นายกฯถึงไทยแล้ว เผย"อาเซม"เรียบร้อยดี ไม่ถูกรังเกียจ-ชี้มีชื่อกมธ.ยกร่างรธน.ในใจ-รับทราบ"เจ๊ยุ"ว๊าก
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ เดินทางถึงประเทศไทยหลังเยือนสาธารณรัฐอิตาลีเพื่อร่วมการประชุมผู้นำเอเชีย-ยุโรปด้วยเครื่องบิน TG 8881 ในเวลา 11.00 น. ที่ห้องรับรองวีไอพี สนามบินสุวรรณภูมิ
โดยกล่าวถึงการเดินทางครั้งนี้ว่า ได้พบปะกับผู้นำทุกประเทศในสหภาพยุโรปและอาเซียน ซึ่งในการหารืออย่างไม่เป็นทางการ ได้เข้าร่วมเป็น 1 ใน 4 ตัวแทนอาเซียน โดยในปี 2558 ไทยจะเป็นผู้ประสานความร่วมมือในการจัดประชุมร่วม ผู้นำเอเชีย-ยุโรป โดยเสนอถึงความพร้อมของอาเซียนในด้านอาหารและพลังงานทดแทน ซึ่งอนาคตไทยจะกลายเป็นแหล่งอาหารที่สำคัญของโลกจึงขอให้ประเทศต่างๆ สนับสนุนการวิจัย และสร้างเกษตรกรรุ่นใหม่เพื่อให้ราคาสินค้าดีขึ้น
ส่วนการพบปะกับผู้นำอาเซียนต่างๆ นั้น ได้เสนอให้ร่วมมือกันพัฒนาความเจริญของทุกประเทศไปพร้อมๆกัน นอกจากนี้ยืนยันว่าไม่มีการประท้วงตนเองระหว่างที่เดินทางเยือนในอิตาลี มีเพียงคนไทย 3-4 คน ที่เข้าร่วมกับการประท้วงที่เกิดขึ้นอยู่แล้ว
สำหรับการหารือเต็มคณะ ได้พูดคุยถึงการค้าการลงทุนและการเชื่อมโยงเส้นทางอาเซียนและยุโรป โดยเฉพาะเส้นทางรถไฟที่ไทยจะพัฒนาไปเชื่อมกับประเทศเพื่อนบ้าน ส่วนที่มีความกังวลคือการเตรียมพร้อมภายหลังสภาพอากาศเปลี่ยนแปลง การแพร่ระบาดของเชื้ออีโบล่า ซึ่งไทยจะต้องจัดการเตรียมความพร้อม โดยในอดีตไทยเคยแก้ปัญหาเรื่องโรคซาร์ได้ดี เพราะเหตุการณ์เหล่านั้นจะกระทบต่อเศรษฐกิจ
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรียังระบุว่า มีโอกาสชี้แจงสถานการณ์ในประเทศไทยให้ประเทศต่างๆ ได้รับทราบ และกล่าวว่าไทยพร้อมให้การสนับสนุนการค้าการลงทุนร่วมกับประเทศต่างๆ และถือว่าการเดินทางครั้งนี้ ได้รับการตอบรับที่ดีและไม่มีใครรังเกียจตน ไม่มีการพูดถึงการเข้ายึดอำนาจแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีกล่าวว่าพร้อมให้ความร่วมมือในทุกด้านกับประชาคมโลก ส่วนการยุติปัญหาความขัดแย้งภายในประเทศ ขอให้เป็นเรื่องภายในของไทยที่จะจัดการให้มีประชาธิปไตยอย่างถาวร
นอกจากนี้ ได้พบนายกรัฐมนตรีอังกฤษ โดยยืนยันว่าไม่มีปัญหาในเรื่องคดีเกาะเต่า ซึ่งทางอังกฤษจะส่งผู้สังเกตการณ์มาร่วมการดำเนินการคดี แต่ชาวอังกฤษบางคนยังคงมีความเข้าใจผิด จากการนำเสนอของสื่อก่อนหน้า จึงขอความร่วมมือสื่อมวลชนอย่าขยายความขัดแย้ง
ส่วนกรณีการจุดไฟเผาตัวของนางสังเวียน รักษาเพ็ชร์ นายกรัฐมนตรีระบุเข้าใจคนเป็นหนี้ ซึ่งได้มอบผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรีดูแลแล้ว และขอให้ประชาชนดำเนินชีวิตตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อลดการก่อหนี้ ทั้งนี้ ปัจจุบันมีศูนย์รับร้องเรียนจำนวน 4 แห่ง ได้แก่ ศุนย์ร้องเรียนทำเนียบรัฐบาล ศูนย์รับร้องเรียนของทุกกระทรวง ศูนย์ดำรงธรรม และศูนย์เชื่อมโยงบูราชนาการระหว่างประเทศโดยในอนาคตจะนำระบบ one-stop service เพื่อให้ง่ายต่อการรับร้องเรียนของประชาชน
พร้อมกันนี้ ได้กล่าวถึงเสียงวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของตน นายกรัฐมนตรีระบุว่าส่วนตัวไม่ได้รู้สึกท้อแท้ แต่จะนำสิ่งเหล่านั้นมาปรับปรุงการทำงาน และใช้เป็นแรงผลักดัน
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่าได้อ่านคำแนะนำของนางยุวดี ธัญญศิริ ผู้สื่อข่าวอาวุโสประจำทำเนียบรัฐบาลแล้วแต่ขอไม่กล่าวถึงรายละเอียด ส่วนคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญที่มาจาก คสช. และครม. นั้น มีบุคคลในใจแล้ว แต่ยังไม่ขอเปิดเผยข้อมูล