน้าและคุณหญิงเพื่อเป็นกำลังใจให้แก่ผู้ตายและครอบครัว” ผมจำเป็นต้องขอโอกาสแก้ไขข้อความดังกล่าวดังต่อไปนี้

บิดาของผมไม่เคยเป็นสมาชิกพรรคการเมืองใดๆและไม่เคยเข้าสังกัดกลุ่มการเมืองใดๆ ท่านไม่เคยร่วมกิจกรรมชุมนุมทางการเมืองใดๆ

 รวมทั้งไม่เคยสวมใส่เสื้อผ้าสีใดซึ่งเป็นสีของกลุ่มการเมือง แต่การที่ท่านสนับสนุนพรรคการเมืองของท่านในการไปลงคะแนนให้แก่ท่านและพรรคของท่านทุกครั้งที่มีการเลือกตั้ง ด้วยเหตุที่ราวๆสามเดือนก่อนที่ พล.ต.ต. เสมอ ดามาพงศ์ จะถึงแก่กรรม (ขณะนั้นท่านเพิ่งเข้ามาเล่นการเมืองใหม่ๆ) ท่านเสมอได้ฝากฝังท่านในฐานะบุตรเขยว่า ขอให้บิดาของผมสนับสนุนท่านด้วย ทั้งนี้ย่อมเป็นเรื่องชอบธรรมที่เพื่อนรักจะให้การสนับสนุนส่งเสริมบุตรหลานของอีกฝ่าย แต่ไม่ใช่มูลเหตุจูงใจทางการเมือง

ผมในฐานะบุตรชายคนโตและครอบครัวต้องการให้พิธีศพของ พ.ต.อ.(พิเศษ)สมพาสน์ คุมพ์ประพันธ์ ผู้เป็นบิดาของผม

เป็นเรื่องที่บุคคลในครอบครัว ญาติพี่น้องและเพื่อนฝูงที่รู้จักมักคุ้น จะมาร่วมกันแสดงความรักอาลัยต่อตัวผู้ตายเพื่อให้ท่านไปสู่สุคติในสัมปรายภพ จึงไม่ต้องการให้พิธีนี้ไปเกี่ยวข้องกับการต่อสู้ทางการเมืองไม่ว่าจะเป็นระหว่างฝ่ายใดกับฝ่ายใด ผมถือว่าเป็นสิทธิส่วนตัวที่สำคัญและพึงได้รับการเคารพ ไม่บังควรจะมีพรรคการเมือง กลุ่มการเมืองมาใช้พิธีศพเป็นเวทีเคลื่อนไหวทางการเมืองครับ

ผมหวังอย่างยิ่งว่าท่านคงจะเข้าใจและยอมรับในหลักการข้างต้นนี้นะครับ

ขอขอบคุณ

สรรพสิทธิ์ คุมพ์ประพันธ์

๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๗