กกต.ยันพร้อมเลือกตั้งพรุ่งนี้ คาดคนใช้สิทธิไม่ต่ำ72.5%
ตัวเลขผู้สมัครส.ส.ไม่นิ่งผู้สมัครหลายรายขาดคุณสมบัติกกต.รอศาลฎีกาวินิจฉัย ก่อนส่งกก.ประจำหน่วย ติดคำสั่งพร้อมชี้แจงกันสับสน เผย ตั้งเป้าผู้มาใช้สิทธิไม่น้อยกว่า 72.5% บัตรเสียไม่เกิน 5% เร่งส่งประชาสัมพันธ์ใช้ปากกาลงคะแนนได้
พล.ต.ต.เอกชัย วารุณประภา เลขาธิการกกต. แถลงข่าวถึงการเตรียมการจัดการเลือกตั้งส.ส.ทั่วประ เทศว่า จากที่ได้เปิดรับสมัครส.ส.บัญชีรายชื่อ และส.ส.แบบแบ่งเขต ปรากฏว่ามีผู้ยื่นใบสมัครส.ส.บัญชีรายชื่อรวมจำนวน 164 คน สมัคร ส.ส.แบ่งเขต รวมจำนวน 941 คน ซึ่งต่อมากกต.ได้มีการตรวจสอบหลักฐานการสมัครคุณสมบัติของผู้สมัครแล้ว ผอ.เขต จึงได้ประกาศรับสมัคร จำนวน 621 ราย และไม่รับสมัคร 320 ราย
โดยผู้สมัครที่ผอ.กกต.เขต ไม่รับสมัคร ได้ไปยื่นคำร้องต่อศาล จำนวน 316 ราย และศาลมีคำสั่งให้เป็นผู้สมัครจำนวน 25 ราย ยกคำร้อง 163 ราย นอกจากนี้ยังมีผู้สมัครที่ผอ.กกต.เขต ได้รับสมัครไว้แล้ว แต่ได้ตรวจสอบคุณสมบัติภายหลังพบว่าขาดคุณสมบัติ จึงได้ยื่นคำร้องของให้ศาลเพิกถอนการรับสมัคร จำนวน 114 ราย ซึ่งปรากฏว่าศาลได้มีคำสั่งเพิกถอนการรับสมัคร 57 ราย ศาลสั่งให้รับ 3 ราย ทำให้จนถึงขณะนี้มีผู้สมัครรวมทั้งสิ้น 589 คน
อย่างไรก็ตามยังคงต้องรอผลการวินิจฉัยของศาลฎีกาในวันนี้ เพื่อสรุปยอดผู้สมัครที่แน่นอน ซึ่งจะทำให้ตัวเลขของผู้สมัครมากขึ้นลดลงอยู่ตลอด ทั้งนี้เมื่อผลการวินิจฉัยของศาลสรุปอย่างไร กรรมการประจำหน่วย (กปน.) ก็จะนำคำสั่งดังกล่าวแปะติดประกาศให้ประชาชนได้รับทราบ รวมทั้งจะชี้แจงโดยตรงกับผู้มาใช้สิทธิเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของผู้สมัครในแต่ละเขตเพื่อป้องกันการสับสน
ส่วนเขตที่ไม่มีผู้สมัครส.ส.แบบแบ่งเขต มี 1 เขต คือ เขต 3 จ.นนทบุรี เนื่องจากศาลได้มีคำสั่งเพิกถอนการรับสมัคร นางพิมพา จันทรประสงค์ ทำให้ในเขตนี้มีการเลือกตั้งเฉพาะส.ส.แบบบัญชีรายชื่อเท่านั้นโดยจะแจกให้เฉพาะบัตรเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อเพียงอย่างเดียว พร้อมกันนี้กปน.ก็จะได้ติดประกาศ และให้เจ้าหน้าที่ชี้แจงกับผู้จะมาใช้สิทธิรับทราบ สำหรับส.ส.แบบแบ่งเขตจะมีการรับสมัครใหม่ภายหลังจากวันเลือกตั้ง 2 เม.ย.
