ได้โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊คชื่อ Jatuporn Prompan - จตุพร พรหมพันธุ์ ระบุถึงรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวว่า รัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวเป็นฉบับล็อคสเปค ซึ่งมีการตรามาตรา 35 ไว้โดยมี 10 วงเล็บ โดยหากจะทำการร่างรัฐธรรมนูญฉบับถาวร ต้องนำกรอบสิบกรอบนี้ไปปฏิบัติ และจะร่างกี่ครั้งก็ต้องออกมาแบบเดิมเพราะถูกล็อคไว้ด้วย 10 ข้อนี้ แต่ไฮไลค์อยู่ที่วงเล็บ 4 ที่กล่าวว่า ผู้ใดที่ต้องคดีเกี่ยวกับทุจริตเลือกตั้งและถูกตัดสิทธิทางการเมือง จากการยุบพรรคหรือต้องคำพิพากษาคดีทุจริต ไม่สามารถมาลงรับสมัครเลือกตั้งได้ ซึ่งจากข้อนี้ ต่อให้ผู้ที่ถูกตัดสิทธิทางการเมือง พ้นโทษมานานแล้วต้องหมดสิทธิลงเลือกตั้งไปตลอดชีวิต
ซึ่งหมายถึง ส.ส.และส.ว.ที่กำลังดำเนินการถอดถอนจากการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่มาของ ส.ว.ให้มีการเลือกตั้ง 100% ก็น่าจะไม่เหลือเหมือนกัน โดย ปปช.กำลังดำเนินการส่งเรื่องให้ สนช.จัดการ ทั้งนี้การล้างรุ่นนักการเมืองเป็นที่ชัดเจนว่า เป็นการล้างฝ่ายเดียว คือฝ่ายพรรคร่วมรัฐบาลทั้งสามรุ่น แต่ผมรู้ว่า หากใช้กติกานี้จนเดินไปสุดทาง สุดท้ายแล้วประชาชนจะรู้เองว่าจะต้องจัดการกันอย่างไร
นายจตุพร ระบุว่า เป็นการถอยหลังกลับปี 2475 ความคิดนี้เป็นความคิดตั้งแต่ 82 ปีที่แล้ว ซึ่งในความเห็นผม ถ้าในการเลือกตั้งสมาชิกผู้แทนราษฎร ไม่สามารถมีการเลือกตั้งได้ 100% ก็ไม่ควรที่จะคืนอำนาจให้กับเรา จากเดิมที่ประชาชนก็อึดอัดอยู่แล้ว จากการแต่งตั้ง ส.ว.จากรัฐธรรมนูญเดิม และจากที่ผู้แทนมี 500 คน แค่นั้นก็ดูแลประชาชนได้ไม่ครบถ้วนแล้ว แต่ในสูตรนี้ที่จะให้มีผู้แทนแค่จังหวัดละ 1 คน รวมเป็น 77 คน หลักการบริหารทำได้ยากมาก ผมไม่ได้มองทางเทคนิค แต่ผมมองว่าอำนาจสิทธิใดที่เป็นของประชาชน ถ้าถึงวันที่นัดหมายจะคืนให้กับเค้า ก็ควรคืนให้เค้าให้ครบไป