สำหรับจำนวนและรายเขตที่มีผู้สมัครเพียงพรรคเดียวนั้น พล.ต.ต.เอกชัยกล่าวว่า สถานะล่าสุดที่รับทราบเมื่อวันที่ 31 มี.ค.ที่ผ่านมา ระบุว่ามีจำนวน 200 เขต ใน 59 จังหวัด ส่วนเขตที่มีผู้สมัครตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปมีจำนวน 199 เขต แต่จำนวนดังกล่าวยังไม่ใช่ยอดสรุป ซึ่งยังต้องรอคำสั่งศาลในวันนี้เพื่อสรุปจำนวนและประกาศให้ทราบต่อไป
เมื่อถามว่าในสถานการณ์บ้านเมืองเช่นนี้กกต.ได้ประเมินหรือไม่ว่าคนจะออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งกันมากหรือไม่ รวมทั้งประเมินจำนวนบัตรเสียที่คาดกันว่าน่าจะมีมากกว่าครั้งที่ผ่านมาอย่างไร พล.ต.ต.เอกชัยกล่าวว่า ก็หวังว่าจะมีคนไปใช้สิทธิกันมาก หรือตั้งเป้าเอาไว้ว่าต้องไม่น้อยกว่าเดิมคือ 72.5% ส่วนบัตรเสียนั้นไม่ควรเกิน 5%
พล.ต.ต.เอกชัย กล่าวถึงด้านการเตรียมความพร้อมนั้น กกต.ได้เตรียมความพร้อมไว้แล้ว ทั้งนี้จากหน่วยเลือกตั้งจำนวน 86,905 หน่วย มีผู้ใช้สิทธิเลือกตั้ง45,232,145 คน ซึ่งมีกปน.จำนวน 869,050 คน หากกปน.ไม่ไปปฏิบัติหน้าที่ กกต.ได้เตรียมความพร้อมโดยประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ทหาร กระทรวงศึกษาธิการ เตรียมไว้รองรับแล้ว ส่วนเรื่องการจัดทำและขนหีบบัตร ขณะนี้ได้นำส่งหีบบัตรไปยังสำนักงานกกต.เขต แล้ว มีเพียง 4 จังหวัด คือ อุบลราชธานี ยโสธร สุรินทร์ ศรีสะเกษ ที่ประสบปัญหาฝนตกหนักจากพายุฝนฤดูร้อนเท่านั้น ที่ยังอยู่ระหว่างการประสานโดยกองทัพอากาศจะช่วยนำส่งโดยใช้เครื่องบิน C130 เชื่อว่าจะแล้วเสร็จภายในวันนี้
สำหรับสถานที่นับคะแนน 400 แห่ง กกต.ได้เตรียมเจ้าหน้าที่ไว้ทั้งสิ้น 162,400 คน และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยในสถานที่นับคะแนน จำนวน 4,000 คน พร้อมกับสั่งการให้สำรองไฟฟ้าหากเกิดไฟดับ อย่างไรก็ดีช่วงนี้เป็นช่วงที่อากาศเปลี่ยนแปลง จึงให้เตรียมความพร้อมโดยจัดถุงพลาสติกเอาไว้แล้ว หากเกิดฝนตกภายหลังการปิดหีบเพื่อคลุมหีบไม่ให้บัตรเลือกตั้งเปียก ส่วนกรณีที่หลายฝ่ายเป็นห่วงความปลอดภัยระหว่างการเลือกตั้งในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น กกต.ก็ได้ประสานขอความร่วมมือไปยัง กอ.สสส.จชต. บชภ.9 และฝ่ายทหาร ให้จัดกำลังดูแลทั้งในส่วนของหน่วยเลือกตั้ง การขนหีบบัตร และการนับคะแนน
พล.ต.ต.เอกชัย กล่าวถึงกรณีที่ศาลปกครองมีคำสั่งให้กำหนดมาตรการและวิธีการคุ้มครองเพื่อบรรเทาทุกข์ชั่วคราว โดยห้ามไม่ให้กกต.อำนวยความสะดวกให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง โดยจัดให้มีเฉพาะตรายางไว้ในคูหาเลือกตั้งเพียงอย่างเดียว และห้ามไม่ให้ประชาสัมพันธ์เฉพาะการใช้ตรายางในการลงคะแนนเลือกตั้งนั้นว่า ขณะนี้กกต.ได้ทำหนังสือโทรสารด่วนที่สุดไปยังประธานกกต.จังหวัดทุกจังหวัด และกทม. เพื่อประชาสัมพันธ์ให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งทราบว่าสามารถใช้ปากกา หรือตรายางทำเครื่องหมายกากบาทได้ และแจ้งให้กรรมการการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้ง กรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งและกรรมการนับคะแนนทราบ
ทั้งนี้ กกต.จะจัดทั้งปากกาและตรายาง ไว้ให้ในคูหาเลือกตั้ง หากผู้ใช้สิทธิจะใช้ปากกาของตัวเองก็ใช้ได้ ไม่จำกัดสี เพียงแต่อย่าไปทำสัญลักษณ์อื่นนอกจากกากบาท มิเช่นนั้นจะเป็นบัตรเสีย สำหรับสปอตโฆษณารณรงค์ให้ใช้ตรายาง ซึ่งเป็นคำสั่งก่อนหน้านี้บางสปอตอาจจะสั่งระงับไม่ทัน แต่ขณะนี้ได้สั่งการแล้วให้งดสปอตโฆษณาดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่หลายฝ่ายยังแสดงความไม่สบายใจเกี่ยวกับยอดพิมพ์บัตรเลือกตั้งที่แท้จริง พล.ต.ต.เอกชัยตอบว่า บัตรเลือกตั้งทั้งแบบบัญชีรายชื่อ และแบบแบ่งเขต มียอดจำนวนทั้งสิ้น 49.5 ล้านใบ ซึ่งต้องพิมพ์เกินเผื่อไว้ประมาณ 3% ซึ่งเป็นไปตามหลักการ กระบวนการขั้นตอนของการพิมพ์กกต.ได้ส่งเจ้าหน้าที่ควบคุมตลอดทุกขั้นตอนและขอยืนยันว่าปลอมแปลงยาก สีบัตรเลือกตั้งส.ส.แบ่งเขตของแต่ละภาคก็มีสีแตกต่างกัน ส่วนบัตรเลือกตั้งส.ส.บัญชีรายชื่อเป็นสีแดงเหมือนกันทุกจังหวัด
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า จากที่กกต.ได้ข้อสรุปเบื้องต้นถึงจำนวนเขตที่มีพรรคไทยรักไทยเป็นผู้สมัครเพียงคนเดียว ที่ระบุว่าล่าสุดมีจำนวน 200 เขตนั้น ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวก็ได้ตรวจสอบความคืบหน้าเป็นรายเขตรายจังหวัดทั่วประเทศ โดยล่าสุดที่ผู้สื่อข่าวตรวจสอบนั้นมีจำนวนเพิ่มขึ้นจากวานนี้ (31มี.ค.) 254 เขต เป็น 261 เขต